“เก็บเรื่องมาเล่า โดยหนุ่ม สุทน” สุขสันต์วันพุธที่ 26 กุมภาพันธ์ 2563 เข้ามาเดือนที่ 2 ของปี พ.ศ. 2563 ครับ แต่หนุ่ม-สุทนไม่หยุดนิ่ง เดินทางตลอดเพื่อเก็บประสบการณ์สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย แล้วเขียนเรื่องเล่าให้แฟนเพจนักอ่านทุกท่าน เพื่อได้ข้อมูลสำหรับไปท่องเที่ยวกันเองนะครับ วันนี้เก็บเรื่องราวของ “ค่ายบางกุ้ง” จ.สมุทรสงคราม พาฝากทุกท่านครับ เล่าเรื่องราวของประวัติศาสตร์ค่ายบางกุ้ง เทศบาลตำบลบางกุ้ง อ.บางคนที จ.สมุทรสงคราม ปัจจุบันเป็นสถานที่ท่องเที่ยว Unseen Thailand ทำไมจึงกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของนักท่องเที่ยวหรือคนชอบศึกษาประวัติศาสตร์ครับ หนุ่ม-สุทน จะเล่าเรื่องให้ฟัง ตามมาอ่านได้เลย ชุมชนบ้านบางกุ้งหรือที่เรารู้จักคือค่ายบางกุ้งเมืองสมุทรสงครามเมื่อครั้งก่อน! ตั้งแต่กรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี บ้านเรือนที่ตั้งอยู่ส่วนใหญ่ อยู่ริมแม่น้ำแม่กลองอุดมสมบูรณ์ด้วยทรัพยากรใต้น้ำโดยเฉพาะกุ้งแม่น้ำตัวโต ๆ ก้ามใหญ่ ๆ ส่วนคลองแควอ้อมเป็นเส้นทางสายน้ำล่องเรือไปออกเมืองราชบุรีได้ครับ เมื่อ 2 ลำน้ำ มากด้วยทรัพยากรทั้งในน้ำและบนบก ช่วงเวลาน้ำลงหรือน้ำเอ่อเป็นภาษาท้องถิ่นแต่ที่มาเรียกหัวน้ำขึ้นคนโบราณจะบอกว่า น้ำขึ้นให้รีบตัก ฮ่า ๆ ที่นี่น้ำจะขึ้นให้รีบจับกุ้งครับ ชาวบ้านจะออกมาดำน้ำเพื่อจับกุ้งตัวใหญ่ ๆ จับได้ทุกวันจ้า จึงกลายเป็นชื่อเรียกขาน “บ้านบางกุ้ง” ต่อมาเมื่อครั้งแผ่นดินสมเด็จพระเจ้าเอกทัศน์แห่งกรุงศรีอยุธยาเกิดศึกสงครามต่อเนื่องจากกรุงศรีอยุธยามาถึงเมืองสมุทรสงครามหรือแม่กลอง จึงได้จัดสร้างค่ายบริเวณนี้ เพื่อสกัดกั้นกองทัพพม่าสมัยนั้นและให้เรียกค่ายบางกุ้ง ตามชื่อชุมชน แล้วเมื่อชาวสยามหรือชาวกรุงศรีอยุธยาเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 ในปี พ.ศ. 2310 แล้วพระเจ้าตากสินหรือพระยาวชิรปราการหรือสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ทรงกอบกู้เอกราชกลับคืนได้แล้วก็ทรงโปรดฯ ให้ทหารกรุงธนบุรีเข้ามาประจำการที่ค่ายบางกุ้ง แต่ครั้งนั้นทหารส่วนมากเป็นชาวจีนที่ร่วมกันกอบกู้เอกราชกรุงศรีอยุธยา แล้วตั้งราชธานีใหม่คือกรุงธนบุรีศรีมหาสมุทร เมื่อเหล่าทหารมาประจำการในค่ายแห่งนี้แล้ว จึงเรียกว่าค่ายจีนบางกุ้ง ต่อมาหมดยุคสมัยกรุงธนบุรี ค่ายจีนบางกุ้งถูกทิ้งให้เป็นค่ายร้างไปนานมาก ๆ ประมาณเกือบ ๆ 200 ปี ทางกระทรวงศึกษาธิการต้องการให้นักเรียนออกค่ายลูกเสือสามัญ เพื่อการเรียนรู้ ก็มาพบค่ายจีนบางกุ้งซึ่งเป็นค่ายร้าง พิจารณาแล้วเห็นว่าเหมาะสม จึงได้นำพานักเรียนในเขต จ.สมุทรสงคราม เข้ามาพักแรมเพื่อร่วมกิจกรรมทางด้านการศึกษา ต่อมาการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ก็มีการสำรวจหาแหล่งท่องเที่ยวที่แปลก ๆ จึงได้เห็นว่าบริเวณค่ายจีนบางกุ้งเหมาะกับคำว่า Unseen Thailand ด้วยเหตุผล 1. มีโบสถ์คลุมด้วยรากต้นไม้ มีต้นโพธิ์ ต้นไทรแล้วก็มีใบเป็นสีทองสวยงามและแปลกตา รากโพธิ์ทอง รากไทรกอดรัดตัวโบสถ์ไว้ได้อย่างเหนียวแน่นทำให้ตัวโบสถ์ไม่พังทลายเรียกโบสถ์ปรกโพธิ์ก็ได้ครับ 2. ภายในโบสถ์ประดิษฐานองค์พระพุทธรูปเก่าแก่อายุเกิน 200 ปี ชาวบ้านเรียกหลวงพ่อดำโบสถ์น้อย พระพุทธรูปองค์นี้แกะสลักด้วยหินทรายแดง แต่องค์ท่านเป็นสีดำ สีดำคือนิล ปัจจุบันเรียกหลวงพ่อนิลมณี 3. ภายในค่ายจีนบางกุ้งประดิษฐานพระบรมรูปสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชด้วยครับ ส่วนคำว่าค่ายจีนบางกุ้งหายไป ทุกวันนี้คือค่ายบางกุ้งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวในเขต อ.บางคนที จ.สมุทรสงคราม น่าไปเที่ยวมากครับ หนุ่ม-สุทนไปเที่ยวมาแล้วหลายครั้ง เดินชมบริเวณค่ายบางกุ้ง ต้องขอบอกตรง ๆ ปัจจุบันแทบจะไม่เหลือร่องรอยของค่ายเมื่อครั้งเป็นค่ายที่สมบูรณ์ น่าเสียดายจริง ๆ เมื่อผู้รับผิดชอบเห็นแต่ผลประโยชน์ ไม่คำนึงถึงเรื่องราวประวัติศาสตร์ หนุ่ม-สุทนขอความกรุณาทุกท่านได้โปรดพิจารณาเห็นความสำคัญเรื่องความเป็นมาของประวัติศาสตร์ด้วยครับ บ่นแค่นี้แหละ ขอจบก่อนนะครับ ค่ายบางกุ้งเมืองแม่กลองหรือสมุทรสงครามครับ เรื่องและภาพโดย : หนุ่ม-สุทน รุ่งธัญรัตน์ แฟนเพจเฟซบุ๊ค : https://www.facebook.com/sutonfm100.5/ #เก็บเรื่องมาเล่าโดยหนุ่มสุทน #ตะลอนชิมกาแฟทั่วไทย #เที่ยวทั่วไทยคลื่นข่าว100.5fm #คนรักษ์กาแฟ #bigmaptravel #เที่ยวเพลิน