สวัสดีครับนักเที่ยวสายบุญทั้งหลายวันนี้ผู้เขียนมีเรื่องวัด ๆ มานำเสนออีกแล้วครับท่าน...วัดที่ว่านี้เป็นวัดที่เงียบสงบ ร่มรื่น ร่มเย็น สวยงามเป็นวัดเล็ก ๆ ครับที่อยู่ใจกลางหมู่บ้านซึ่งโดยรอบเป็นทุ่งนาบรรยากาศร่มเย็น มาครับมาดูกันว่าวัดที่ว่านี้เป็นอย่างไร วัดที่ว่านี้คือ “วัดบ้านโป่ง” ตั้งอยู่ที่ ตำบลบ้านโป่ง อำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่ ครับพิกัดของวัดติดอยู่กับถนนของตำบลบ้านโป่ง จุดสังเกตง่าย ๆ คือ จะเห็นพระพุทธรูป (พระสิงห์) องค์ใหญ่สีทองเด่นสง่ามาดูกันครับว่าภายในวัดมีอะไรบ้าง จุดที่หนึ่ง ซุ้มประตูเข้าวัดเป็นซุ้มประตูสีน้ำตาลใหญ่ สวยงามมากฐานซ้าย-ขวามีพระพุทะธรูปปางประทานพรองค์สีทองยืนประดิษฐาน ด้านบนซุ้มมีพระพุทธรูปปางมารวิชัยองค์สีทองประดิษฐานอยู่ด้านบนหากเข้ามายังบริเวณเขตพุทธาวาสแล้วจะรู้สึกได้ถึงความเป็นสิริมงคลแห่งชีวิต จุดที่สอง รูปปั้นพระพระพิฆเนศองค์สีชมพูใต้ต้นโพธิ์ มือเบื้อซ้ายถือหอยสังข์ เบื้องขวาถือตรีศูลซึ่งความเชื่อของผู้ที่นับถือพระพิฆเนศนี้เชื่อกันว่า ท่านเป็นเทพเจ้าผู้ประทานความอุดมสมบูรณ์ เป็นเทพเจ้าแห่งศิลปะวิทยาประทานความอยู่ดี กินดี หากใครสักการะขอพรจะมีแต่ความสุข พบแต่ความเจริญ (มีคนแอบกระซิบมาว่าหากมาขอพอแล้วสมปรารถนาให้นำอ้อย กล้วย น้ำแดงมาถวาย) จุดที่สาม พระพุทธรูปองค์ใหญ่สีทอง (พระสิงห์หนึ่ง) พระพุทธรูปบารมีสิงห์หนึ่งศรีมหาโชคเป็นพระพุทธรูปจำลองแบบมาจากพระสิงห์หนึ่งองค์จริงโดยพุทธลักษณะของพระสิงห์จะมีพระเกศบัวตูม พระศกก้นหอยเม็ดเขื่อง พระพักตร์อวบอูมมีรอยยิ้มเล็กน้อย พระหนูเป็นรอยหยิก พระวรกายอวบอ้วนสมบูรณ์ ชายสังฆาฏิสั้นอยู่เหนือราวบน และแตกเป็นปกตะขาบพระเพลาขัดเพชร พระบาทหงายขึ้นทั้งสองข้าง (ขอบอกครับสวยงามมาก) มาแล้วอย่าพลาดกับการมากราบสักการะขอพรนะครับเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตนเอง และครอบครัว จุดที่สี่ พระสีวลี องค์สีทองความเชื่อในเรื่องของพระสิวลีในพุทธประวัติเชื่อว่าท่านเป็นพระอรหันต์ที่ได้รับยกย่องว่าเป็นผู้มีลาภมาก ไปที่ใดมีแต่ความโชคดี ไม่เจ็บ ไม่จน หากใครได้มากราบ บูชาขอพรรับรองเลยว่ามีกินมีใช้ตลอดปี ร่ำรวยสมปรารถนาแน่นอน จุดที่ห้า พระอุโบสถที่ทางวัดใช้ประกอบสังฆกรรม เช่น อุปสมบท สวดปาฏิโมกข์ เป็นต้น พระอุโบสถแห่งนี้มีการประดับด้วยลวดลายปูนปั้นสีสนสวยงามมากโดยเฉพาะหน้าบันเข้าพระอุโบสถ (เหนือประตูเข้า) จะมีการประดับตกแต่เป็นลวดลายปูนปั้นทาสีทองสวยงามสะดุดตา และสิ่งที่หน้าสนใจอีกจุดคือ หน้าพรอุโบสถครับจะมีรูปปั้นเทพนมสององค์เป็นท่ายืนอยู่บนฐานบนดอกบัวสวยงามมาก ด้านหลังเทพพนมจะมีกซุ้มก่อนเข้าพระอุโบสถมีลักษณะเป็นซุ้มโค้งประดับตกแต่งด้วยลวดลายปูนปั้นสีทอง จุดที่หก รูปปั้นเจ้าชายน้อยหรือพระพุทธเจ้าน้อยซึ่งตามพุทธประวัติได้ระบุไว้ว่า เมื่อครั้งที่เจ้าชายสิทธัตถะประสูติพระองค์ได้ประสูติใต้ต้นสาระ และในพุทธประวัติได้ระบุไว้ว่าพระองค์ทรงเดินบนดอกบัวเจ็ดก้าวมือขวาชี้นิ้วขึ้นฟ้ามือซ้ายชี้ลงดิน และเอ่ยวาจาที่เรียกว่า "อาสภิวาจา" ว่า “เราเป็นผู้เลิศแห่งโลกเราเป็นผู้ใหญ่แห่งโลก เราเป็นผู้ประเสริฐสุดแห่งโลก ชาตินี้เป็นที่สุด บัดนี้ภพใหม่เป็นไม่มีอีกแล้ว” มาแล้วก็อย่าลืมกราบขอพรนะครับ จุดที่เจ็ด ศาลานักษัตร เป็นศาลาที่มีรูปปั้นนักษัตรทั้ง 12 ในศาลาอยู่ด้านหน้าของพระอุโบสถตรงนี้ท่านสามารถทำบุญบริจาคปัจจัยได้ และสามารถเสี่ยงเซียมซีได้ (เซียมซีไฟฟ้า) .....เชื่อหรือไม่โปรดใช้วิจารณญาณ...อิอิ ก็ว่ากันไป จุดที่แปด จุดสุดท้ายครับ จุดกราบขอพรพระอุปคุตทางล้านนาหรือทางภาคเหนือมีความเชื่อว่าพระอุปคุตเป็นพระอรหันต์ที่จำพรรษาอยู่ใต้สะดือทะเล (แม่น้ำคงคา) เพื่อเฝ้ารอยพระพุทธบาทโดยในช่วงเทศกาลลอยกระทงทางเหนือจะลอยเพื่อบูชารอยพระพุทธบาท บูชาพระอุปคุต และขอขมาเจ้าแม่คงคา เป็นต้น อันนี้ตามประวัติคร่าว ๆ แต่ที่มักจะมีพระอุปคุตตั้งประดิษฐานอยู่ในวัดแต่ละวัดทางภาคเหนือก็เพราะว่าทางภาคเหนือเชื่อว่าหากบูชาสักการะพระอุปคุตจะมีกิน มีใช้ตลอดปีไม่เจ็บ-ไม่อด-ไม่จน เป็นต้น ... บริเวณพื้นที่ภายในวัด......จากภาพเป็นระฆังเคาะสะเดาเคราะห์ตีเพื่อความเป็นสิริมงคลของชีวิต อย่าลืมนะครับหากมีโอกาสเดินทางผ่านมาทางอำเภอฝาง “วัดบ้านโป่ง” เป็นอีกวัดหนึ่งที่หากท่านพลาดแล้วจะต้องพบกับคำว่า...เสียดายจริง ๆ สำหรับวันนี้เท่านี้ก่อนนะครับขอตัวไปกราบพระก่อน....ธรรมะสวัสดีครับ เครดิตภาพทั้งหมดจากผู้เขียน ( ดร.อาบแสงจันทร์ ต.)