คุณเคยได้ยินคำกล่าวที่ว่า "ชีวิตสั้น ศิลปะยืนยาว" ไหมคะ ถ้าคุณเคยได้ยิน คุณต้องรู้จักอาจารย์ศิลป์ พีระศรี ท่านเป็นคณบดีคนแรกของมหาวิทยาลัยศิลปากร มหาวิทยาลัยด้านศิลปะชื่อดังแห่งหนึ่งของประเทศไทย เราเองไม่ได้เรียนที่มหาวิทยาลัยศิลปากร แต่เราเรียนจบจากสาขาวิชาเอกประวัติศาสตร์ ที่มหาวิทยาลัยทางภาคเหนือ ลึก ๆ แล้วเราจึงมีความสนใจในทุกเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ และเราเป็นคนชอบอ่านหนังสือ เราเคยอ่านหนังสือและได้เจอคำพูดนี้และจำคำพูดนี้ได้ประโยคที่ว่า "ชีวิตสั้น ศิลปะยืนยาว" ติดในใจเราจนเราหาอ่านหนังสือเกี่ยวกับท่าน Corrado Feroci คือ ชื่อในภาษาอิตาเลี่ยน ของอาจารย์ศิลป์ พีระศรี ท่านเป็นประติมากรจากเมืองฟลอเรนซ์ อิตาลี เข้ามารับราชการในประเทศไทยตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 6 อาจารย์ศิลป์ ได้รับยกย่องว่าเป็นผู้มีคุณูปการอย่างมาก เกี่ยวกับศิลปะรูปแบบตะวันตกในประเทศไทย มีผลงานเป็นที่กล่าวขานมากมายที่เด่น ๆ อาทิเช่น พระบรมราชานุสาวรีย์ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรี อนุเสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และอนุเสาวรีย์ประชาธิปไตย ท่านได้รับการยกย่องว่าเป็นปูชนียบุคคลสำคัญ คนหนึ่งของประเทศไทย ช่วงบั้นปลายชีวิตของท่าน เป็นช่วงของสงครามโลกครั้งที่ 2 ท่านได้เปลี่ยนสัญชาติเป็นสัญชาติไทยเรื่องราวรายละเอียดน่าสนใจมาก ลองไปหาข้อมูลอ่านกันนะคะ เราคงบรรยายไม่หมด แต่อยากให้ทุกท่านลองไปหาอ่านกัน มาค่ะเราจะเข้าเรื่องแล้วว่าทำไมเราถึงได้ไปที่ บ้านอาจารย์ฝรั่ง เอาจริง ๆ เป็นเพราะว่าเราอ่านมาเยอะ แล้ววันนั้นเราว่างมากโดนเบี้ยวนัด ช่วงนั้นเราย้ายมาจากต่างจังหวัดได้ระยะเวลาประมาณนึง เราตั้งใจอยู่แล้วว่าจะเก็บสถานที่ทุกที่ ที่เราเคยอยากไปตามดู แล้วที่นี่อยู่ไม่ไกลจากที่พักปัจจุบันของเรา เราเลยได้ทำการนั่งรถเมล์ สาย 18 ไปลงที่นี่เลย บ้านอาจารย์ฝรั่ง ซึ่งเคยอ่านเจอว่าเปิดเป็นร้านกาแฟ บรรยากาศดี ตั้งอยู่แถวสะพานซังฮี้ นี่เอง ตามเรื่องราวที่เราได้อ่านมาและจำได้ เดิมที่นี่เคยเป็นบ้านพักของอาจารย์ศิลป์กับครอบครัว ช่วง 8 ปีแรกที่ย้ายมาอยู่ในประเทศไทย ช่วงแรกที่ท่านเข้ามารับราชการ พอมาถึงลงจากรถเมล์ปลายสะพานซังฮี้แล้วหาไม่ยากเลยค่ะ บ้านหลังนี้ทาสีเหลืองสะดุดตา สร้างในสไตล์ไทยผสมวิคตอเรียนโกธิค ที่นี่จะมี 2 ชั้นนะคะ ชั้น 1 เป็นร้านกาแฟ ชั้น 2 เป็นนิทรรศการเกี่ยวกับท่านอาจารย์ศิลป์ พีระศรี ที่นี่ตกแต่งค่อนข้างชิล มีความเป็นเอกลักษณ์มากค่ะ มีบรรยากาศสบาย ๆ เปิดเพลงสากลคลอ ๆ คนไม่แน่นมากในวันที่เราไป เป็นช่วงสิบโมงกว่า ๆ ก็มีคนมานั่งทำงาน หรือนั่งคุยกันอยู่หลายโต๊ะ แต่ไม่แน่นมาก เราสั่งชามะนาวมานั่งจิบ ๆ ราคาประมาณนึงนะคะ ก็พอเหมาะสำหรับคนเสพงานศิลป์ เราไปคนเดียว ค่อนข้างเสียดายที่เรานั่งได้ไม่นานก็มีคนเริ่มเข้ามาเยอะมาก ทำให้โต๊ะเริ่มเกือบเต็มทุกโต๊ะ เราเลยไม่กล้าลุกเดินไปไหน จิบชาฟังเพลงสักพักก็ลุกไปชำระเงิน ถ้าหมด โควิด-19 แล้วมีโอกาสได้ไปอีกครั้ง คิดว่าจะไม่พลาดขึ้นไปดูนิทรรศการที่ชั้น 2 แน่ ๆ ค่ะ ถ้าใครมีเพื่อนหรือคนรู้ใจ ถ้าหมดโควิท-19 แล้วก็อย่าลืมพากันไปชมนิทรรศการเกี่ยวกับอาจารย์ศิลป์ หรือถ่ายรูปเล่นกันนะคะ ขอกระซิบอีกอย่างว่า ที่เค้าว่ากันว่าบาริสต้าของที่นี่แซบนั่น เราคอนเฟิร์มนะคะว่าเป็นเรื่องจริง เหมือนทุกคนจะเป็นศิษย์เก่าศิลปากร บุคลิกท่าทางดูเป็นหนุ่มฮิป ๆ เท่ ๆ กร้าวใจอยู่พอสมควรเลย ไปพิสูจน์กันนะคะ ถ้าร้านเปิดแล้ว แล้วอย่าลืมมาคอมเม้นท์เล่าให้นักเขียนฟังบ้างนะคะ เราเองก็คิดว่าถ้าโควิด-19 หมดจะไปอีกรอบค่ะ หนนี้เรามีแฟนแล้วจะพาแฟนไปด้วยจะได้ขึ้นไปชมนิทรรศการที่ชั้น 2 อย่างสบายใจ เดี๋ยวมาเล่าให้ฟังใหม่ ขอบคุณที่อ่านกันมาถึงตรงนี้นะคะ เดี๋ยวเจอกันในบทความหน้าค่ะ Bye Bye. ************************************************************** ชื่อร้าน : Craftsman x บ้านอาจารย์ฝรั่ง พิกัดร้าน : ถ. ราชวิถี เชิงสะพานซังฮี้ เวลา เปิด - ปิด : 7.00 - 20.00 น. Fan Page : www.fb.com/craftsmanroastery ************************************************************** **ทุกรูปในบทความนี้ถ่ายโดยนักเขียนเอง ถ่ายจาก App ถ่ายรูปฟิล์มในไอโฟน จริง ๆ สถานที่มีมุมถ่ายรูปเยอะมาก อยากให้ลองไปชมสถานที่จริงด้วยตัวเองดูนะคะ ข้อมูลส่วนใหญ่ในบทความนี้มาจากการอ่านหนังสือหลาย ๆ เล่มของนักเขียนตอนสมัยเรียน ถ้าสนใจสามารถหาอ่านหนังสือชีวประวัติของท่านอาจารย์ศิลป์ พีระศรี ได้ทั่วไปค่ะ **