สวัสดีค๊า พบกันอีกแล้วค่ะกับ ชื่นชิลชิล ที่วันนี้ชื่นจะขอพาทุกคนไปเที่ยว จังหวัดสุราษฎร์ธานี เรามาถึงสนามบินตั้งแต่เมื่อวานตอนเย็น โดยเช่ารถมาจากสนามบินสุราษฏร์ ขับรถตรงเข้าอำเภอเมืองเข้าที่พัก โดยนอนที่อำเภอเมืองหนึ่งคืน แต่เราจะขอนับเริ่มต้นทริปโดยเราเริ่มออกจากโรงแรมตั้งแต่ ตี 5 (เนื่องจากผู้ร่วมเดินทาง คุณแม่ๆ ตื่นแต่เช้ามาก) ด้วยการทานอาหารเช้า ที่ ร้านเสรีแต่เตี้ยม ติ่มซำ เราได้ลองทานหลายอย่าง ทั้งบักกุเต๋ ติ๋มซำ ซาลาเปาซึ่งอร่อยตามแบบฉบับชาวใต้เลย เนื่องจากน้ำจิ้มติ๋มซำเป็นแบบทางใต้ ซึ่งไม่ได้จิ้มกับจิ๊กโฉ่ว หลังทานอาหารเช้าเรียบร้อย ก็ซื้อของไปทำทำบุญตักบาตรในเช้าวันนี้กันค่ะ ด้วยการออกจากตัวเมืองสุราษฎร์ธานี ขับมุ่งตรงไป สวนโมกขพลาราม ซึ่งขับไม่ไกลมาก ขับประมาณ 50 นาที ก็ถึงค่ะ โดยภายในวัดสวนโมกขพลาราม ภายในบริเวณวัดร่มรื่น มีร่มไม้ใหญ่ริมทาง รู้สึกเย็นตั้งแต่เข้ามาเยือน ให้ความรู้สึกสงบ เรียบง่าย ตลอดทางจะมีแผนป้ายคำสอน กลอน จากท่านพุทธทาสภิกขุทั่วตลอดบริเวณ โดยได้มีโอกาส นั่งสนทนาธรรมกับพระท่าน ครู่หนึ่งก่อนที่จะเดินเยี่ยมชมวัด โดยคำแรกที่พระท่านถาม คือ "มาจากไหน" "แล้วจะไปไหน" พวกเราตอบไปแบบปกติ มาตอนหลังเราเพิ่งเข้าใจว่าเป็นปริศนาธรรม ทำให้กลับมานั่งขบคิดว่านั้นสิ ตัวเรามาจากไหน แล้วจะไปที่ไหน เราคงไม่รู้และไม่จำเป็นต้องรู้ว่ามาจากไหน แต่จะไปที่ไหน ทุกสิ่งคงจะรู้ได้จากกรรมหรือการกระทำของเรานั้นเอง หลังจากเดินเยี่ยมชมเล็กน้อย เราก็กลับออกจากวัด โดยหน้าวัดมีน้ำพริก ของคาว ของหวาน หลายชนิด ขายตั้งแต่เช้าเลย จุดต่อไปที่เรามุ่งหน้าไป คือวัดพระบรมธาตุไชยาราชวรวิหาร ตราสัญลักษณ์ประจำจังหวัดสุราษฎร์ ตัววัดสวย เงียบสงบ แต่มีบางส่วนปิดปรับปรุงอยู่ เราได้เดินรอบศาลาราย พระพุทธรูปเล็กใหญ่ สวยงามทุกองค์ โดยมี "พระบรมธาตุไชยา" ซึ่งเป็นโบราณสถานและโบราณวัตถุที่สำคัญ โดยวัดนี้ถือเป็นสถานสำคัญคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัด ซึ่งถ้าใครไม่ได้มาวัดนี้ อาจจะถือว่ามาไม่ถึงสุราษฎร์ธานีกันเลยทีเดียว เนื่องจากจากวัดพระบรมธาตุไชยา ราชวรวิหาร ใกล้กับตำบลพุมเรียง อำเภอไชยา ซึ่งเป็นแหล่งทอผ้าพุมเรียง ซึ่งพวกคุณแม่ในคณะอยากเยี่ยมชมและครอบครอง ทำให้เกิดการออกนอกแผนไปดูผ้าทอ ที่ กลุ่มทอผ้าบ้านพุมเรียง ซึ่งการทอผ้าที่นี้จะทำโดยสมาชิก ซึ่งกว่าจะได้ผ้าแต่ละผืนใช้ระยะเวลาไม่เท่ากันตั้งแต่ไม่กี่วัน หลายสัปดาห์ จนเป็นหลักเดือน ทำให้มีผ้าหลายราคา และมีผ้าหลายชนิด ก่อนกลับพวกคุณแม่ได้มากันหลายผืน จนชุ่มช่ำใจ ต่อไปเราจะไปท่องดินแดน "กุ้ยหลินเมืองไทย" หรือเขื่อนรัชชประภากัน รูปนั่งเรือหางยาวไปแพถ่ายโดยผู้เขียน จุดมุ่งหมายหลักในทริปนี้ เขื่อนรัชชประภา หรือเขื่อนเชียวหลาน ตำบลเขาพัง อำเภอบ้านตาขุน โดยพื้นที่ส่วนใหญ่ติดกับอุทยานแห่งชาติเขาสก หรือขุนเขาแห่งป่าฝน ทำให้ภูมิอากาศดี รู้สึกเย็นๆชื้นตลอดเวลา โดยในเขื่อน จะมีแพที่ได้สัมปทานไม่กี่เจ้า โดยรอบนี้เราพักที่แพสายชล โดยเรานัดกับทางแพสายชล ขึ้นเรือตอน 11 โมงตรง หลังจากมาถึงก็ขึ้นเรือยาว โดยมีน้องจากทางแพมารับพร้อมพี่คนขับเรือ มุ่งหน้าไปแพกันค่ะ ถ้ำปะการัง (ภาพประกอบโดยผู้เขียน) หลังจากถึงแพ เราก็ได้รับประทานอาหารกลางวัน ซึ่งมีกับข้าวหลายอย่างอยู่ค่ะ ทั้งปลาทอด ผัดเปรี้ยวหวาน ไข่เจียว แกงเขียวหวาน หลังจากทานข้าวเสร็จ เราก็เตรียมตัว ไปถ้ำปะการัง ซึ่งเราจองแพนี้เนื่องจากแพนี้อยู่ใกล้ถ้ำปะการังโดยเราก็จะขึ้นเรืออีกรอบไปบริเวณทะเลใน 500 ไร่ ซึ่งหลังจากลงเรือก็เดินเท้า อีก 1.5 กิโลเมตร ซึ่งมีทั้งทางชัน ทางราบ ทางลง เดินๆไปสนุกดีค่ะ ได้เจอพรรณไม้น่าสนใจหลายต้น รวมถึงร่องรอยของสัตว์ป่า เช่น ช้าง หลังจากถึงจุดหมาย เราจะต้องนั่งแพต่อ โดยขับโดยพี่ๆเจ้าหน้าที่อุทยาน ซึ่งตรงส่วนนี้จะไม่สามารถมีเรือเข้ามาได้ค่ะ การเข้าชมต้องแจ้งพี่ๆเจ้าหน้าที่เท่านั้น เมื่อถึงเดินขึ้นอีกรอบ ก็จะถึงถ้ำปะการัง ที่เรียกว่าถ้ำปะการังเนื่องจาก มีหินงอกหินย้อย คล้ายปะการังในทะเล มีหลายรูปร่างตามแต่จะจินตนาการได้เลยค่ะ แต่การเที่ยวถ้ำแห่งนี้ ข้อสำคัญคือ ห้ามแตะหรือถูกหินงอกหินย้อยโดยเด็ดขาดค่ะ เนื่องจากถ้าเราโดน เค้าจะหยุดการงอกหรือย้อยต่อ ช่วยกันรักษาต่อให้คนรุ่นหลังชมนะคะ บรรยากาศภายในถ้ำปะการังค่ะ (ภาพประกอบโดยผู้เขียน) หลังกลับถึงแพ เราก็ขอโดดน้ำหน้าบ้าน และพายเรือคายัคเล่นรับลมเย็นๆ หลังจากเล่นน้ำเสร็จก็ถึงเวลาอาหารค่ำ ก่อนเข้าบ้านพัก แอบเห็นหมูป่า ลงมาทานอาหารริมน้ำด้วย โดยที่นี้จะไม่มีไฟฟ้าใช้ตลอดนะค่ะซึ่งเราว่าดีมากเลยค่ะ ทำให้ได้อยู่กับธรรมชาติจริงๆ รูปปลายี่สกเทศหน้าแพ (ภาพประกอบโดยผู้เขียน) เช้ามา ก่อนกลับพี่คนขับ พาไปชม นกเหงือก ซึ่งจะมากินลูกไทรสุก ได้เห็นนกเหงือกหลายพันธ์เชียวค่ะ ทั้งนกแก๊ก นกเหงือกปากดำ(กาเขา) นกกก (ข้อมูลจากพี่คนขับเรือ) ต่อจากนั้นก็ไปเขาสามเกลอ จุดไฮไลท์ของที่นี้ สวยจริงเหนือภาพถ่ายจริงๆค่ะ ภาพถ่ายคลาสิคของเขื่อนรัชชประภา เขาสามเกลอ(ภาพประกอบโดยผู้เขียน) หลังจากเรือเทียบท่า เราคงต้องลากกันแล้ว กุ้ยหลินเมืองไทย ไว้มีโอกาสจะกลับมาใหม่แน่นอน หลังจากนั้นเราก็ไปถ่ายรูปกันที่สะพานแขวน วัดเขาพัง ได้หัวใจเขา มาครอบครอง 555 เขาหัวใจ สะพานแขวนวัดเขาพัง (ภาพประกอบโดยผู้เขียน) ต่อกันด้วย ไปอุทยานธรรมเขานาในหลวง ดินแดนในฝันอันสงบสุข ขึ้นไปกราบไหว้พระด้านบน พร้อมชมวิวสวยๆ แต่ไม่แนะนำสำหรับผู้กลัวความสูงนะคะ เอาเรื่องอยู่(3 ท่านในทริปขอสละสิทธิ์ขึ้น 555) วิวจากด้านบน อุทยานธรรมเขานาในหลวง (ภาพประกอบโดยผู้เขียน) สุดท้ายก่อนกลับ เราได้ไปแวะ ป่าต้นน้ำบ้านราด สวยจริงค่ะ น้ำใส ไหลเย็นเห็นตัวปลา โดยมีชาวบบ้านในชุมชนมาคอยอำนวยความสะดวกและดูแล ที่สำคัญมีเรือให้พายเล่น โดยพายตรงๆ ชมวิว น้ำใสๆ ทรายขาวๆ ไปเรื่อยๆ จะพายเองหรือใช้บริการพี่ๆเค้าก็ได้ค่ะ น้ำใสๆจนเห็นทรายด้านล่าง ของป่าต้นน้ำบ้านราด (ภาพประกอบโดยผู้เขียน) หลังจากนั้น เราก็เดินทางไปสนามบินสุราษฎร์ เพื่อขึ้นเครื่องกลับบ้าน สุราษฎร์ เมืองที่มีครบทุกรสชาติ ถ้าใครว่างหรือสนใจ อย่าลืมมาเที่ยวกันนะคะ รับรองคุณจะติดใจ แน่นอน