รีเซต

เปิดลิสต์ 10 พระราชวังที่สวยที่สุดในโลก วิจิตรตระการตา หลากหลายวัฒนธรรม

เปิดลิสต์ 10 พระราชวังที่สวยที่สุดในโลก วิจิตรตระการตา หลากหลายวัฒนธรรม
SummerB
1 ตุลาคม 2564 ( 20:00 )
5.9K

      การท่องเที่ยวไปรอบโลก สิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้ในทริปเลยก็คือการเข้าไปชมความงามของ พระราชวัง ซึ่งเปรียบสเมือนเป็นแลนด์มาร์คของประเทศนั้นๆ เลยค่ะ วันนี้เราเลยจะชวนทุกคนมาเปิดลิสต์ 10 พระราชวังที่สวยที่สุดในโลก แต่เราจะไม่เรียงตามลำดับนะคะ เพราะเราเชื่อว่าศิลปะและวัฒนธรรมของแต่ประเทศบนโลกต่างก็มีเอกลักษณ์และเสน่ห์ที่แตกต่างกันออกไป และควรค่าแก่การไปเยี่ยมชมและอนุรักษ์ให้อยู่กับเราไปนานๆ ค่ะ

 

ชมความงาม พระราชวังที่สวยที่สุดในโลก

 

 

1. Forbidden City

ประเทศจีน

 

 

     พระราชวังกู้กง หรือ พระราชวังต้องห้าม (Forbidden City) ตั้งอยู่ใน กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยราชวงศ์หมิง (Ming Dynasty) ปี ค.ศ. 1406 เพื่อเป็นที่ประทับของจักรพรรดิตลอดเรื่อยมาจนถึงราชวงศ์ชิง (Qing Dynasty) ราชวงศ์สุดท้ายของประวัติศาสตร์จีน รวมๆ แล้วก็มีอายุกว่า 500 ปีเลยทีเดียว ด้วยเนื้อที่กว่า 720,000 ตารางเมตร รวมอาคารทั้งหมด 980 หลัง 9,999 ห้อง ทำให้พระราชวังแห่งนี้ยิ่งใหญ่อลังการสมกับประวัติศาสตร์อันยาวนานของที่นี่จริงๆ ค่ะ

      ปัจจุบัน พระราชวังต้องห้าม กลายมาเป็น พิพิธภัณฑ์ราชวัง เพื่อให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวได้เข้าไปชมความงดงามอลังการของสถาปัตยกรรม รวมถึงมีการจัดแสดงวัตถุโบราณ และเรื่องราวในประวัติศาสตร์ราชวงศ์จีนให้ทุกคนได้ศึกษา โดยในแต่ละปีมีผู้เข้าชมความงามของพระราชวังแห่งนี้ตกเฉลี่ยปีละ 15,340,000 คนเลยทีเดียว 

 

พิกัด : https://goo.gl/maps/uwg9tHucVcB6anyN8 

==========

 

2. Potala Palace

ทิเบต

 

 

      พระราชวังโปตาลา (Potala Palace) ตั้งอยู่ใน กรุงซาลา เขตปกครองตนเองทิเบต ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศจีนค่ะ เป็นพระราชวังที่สร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 7 โดย พระเจ้าซรอนซัน กัมโป (Songtsa Gambo) แต่พระราชวังที่เราเห็นในปัจจุบันนั้นได้มีการบูรณะต่อเติมโดย องค์ทะไลลามะที่ 5 เมื่อปี ค.ศ. 1649 ด้วยอายุที่ยาวนานกว่า 1,300 ปี ทำให้ที่นี่ได้ขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกเมื่อปี ค.ศ. 1994 โดย UNESCO

      เอกลักษณ์อันโดดเด่นของที่คือ ตัวอาคารสีแดงตัดกับสีเหลืองและขาวนวล ด้านในเป็นโรงเรียนสอนศาสนาขนาดใหญ่ มีทั้งหมด 1000 ห้องพัก ศาลเจ้านับไม่ถ้วน และรูปปั้นขนาดใหญ่ เดิมเคยเป็นที่พำนักขององค์ดาไลลามะ แต่หลังจากเกิดเหตุจราจลในทิเบตเมื่อปี ค.ศ. 1959 ที่นี่จึงกลายมาเป็นพิพิธภัณฑ์ให้ผู้คนเยี่ยมเช้า

่อ่านรีวิวเต็มๆ ที่ เยือนหลังคาโลก ทิเบต พระราชวังโปตาลา Potala Palace สถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งทิเบต

 

พิกัด : https://goo.gl/maps/ungo3AJwynnuRZjK6 

==========

 

3. พระบรมมหาราชวัง

ประเทศไทย

 

พระบรมมหาราชวัง Grand Palace ที่เที่ยวกรุงเทพ

 

     เชื่อว่าทุกคนคงคุ้นเคยกับ พระบรมมหาราชวัง (Grand Palace) ของไทยเราดี ที่นี่สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2325 ในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 พร้อมกันการสถาปนา กรุงเทพมหานคร ให้เป็นราชธานี และเคยเป็นที่ประทับของพระมหากษัตริย์ในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ แต่ในปัจจุบัน ที่นี่กลายเป็นสถานที่ประกอบพระราชพิธีสำคัญ รวมถึงเป็นที่ตั้งของ วัดพระแก้ว หรือ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ที่ประดิษฐานของ พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร หรือ พระแก้วมรกต นั่นเองค่ะ  

 

 

       ด้วยความวิจิตรงดงาม เปี่ยมไปด้วยเอกลักษณ์ความเป็นไทย จึงทำให้พระบรมมหาราชวังแห่งนี้นับเป็นหนึ่งในพระราชวังที่สวยที่สุดในโลก และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังที่มีผู้คนเช้าชมตกเฉลี่ยปีละ 8,000,000 เลยทีเดียวค่ะ

อ่านรีวิวเต็มๆ ที่ วัดสวย กรุงเทพ วัดพระแก้ว วัดพระศรีรัตนศาสดาราม วัดคู่บ้านคู่เมืองไทย แห่งรัตนโกสินทร์

 

  • ที่อยู่ : ถนนหน้าพระลาน แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพฯ
  • พิกัด : https://goo.gl/maps/PPNJHNWRpdtsP8Jd7
  • เปิดให้เข้าชม : 08.30-15.30 น.
  • โทร : -
  • เว็บไซต์ : https://www.royalgrandpalace.th

==========

 

4. Mysore Palace

อินเดีย

 

 

      เมืองไมซอร์ (Mysore) ประเทศอินเดีย เป็นที่ตั้งของพระราชวังและโบราณสถานหลายแห่งที่มีความสำคัญต่อประวัติศาสตร์อินเดีย แต่ที่มีชื่อเสียงที่สุดคือ พระราชวังไมซอร์ (Mysore Palace) พระราชวังสีเหลืองนวล โดดเด่นด้วยโดมสีแดงด้านบนอาคาร พระราชวังที่เราเห็นในปัจจุบันสร้างขึ้นใหม่หลังจากเกิดเหตุไฟไหม้ในปี ค.ศ. 1897 ก่อนจะแล้วเสร็จเมื่อปี ค.ศ. 1912 เมื่อเข้าสู่ เทศกาลดาซารา (Dasara Festival) ที่จะตัดในช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคมของทุกปี ทั่วทั้งพระราชวังจะประดับไปด้วยดวงไฟถึง 10,000 ดวง เนรมิตให้พระราชวังไมซอร์แห่งนี้เปล่งประกายงดงามในยามค่ำคืน

 

Sarath maroli / Shutterstock.com

 

พิกัด : https://goo.gl/maps/UD6jhixeZC16ykmW6 

==========

 

5. Winter Palace

รัสเซีย

 

 

     พระราชวังฤดูหนาว หรือ Winter Palace โดดเด่นด้วยอาคารสีมิ้นท์สดใสตัดกับสีขาว และลวดลายสีทองดูวิจิตรงดงาม ที่นี่เคยเป็นที่ประทับของจักรพรรดิรัสเซียตั้งแต่ปี ค.ศ. 1732 ยาวนานมาจนถึงปี ค.ศ. 1917 ในสมัยราชวงศ์โรมานอฟ ราชวงศ์สุดท้ายของจักรวรรดิรัสเซียนั่นเองค่ะ ปัจจุบันได้เปิดเป็นพิพิธภัณฑ์พระราชวัง โดยจะจัดแสดงศิลปวัตถุล้ำค่าของราชวงศ์ที่สืบทอดกันมาหลายยุคสมัยให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชมค่ะ

 

พิกัด : https://goo.gl/maps/fX3Kg5jVwenz8tz77 

==========

 

6. Topkapi Palace

ตุรกี

 

 

      พระราชวังโทพคาปี (Topakapi Palace) ถือเป็นหนึ่งในพระราชวังที่สวยที่สุดในโลก และยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศตุรกี สร้างขึ้นหลังจากที่ องค์สุลต่านเมห์เหม็ด (Sultan Mehmet) แห่งจักรวรรดิออโตมันได้ยึดครอง คอนสแตนติโนเปิล (Constantinople) ของจักรวรรดิโรมันเมื่อปี ค.ศ. 1453 ก่อนจะถูกใช้ให้เป็นที่ประทับของสุลต่านของจักรวรรดิออโตมันตั้งแต่ปี ค.ศ. 1465 จนถึง 1853 ส่วนปัจจุบันที่นี่ได้เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปชมความงามของลวดลายสุดวิจิตรประณีตที่สะท้อนถึงเอกลักษณ์ของตุรกีได้เป็นอย่างดี

 

Resul Muslu / Shutterstock.com

 

พิกัด : https://goo.gl/maps/eQFbND53Nqy9KL3NA 

==========

 

7. Pena Palace

โปรตุเกส

 

 

      บนยอดเขา Serra de Sintra เป็นที่ตั้งของ พระราชวัง Pena Palace หรือ Pala'cio Nacional da Pena หนึ่งในมรดกโลกแห่ง เมืองซิงตรา (Sintra) ประเทศโปรตุเกส เดิมเป็นโบสถ์เก่าแก่ที่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 15 แต่หลังจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อปี ค.ศ. 1755 โบสถ์แห่งนี้ก็พลังทลายลงจนเหลือเพียงแค่ซากปรักหักพัง จนกระทั่งปี ค.ศ. 1838 กษัตริย์ Ferdinand Saxe-Coburg-Gotha ก็ได้สร้างพระราชวังขึ้นใหม่แทนที่โบสถ์หลังเดิมด้วยสถาปัตยกรรมแบบโรแมนติก (Romanticism) ทาด้วยสีเหลือง แดง น้ำเงิน ม่วง ดูฉูดฉาด สดใส แล้วเสร็จเมื่อปี ค.ศ. 1854 รอบๆ ตัวพระราชวังเต็มไปด้วยพรรณไม้นานาชนิดจากทั่วโลก ทำให้ที่นี่กลายเป็นหนึ่งในจุดหมายในฝันที่นักท่องเที่ยวอยากจะมาชมความงามให้เห็นกับตาสักครั้ง 🏰

 

พิกัด : https://goo.gl/maps/FHdeRvLaD6Y7KhDt9 

==========

 

8. Schonbrunn Palace

Austria

 

 

      พระราชวังเชินบรุนน์ (Schoenbrunn Palace) คือพระราชวังอันยิ่งใหญ่ของราชวงศ์ฮับส์บวร์ก (House of Habsburg) สร้างขึ้นปลายศตวรรษที่ 17 โดยจักรพรรดิลีโอพอลด์ที่ 1 (Emperor Leopold I) ของออสเตรีย ด้วยสถาปัตยกรรมแบบบาโรค (Baroque) ที่นี่เคยเป็นที่ประทับของจักรพรรดิราชวงศ์ฮับส์บวร์กหลายพระองค์ จนกระทั่งถึงสมัยของ จักรพรรดินีมาเรีย เทเรซา (Maria Theresa) พระราชวังแห่งนี้ก็ได้เปลี่ยนสถานะเป็นพระราชวังฤดูร้อน แต่ก็ยังคงความงดงามและยิ่งใหญ่เอาไว้เช่นเดิม จนกระทั่งเมื่อปี ค.ศ. 1996 พระราชวังแห่งนี้ก็ได้รับการขึ้นทะเบียนจาก UNESCO ให้เป็นมรดกโลก และมีผู้เข้าชมมากถึง 2,870,000 คนต่อปีเลยทีเดียวค่ะ

 

พิกัด : https://goo.gl/maps/ohmV4ajrPSiQssby9 

==========

 

9. Chateau de Chambord

ฝรั่งเศส

 

 

          ต้องบอกก่อนว่าที่มาของ ปราสาทแชมบอด์ (Chateau De Chambord) แห่งนี้ไม่ธรรมดาเลยค่ะ เพราะที่นี่ถูกสร้างขึ้นเพียงเพื่อเป็นกระท่อมล่าสัตว์ของ พระเจ้าฟร็องซัวส์ที่ 1 (King Francis I) แห่งฝรั่งเศสไปล่าสัตว์ แต่ดูจากความยิ่งใหญ่อลังการแล้ว ที่นี่ก็คือพระราชวังดีๆ นั่นเองค่ะ ความเก่าแก่และงดงามทำให้ที่นี่ได้รับการขึ้นทะเบียนจาก UNESCO ให้เป็นมรดกโลก แถมยังเป็นแรงบันดาลใจของ ปราสาทของอสูร (The Beast’s Castle) ในการ์ตูนดิสนีย์อย่าง Beauty and the Beast (1991) อีกด้วยค่ะ ในการ์ตูนว่าสวยขนาดไหน ของจริงคือสวยกว่าร้อยเท่าเลย

 

พิกัด : https://goo.gl/maps/PxDbSFCp6Z72td537 

==========

 

10. Alhambra

สเปน

 

 

     สุดท้ายคือ พระราชวังอัลฮัมบรา (Alhambra Palace) ที่เมืองกรานาด้า ประเทศสเปน เป็นพระราชวังและป้อมปราการที่สร้างขึ้นตั้งแต่ช่วงศตวรรษที่ 14 โดยกษัตริย์ชาวมัวร์ ซึ่งมีอายุยาวนานกว่า 600 ปีมาแล้ว ด้านในตกแต่งด้วยสถาปัตยกรรมที่วิจิตรงดงาม และสวนที่เต็มไปด้วยแมกไม้นานาพันธุ์ จึงไม่แปลกใจเลยว่าเหตุใดที่นี่จึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่รองรับนักท่องเที่ยวมากมายจากทั่วโลก อีกทั้งยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจาก UNESCO เมื่อปี ค.ศ. 1984 อีกด้วย

 

พิกัด : https://goo.gl/maps/FwT8TzfcshUiyLAe8 

 

 

ตามติดเทรนด์เที่ยว อัพเดทที่พักสวย
แชร์ทริปสุดชิล โพสต์ภาพสุดปัง ของคุณได้แล้วที่ แอปทรูไอดี
คลิกเลย >> TrueID Travel Community <<