เวลาที่ฉันร้อนรน หรืออ่อนล้า หัวใจฉันมักจะฝันถึงฟ้าครามกว้าง เทือกเขาเรียงราย สีเขียวครึ้มของผืนป่า เสียงของสายลม และหมอกพร่างพรมราวพื้นทะเล ฉันรู้ว่าทุกครั้งที่ฉันมาที่แห่งนี้ "เขา" จะเยียวยาหัวใจฉันให้กลับมากระปรี้กระเปร่า ฉ่ำเย็น โดยไม่เลือกฤดู "เขา" ไหนนะที่แสนดีขนาดนี้...ก็ "เขาค้อ" ไง จะใครล่ะ! เอ้า...วันนี้มาพาหัวใจออกเดินทางไปด้วยกันนะ เริ่มต้นด้วยการเอาฤกษ์เอาชัยแบบไทยสไตล์กันก่อน ด้วยการไหว้พระที่วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว ความศรัทธาที่ตระหง่านงามบนเนินเขาค้อ เป็นความงามที่ทำให้หัวใจของฉันพองโต และนิ่งสงบไปพร้อมกันได้อย่างประหลาด จากนั้นล้อหมุนตรงมาไม่ไกล ฉันพาตัวเองมาชิมกาแฟชื่อดังวิวหลักล้านที่ Pino Latte การได้มาจิบกาแฟท่ามกลางทิวเขา หมู่เมฆ และดอกไม้หลากสีแบบนี้ ราวกับว่าตัวเองหลุดไปอยู่บนสวรรค์ชั้นเซียน ถ้าถามเรื่องรสชาติ ก็แล้วแต่ความถูกปากของแต่ละคน แต่ความถูกใจนี่ให้เต็มแน่นอน หลังจากอิ่มขนมและกาแฟกันแล้ว ถึงเวลาเข้าที่พักกันสักที คราวนี้ฉันเลือก Le fog เขาค้อรีสอร์ท และตามนิสัยรักความสะดวกสบาย ฉันก็สั่งหมูกระทะกับทางรีสอร์ท มาปิ้งกินให้เข้ากับบรรยากาศ ส่วนอาหารเช้า ทางรีสอร์ทมีข้าวต้มกับไข่กระทะ อร่อยอีกเช่นกันค่ะ Le fog เขาค้อ รีสอร์ทเล็ก ๆ ริมผา ที่ระเบียงห้องของทุกห้องหันหน้าไปรับวิวทะเลหมอกจากอ่างเก็บน้ำรัตนัย แต่ที่ประทับใจและพิเศษมากกว่านั้นคือ การตั้งอยู่ริมผาและใกล้ช่องลม เพราะฉะนั้นในช่วงเวลาค่ำคืนคุณจะมีเสียงสายลมขับกล่อม และเวลาตื่นนอนตอนเช้าก็จะมีสายหมอกมาหยอกถึงปลายเตียงกันเลยทีเดียว เป็นอีกหนึ่งความโรแมนติกที่ "เขาค้อ” มอบให้ฉัน ถึงเวลาต้องบอกลา แต่ฉันก็รู้ว่าเสน่ห์ของเขาค้อ จะเรียกฉันกลับมา...อีกครั้ง...อีกครั้ง...และอีกครั้ง ซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่จะทำอย่างไรได้ล่ะ ในเมื่อฉันตกหลุมรัก “เขาค้อ” ไปเต็มเปาแล้ว