เมื่อพูดถึงนิวยอร์ก หรือที่หลายคนเรียกสั้น ๆ ว่า NYC (New York City) เชื่อว่าคงเป็นเมืองในฝันของใครหลายคนที่อยากจะได้มีโอกาสมาเยือนซักครั้งในชีวิต โดยนิวยอร์กมีสถานที่ท่องเที่ยวดัง ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็น Liberty Island ที่มีเทพีเสรีภาพตั้งตระหง่านอยู่ Central Park สวนสาธารณะขนาดใหญ่ใจกลางแมนฮัตตัน Time Squares แหล่งชอปปิ้งและศูนย์รวมโรงละคร หรือสถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิปที่พึ่งเปิดตัวไปไม่นานอย่าง The Vessel แน่นอนว่านักเดินทางที่มาท่องเที่ยวด้วยตัวเอง แบบไม่ง้อทัวร์ หรือที่เรียกว่า ทริปบ่มีไกด์ นั้น ย่อมต้องวางแผนการเดินทางกันมาล่วงหน้า และสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยในแผนการเดินทาง คือ ยานพาหนะ ที่ใช้เดินทาง ซึ่งนักเดินทางท่องเที่ยวส่วนใหญ่มักวางแผนการเดินทางด้วยรถขนส่งสาธารณะ จำพวกรถโดยสารประจำทาง หรือรถไฟใต้ดิน มากกว่าที่จะใช้บริการรถแท็กซี่ เหตุผลหลัก ๆ เพราะต้องการประหยัดเงินในกระเป๋านั่นเอง ในบทความนี้ผู้เขียนจะมาบอกเล่าประสบการณ์การเดินทางท่องเที่ยวนิวยอร์กด้วยนั่งรถไฟใต้ดิน (New York City Subway) ที่ต้องเอามาแชร์ก็เพราะว่ามันมีความระทึกใจ หฤหรรษ์ และพิศวงอย่างไม่น่าเชื่อ ถือได้ว่าเป็นประสบการณ์ที่ยากจะลืมเลือนในการมาเที่ยวนิวยอร์กครั้งแรกเลยค่ะ (ภาพทางเข้าสถานี ถ่ายโดยผู้เขียน: Little Rabbit) ลำดับแรกของความหฤหรรษ์ คือ การตัดสินใจลงสถานีให้ถูกฝั่งค่ะ ซึ่งปกติเราจะต้องดูใช่มั๊ยคะว่าสถานีที่เราจะไปต้องขึ้นรถไฟฝั่งไหน เพื่อที่จะได้นั่งรถไฟให้ถูกสายถูกคัน ซึ่งปกติประเทศอื่น ๆ เท่าที่เคยไปสัมผัสมาอย่างเกาหลี จีน ไต้หวัน ฮ่องกง ลอนดอน หรือแม้แต่ที่ไทยเราเอง จะมีแผนที่บอกปลายทางว่าสายนี้วิ่งไปสุดสายปลายทางที่ไหน เช่น MRT บ้านเราจะบอกว่าปลายทางฝั่งนี้ คือไปหลักสอง อีกฝั่งนึงไปท่าพระ แต่สำหรับ New York City Subway บอกแค่นั้นมันธรรมดาไปค่ะ มันไม่ท้าทายความสามารถของนักเดินทางผจญภัยแบบเรา ดังนั้นเมื่อเราเดินมาจนถึงทางลงไปรถไฟใต้ดินที่นี่จึงมีป้ายบอกเราแค่ว่าฝั่งนี้วิ่งไป Inbound และอีกฝั่งวิ่งไป Outbound ไม่มีปลายทางที่ท่านจะไปปรากฎให้เห็น ซึ่งหรรษามาก ๆ ค่ะ ถ้าลงไปผิดฝั่ง ก็ต้องย้อนกลับมาด้านบนใหม่ เอาเป็นว่าใครจะไปนิวยอร์ก แล้วตัดสินใจว่าจะเดินทางท่องเที่ยวด้วยรถไฟใต้ดิน ให้ปักหมุดในแผนที่ตรงใจกลางเมืองแมนฮัตตันไว้ค่ะ เอาแถว ๆ Time Squares เป็นหลัก จากนั้นปักหมุดตัวเองว่าปัจจุบันอยู่ตรงไหน และทริค คือ ถ้าจะไปสถานที่ที่อยู่ในเมือง คือจากจุดที่เราอยู่มุ่งหน้าไปยัง Time Squares จงลงหลุมสถานีฝั่ง Inbound (เข้าเมือง) แต่ถ้าจากจุดที่เราอยู่ แล้วจะไปที่ที่วิ่งออกห่างจาก Time Squares จงลงหลุมสถานีฝั่ง Outbound (ออกเมือง) งงมั๊ยคะ ถ้างงต้องลองไปเปิดประสบการณ์ด้วยตัวเองดูค่ะ แล้วจะรู้ว่าความเป็นจริงมันงงกว่าที่อ่านมามากจริง ๆ เอาเป็นว่าตอนนี้ทุกท่านลงรถไฟถูกฝั่งกันแล้วก็แล้วกันนะคะ สิ่งที่จะปรากฎสู่สายตาท่านในลำดับถัดมา คือ สถานีรถไฟ ที่สร้างมา 100 กว่าปี ที่ทั้งสกปรก ทั้งมืด ทั้งเหม็น ขยะเกลื่อนกลาด บางสถานีที่ออกนอกเมืองไปหน่อย แทบจะร้างผู้คน ผู้เขียนไปยืนรอรถไฟอยู่กับน้องที่ไปด้วยแล้วคุยกันว่า เอาจริง ๆ นะ ถ้าเราสองคนถูกฆ่า แล้วหมกไว้ที่สถานีนี้ อาจไม่มีใครรู้จนกระทั่งอีก 10 ปีต่อมาก็ได้ ซึ่งสภาพสถานีรถไฟใต้ดินของนิวยอร์กนี้ช่างแตกต่างกับความ Civilized ของเมืองยิ่งนัก (ภาพด้านในสถานี ถ่ายโดยผู้เขียน: Little Rabbit) พอกลั้นใจเข้าสถานีมาได้ ถัดไปก็ต้องซื้อบัตรรถไฟ เนื่องจากผู้เขียนไปเที่ยวนิวยอร์กหลายวัน เลยเลือกซื้อบัตรรถไฟเป็นแบบบัตรเติมเงิน แต่บัตรรถไฟเติมเงินของที่นิวยอร์กไม่ได้มาในรูปบัตรแข็งแบบบัตร Rabbit หรือบัตร MRT บ้านเรา หรือแบบบัตรรถไฟประเทศอื่น ๆ แต่มาในรูปของบัตรกระดาษที่มีความอ่อนตัวมากถึงมากที่สุด และวิธีการเข้าสถานี ก็ไม่ใช่ใช้แตะธรรมดา ๆ แล้วประตูจะเปิดปรื๊ดให้เราเดินผ่านไปสวย ๆ นะคะ ที่นี่นิวยอร์กค่ะ ต้องใช้การ swipe หรือรูดเอา ซึ่งถ้ารูดไม่ได้จังหวะ เร็วไปช้าไป ประตูมันก็ไม่เปิด ก็ต้องยืนรูดมันอยู่อย่างนั้นแหละ จนบัตรรถไฟจะขาดกันไปเสี้ยวนึงละโธ่ ผู้เขียนเป็นคนนึงที่มีปัญหากับการรูดบัตรรถไฟเข้าสถานีมาก เข้า ๆ ออก ๆ เป็น 10 เที่ยว ยังจับจังหวะการรูดไม่ได้ ร้อนถึงชาวนิวยอร์กเกอร์ที่ต้องมาช่วยแนะนำให้บางครั้ง แต่ผู้เขียนก็ยังคงรักษาสภาพบัตรรถไฟไว้ได้ตลอดช่วงเวลาที่อยู่นิวยอร์กนะคะ ข้ามเรื่องการยืนรอรถไฟท่ามกลางความน่ากลัว มืดสลัวไป รถไฟของเรามาแล้วค่ะ เอ้าขึ้น ขึ้นไปแล้วเลือกที่นั่งดี ๆ นะคะ คอยสังเกตผู้คนที่ท่าทางหน้าตาไม่น่าไว้วางใจด้วย ซึ่งมีเยอะมาก แล้วก็นั่งห่าง ๆ เค้าซัก 3 เมตรละกันพอเป็นมารยาท สภาพบนรถไฟก็เก่า ๆ ค่ะ แถมรถไฟบางสาย ไม่มีประกาศบอกแบบบ้านเราด้วยว่าถึงสถานีไหนแล้ว ไม่มีเสียงคนประกาศไม่ว่า นี่ไม่มีป้ายตัววิ่งบอกสถานีในรถด้วย โอ้มายก็อดด ทางเดียวที่จะรู้ได้ว่าถึงสถานีไหนแล้ว คือ ต้องเล็งเอาเวลารถจอดป้ายค่ะ ซึ่งทำให้เราต้องมีสติตื่นตัวตลอดเวลา จะมานั่งฟังเพลง เม้ามอยกับเพื่อนชิล ๆ หรือหลับนี่ทำไม่ได้เด็ดขาด หรือแม้แต่จะนั่งในมุมที่เมื่อรถจอดแล้วมองออกไปไม่เห็นป้ายชื่อที่สถานีก็ทำไม่ได้ค่ะ เสี่ยงต่อการลงผิดสถานีมาก ๆ (ภาพขบวนรถไฟ ถ่ายโดยผู้เขียน: Little Rabbit) เมื่อเรามีสติ เป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน สามารถลงรถไฟได้ถูกสถานีแล้ว เราต้องมามีขันติกับทางออก (Exit) ของที่นี่กันต่อค่ะ เพราะทางออกที่นี่ไม่ได้ถูกเขียนไว้แบบ Exit 1,2,3,4 ตามด้วยว่าออก Exit นี้ไปแล้วจะเจอสถานที่อะไร เช่น Exit 2 - ห้าง Terminal 21 แต่ Exit ที่นี่นิวยอร์กเขียนว่า South East / South West / North East / North West อยากจะเอิ่มมมมมมไปให้ถึงทำเนียบขาว คือยังไงคะต้องพกเข็มทิศไปด้วยงี้เหรอ ขันติค่ะ ท่องไว้ โกรธคือโง่ โมโหคือบ้า แนะนำให้สูดหายใจเข้าลึก ๆ หายใจออกยาว ๆ หยิบแผนที่เมืองขึ้นมาดูประกอบการตัดสินใจ ถ้าตัดสินใจไม่ได้ ก็ลองมั่ว ๆ ออกซัก Exit ไปก่อน พอโผล่ขึ้นมาด้านบนได้ หาจุดที่น่าจะอยู่ในแผนที่ แล้วก็เริ่มตั้งต้นดูแผนที่ใหม่อีกครั้ง (นี่เรียกคำแนะนำจริง ๆ ใช่มั๊ยนะ) (ภาพป้ายสถานี ถ่ายโดยผู้เขียน: Little Rabbit) เมื่อรอดชีวิตจากรถไฟใต้ดินแล้ว สิ่งที่ควรระวังอีกอย่างเวลานั่งรถไฟใต้ดินที่นิวยอร์ก คือ ตารางการวิ่งของรถไฟที่นี่มีความอินดี้สูงมาก นึกจะหยุดให้บริการก็หยุดซะงั้น หรือบางครั้งก็ปิดเร็ว ซึ่งปกติเค้าจะตั้งป้ายเขียนบอกไว้ล่วงหน้าแหละ แต่ถ้ามันเป็นสถานีที่เราไม่ได้ผ่าน หรือไม่ได้ขึ้นบ่อย ๆ ล่ะ ใครมันจะไปรู้คะ นี่เจอกับตัวเองเลยค่ะ วันที่จะออกจากนิวยอร์ก เพื่อไปขึ้นรถบัสต่อไปวอชิงตัน ดีซี สายที่วิ่งจากที่พักเข้าแมนฮัตตัน (Inbound) ปิดจ้า ยังไม่มืดด้วยนะ น่าจะประมาณบ่ายสองโมงเท่านั้นแหละ ความรู้สึกตอนนั้นคือเคว้งคว้างมาก และทำให้ผู้เขียนไม่มีทางเลือกต้องนั่งรถไฟสายอื่นย้อนไปตั้งต้นที่ฝั่ง Queens แล้วสลับอีกสายเพื่อจะเข้าแมนฮัตตันให้ได้ ซึ่งทำให้เกือบตกรถบัสไปวอชิงตัน ดีซี แบบฉิวเฉียด ดีนะที่เผื่อเวลาไว้ค่อนข้างมาก ไม่งั้นคงต้องได้สงบจิตสงบใจอยู่นิวยอร์กต่ออีกวันแน่ ๆ อ่านถึงตรงนี้ไม่รู้ว่าผู้อ่านหลายคนจะเริ่มวิตก หรือกลัวการขึ้นรถไฟใต้ดินนิวยอร์กกันหรือยังคะ ต้องขอบอกว่าอย่ากังวลเลยค่ะ เรามาเที่ยว ก็เหมือนกับมาผจญภัยในที่ที่ไม่เคยมา เจออะไรเข้ามา ก็รับมือปรับตัวไปตามสถานการณ์ คิดซะว่าเป็นประสบการณ์แปลกใหม่ที่เคยได้สัมผัสมาครั้งนึงในชีวิตละกันค่ะ ทิ้งท้ายไว้ว่าสิ่งที่ประทับใจเรื่องการเดินทางที่นิวยอร์ก คือ เค้าวางผังเมืองดี ถนนจะมีการไล่เลข เรียงตามตัวอักษร แบ่งฝั่ง East / West ชัดเจน ฉะนั้นถ้ามีแผนที่เมือง สามารถเดินไปไหนมาไหนได้ ไม่มีงง ไม่มีหลงแน่นอนค่ะ และจะรู้ได้ทันทีว่าจากจุดที่เราอยู่จะไปอีกที่นึง มันห่างไปกี่ถนน กี่บล็อค จะได้มีกำลังใจในการเดินด้วยสองเท้าของเรา ในกรณีที่ตัดสินใจว่าไม่นั่งแล้วรถไฟใต้ดินนิวยอร์ก .....