เปิดลิสต์ 10 ประเทศน่าเที่ยว ครึ่งปีหลัง 2025 พร้อมเทคนิคการใช้บัตรเครดิตแบบมือโปร

เพื่อนๆ กำลังมองหา ทริปเที่ยวต่างประเทศ ในช่วงครึ่งหลังของ ปี 2025 ที่ทั้งสนุกและคุ้มค่าอยู่ใช่ไหม? ล็อกเป้าไว้ได้เลย เพราะเราได้รวบตึงทริปเที่ยวที่ตอบโจทย์ทั้งสายธรรมชาติ สายกิน สายช้อป และคนรักวัฒนธรรม มาให้แบบครบๆ กับ 10 ประเทศน่าเที่ยว ครึ่งปีหลัง 2025 พร้อมแนะนำ เมืองห้ามพลาด อาหารเด็ด และที่ขาดไม่ได้ คือ เคล็ดลับการใช้บัตรเครดิตให้คุ้มทุกบาท
บอกเลยว่า..อ่านรีวิวจบ ลุกขึ้นจัดกระเป๋าเที่ยวได้แบบมือโปร งบไม่บานปลาย ใช้จ่ายคุ้มค่า และได้รับความประทับใจกลับมาทุกทริปแน่นอน!
10 ประเทศน่าเที่ยว ครึ่งปีหลัง 2025
ทริปเที่ยวต่างประเทศ ที่ไหนดี?
1. จีน
AfriramPOE / Shutterstock.com
จีน เป็นประเทศที่มีความหลากหลายที่สุดในเอเชีย ทั้ง เมืองหลวงสุดทันสมัย ธรรมชาติที่อลังการ เมืองเก่าในหุบเขา และถนนสายสตรีทฟู้ดที่ไม่มีวันหลับใหล การท่องเที่ยวในช่วงฤดูร้อน เดือนมิถุนายน - สิงหาคม อากาศจะร้อนใกล้เคียงกับเมืองไทย และเดือนกันยายนเป็นต้นไป อุณหภูมิจะเริ่มเย็นสบายขึ้นเรื่อยๆ และเข้าสู่ฤดูหนาวในช่วงปลายปี การเลือกเที่ยวจีนให้เหมาะกับฤดูกาล จะช่วยให้เติมเต็มประสบการณ์ได้หลากอรรถรส
เมืองน่าเที่ยวในจีน
ปักกิ่ง (Beijing)
เมืองหลวงแห่งประวัติศาสตร์ บรรยากาศจะผสมผสานระหว่างความทันสมัยของเมืองยุคใหม่ แต่ยังคงอบอวนด้วยกลิ่นอายของวัฒนธรรม และสถาปัตยกรรมดั้งเดิม สายประวัติศาสตร์สามารถเดินชม กำแพงเมืองจีน ด่านปาต้าหลิง (Great Wall of China : Badaling) พระราชวังต้องห้าม (Forbidden City) จัตุรัสเทียนอันเหมิน (Tiananmen Square) ลองชิมอาหารท้องถิ่นและสัมผัสวิถีชีวิตผู้คนใน ชุมชนโบราณหูท่ง (Hutong) หมู่บ้านโบราณอายุ 800 ปี ส่วนสายกิจกรรมต้องแวะเติมรอยยิ้มใน Universal Studios Beijing
จางเจียเจี้ย (Zhangjiajie)
ขึ้น ลิฟต์แก้วที่สูงที่สุดในโลก ตื่นตาตื่นใจไปกับภูเขาหินปูนขนาดใหญ่ หนึ่งในซีนสำคัญในภาพยนตร์ระดับโลกอย่าง อวตาร (Avatar) ณ เขาเทียนจื่อซาน (Tianzi Shan) สายช้อป & แชะ อย่าลืมแวะเช็กอินแลนด์มาร์คแห่งใหม่ ตึกมหัศจรรย์ 72 ส่วนใครที่อยากสัมผัสวิถีแห่งวัฒนธรรมโบราณ แนะนำให้เข้าพักใน ฟูหรงเจิ้น (Furong Town) ประทับใจจนอยากกลับมาอีกแน่นอน
Atchacapture / Shutterstock.com
เฉิงตู (Chengdu)
สาวกแพนด้าต้องแวะชื่นชมความน่ารักของแพนด้ากว่า 80 ตัวใน ศูนย์อนุรักษ์แพนด้า (Chengdu Giant Panda Breeding Research Base) ใครปลื้มกับเมนูหม่าล่าเผ็ดระดับลิ้นชา หรืออาหารสไตล์เสฉวน เมืองนี้ก็มีให้ชิมเพียบ สายดื่มด่ำธรรมชาติชวนปักหมุดที่ ภูเขาสี่ดรุณี, ทะเลสาบเตี๋ยซี, เมืองมรดกโลก จิ่วจ้ายโกว และ อุทยานแห่งชาติหวงหลง นักช้อปตัวแม่เตรียมช้อปเพลินๆ ท่ามกลางสถาปัตยกรรมยุคเก่าบน ถนนโบราณจินหลี่ (Chengdu Jinli Ancient Street) หรือ ถนนคนเดินชุนซีลู่ (Chunxi Road) ท่องเที่ยวสายบุญ สักการะขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ แวะมาวัดดังอย่าง วัดพระใหญ่เล่อซาน วัดเหวินซู และ วัดต้าสือ
เซี่ยงไฮ้ (Shanghai)
เช็กอินที่ Shanghai Disneyland ก๊วนช้อปชวนปักหมุดละลายทรัพย์ได้ที่ ถนนนานจิง (Nanjinglu Street) หรือจะย้ายไปจับจ่าย เก็บบรรยากาศสบายๆ ในแหล่งรวมคาเฟ่ ย่านซินเทียนตี้ (Xintiandi ) ก็น่าจะถูกใจสายคอนเทนต์ ช่วงค่ำห้ามพลาดแสงสีสุดอลังการของ เดอะบันด์ (The Bund) อาคารสถาปัตยกรรมยุโรปริมแม่น้ำหวงผู่ หรือจะขึ้นลิฟต์ความเร็วสูงไปชมวิวเมืองแบบ 360 องศาบน เซี่ยงไฮ้ทาวเวอร์ (Shanghai Tower) ก็อยู่ในลิสต์กิจกรรมยอดฮิตเช่นกัน
ABCDstock / Shutterstock.com
Get to know :
- เมนูห้ามพลาด : เกี๊ยวต้มน้ำจิ้มเปรี้ยว, ถั่วหวานทอด, หม่าล่าหม้อไฟ, ไก่พริกฮวาเจียว, ข้าวผัดหยางโจว, เสี่ยวหลงเปา, ขนมเซี่ยงไฮ้โบราณ
- ของฝากแนะนำ : งานคราฟต์, ซอสหม่าล่า, พริกเสฉวน, ชาอู่หลง, ชาเขียว
- งบเที่ยวชิมช้อปชิลๆ : 8,000-15,000 บาท (สำหรับทริป 5 วัน 4 คืน ไม่รวมตั๋วเครื่องบิน)
Special Tips :
- โหลดแอปแปลภาษาไว้ให้พร้อม จะช่วยให้การสื่อสารกับชาวจีนตลอดทริปราบรื่นยิ่งขึ้น
- Google, LINE, IG และ Facebook ใช้ในจีนไม่ได้ ต้องโหลด VPN เตียมไว้ก่อนเดินทาง
- เพื่อความสะดวกในการจับจ่าย ควรเปลี่ยนมาใช้จ่ายผ่าน TrueMoney, WeChat หรือ Alipay
- แอปนำทางที่เหมาะกับการเดินทางในจีนทึ่สุด คือ Baidu Maps โหลดติดมือถือไว้เลย
=================
2. ญี่ปุ่น
ญี่ปุ่น ในแต่ละฤดูมีเสน่ห์ชวนหลงใหลแตกต่างกันไป ใครชอบสีสันช่วง ใบไม้เปลี่ยนสี ควรเที่ยวญี่ปุ่นในเดือนพฤศจิกายน ส่วนใครตกหลุมรักปุยหิมะนุ่มๆ ชอบอากาศหนาวเย็น กดจองตั๋วเครื่องบินลัดฟ้ามา เที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาว ในช่วงเดือนธันวาคม
เมืองน่าเที่ยวในญี่ปุ่น
โตเกียว (Tokyo)
ใครเป็นสายแลนด์สเคปอยากชวนมาเก็บภาพ เจดีย์สีแดง ขนาด 5 ชั้น เจดีย์ชูเรโต (Chureito Pagoda) ตั้งอยู่ใน สวนอาราคุระยามะเซนเกน (Arakurayama Sengen Park) ที่มีฉากหลังเป็น ภูเขาไฟฟูจิ (Mount Fuji) ที่ยิ่งใหญ่ สายสะสมบุญต้องแวะขอพร ณ ศาลเจ้าเมจิ (Meiji Jingu) ช้อปถุงโชคดีเป็นของฝาก และชวนมาลิ้มลองของอร่อย พร้อมช้อปปิ้งให้หนำใจใน ย่านชิบุย่า ชินจูกุ และ ฮาราจูกุ
เกียวโต (Kyoto)
ใครอยากมีซีนเก๋ๆ สวมชุดกิโมโนเดินเล่นชิลๆ แนะนำ ย่านกิออน (Gion) ส่วนสายมูควรแวะมาอธิฐาน พร้อมดื่มน้ำศักดิ์สิทธิ์ เสี่ยงเซียมซี และสุ่มหยิบคำทำนาย ณ วัดคิโยมิซุ หรือ วัดน้ำใส (Kiyomizu-dera) สายอินฟลูเตรียมมาเก็บคอนเทนต์สุดปังกันเลยที่ ป่าไผ่อาราชิยามะ (Arashiyama Park) เส้นทางสำรวจธรรมชาติเล็กๆ ที่งดงามตรึงใจนักท่องเที่ยวทั่วโลก
Nbeaw / Shutterstock.com
โอซาก้า (Osaka)
มา โอซาก้า ทั้งทีไม่ใช่แค่เที่ยว Universal Studios Japan หรือถ่ายรูปคู่กับ ป้ายกูลิโกะ แล้วจบทริป แต่สายหม่ำอย่างเราๆ ต้องแพลนทริปเติมช่องว่างในพุง ณ ตลาดคุโรมง (Kuromon Market) สวรรค์ของนักชิม ที่นี่มีเมนูเด็ดประจำถิ่นให้ลิ้มลองจนตาลาย ทั้งสตรีทฟู้ดชื่อดัง อาหารทะเลสดใหม่ เนื้อวัวชั้นเยี่ยม และขนมญี่ปุ่นแสนอร่อย
ซัปโปโร (Sapporo)
แนะนำให้มุ่งหน้ามายัง ซัปโปโร โดยเฉพาะช่วงหน้าหนาว มีกิจกรรมสนุกๆ รออยู่เพียบใน เทศกาลหิมะซัปโปโร (Sapporo Snow Festival) เทศกาลประจำปีที่นักท่องเที่ยวต่างอยากมาสัมผัสด้วยตัวเอง สายชิมอยากชวนมาลองสารพัดเมนูเด็ดใน ตลาดนิโจ (Nijo Market) แหล่งรวมอาหารทะเลสดใหม่ ส่วนใครเดินเที่ยวทั้งวันจนขาตึง แนะนำให้มาแช่ออนเซ็นก่อนกลับเข้าที่พัก ก็จะช่วยให้หลับสบายยิ่งขึ้น
ฟุกุโอกะ (Fukuoka)
หนึ่งในหมุดหมายของสาวก กันดั้ม เพราะที่หน้าศูนย์การค้า LaLa Port Fukuoka มี หุ่นกันดั้ม RX-93ff v Gundam สูง 24.8 เมตร ยืนตระหง่าน แถมด้านใน Gundam Park ยังเป็นศูนย์รวมกันดั้มรุ่น Limited ให้เดินชมเพลินๆ ส่วนสายชิมอยากชวนมาลองสตรีทฟู้ด ย่านยะไต ฮากาตะ ร้านอร่อยริมทางขวัญใจชาวฟุกุโอกะแท้ๆ ใครอยากเติมแต้มบุญ แวะมาที่ ศาลเจ้าดาไซฟุ เท็มมังกู (Dazaifu Tenmangu Shrine) ขอพรเสร็จแล้วอย่าลืมแวะมาอุ่นท้องด้วย ขนมโมจิไส้ถั่วแดง ย่างกรุ่นๆ จากเตา อร่อยสมคำร่ำลือ
Wirestock Creators / Shutterstock.com
Get to know :
- เมนูห้ามพลาด : เต้าหู้ญี่ปุ่น, ขนมโยคัง, เนื้อวากิวโอซาก้า, ชีสเค้กฮอกไกโด, โมจิย่าง, อาหารทะเลสดใหม่
- ของฝากแนะนำ : เครื่องสำอาง, กระดาษฮันจิ, ขนมยัทสึฮาชิ, ขนมถั่วแดงโมจิ
- งบเที่ยวชิมช้อปชิลๆ : 15,000-30,000 บาท (สำหรับทริป 5 วัน 4 คืน ไม่รวมตั๋วเครื่องบิน)
Special Tips : ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีระบบขนส่งสาธารณะครอบคลุมแทบทุกภูมิภาค การซื้อ ตั๋ว JR Pass ให้เหมาะกับทริป หรือใช้บริการ Night Bus รถบัสข้ามจังหวัดในตอนกลางคืน ก็จะช่วยเซฟค่าเดินทาง และค่าที่พักได้เยอะมาก
=================
3. ไต้หวัน
ไต้หวัน สวรรค์ของนักชิม และนักเดินทางสายชิลอย่างแท้จริง ไต้หวันน่าเที่ยวมากที่สุด คือ ฤดูใบไม้ร่วง เดือนกันยายน - พฤศจิกายน บรรยากาศในเมืองต่างๆ จะคึกคัก มีชีวิตชีวา และมีของอร่อยๆ ให้ลองชิมมากมาย
เมืองน่าเที่ยวในไต้หวัน
ไทเป (Taipei)
เมืองหลวงที่เต็มไปด้วยสีสันและชีวิตชีวา มีแลนด์มาร์ค อย่าง ตึกไทเป 101 (Taipei 101) ศูนย์รวมของนักช้อปจากทุกมุมโลก หนุ่มสาวที่ห้องหัวใจยังว่าง มาอธิษฐานขอคนข้างๆ ที่ วัดหลงซาน (Lungshan Temple) ใครอยากช้อปปิ้งเพลินๆ เดินถ่ายรูปเล่น พร้อมแวะชิมของอร่อยเด็ด ต้องมาที่ ย่านซีเหมินติง (Ximending) ส่วนสายสตรีทฟู้ด ปักหมุดมาเลยที่ ตลาดกลางคืนซื่อหลิน (Shilin Night Market) ที่มีเมนูดังให้เดินชิมได้ตลอดคืน
จิ่วเฟิ่น (Jiufen)
เมืองโบราณสุดโรแมนติกท่ามกลางหุบเขา โด่งดังจากอนิเมชันยอดนิยมของค่าย Studio Ghibli ไฮไลท์เด็ดซ่อนอยู่ใน ร้านน้ำชาอาเม่ย ฉากสำคัญในเรื่อง Spirited Away หลังจากถ่ายรูปเก็บความประทับใจเสร็จแล้ว ต้องมาลองชิมเมนูเด็ดของร้านดังบนถนนโบราณ อาทิ Taro Ball น้ำแข็งไสถั่วแดง และจิบชาร้อนคู่กับขนมโบราณ
RuslanKphoto / Shutterstock.com
เกาสง (Kaohsiung)
สายอาร์ตสุดเท่ และสายคาเฟ่ตัวแม่ถูกใจเมืองนี้เป็นพิเศษ เปิดทริปด้วยการชมงานอาร์ตที่ ศูนย์ศิลปะ Pier 2 Arts Center แล้วมาเก็บวิวเมืองเกาสงแบบ 360 องศา บน สะพานแขวนกังซาน (Eye of Gangshan) เสริมแต้มบุญด้วยการขอพรพระพุทธรูปทองสัมฤทธิ์ สูง 120 เมตร ใน วัดฝอกวงซัน (Fo Guang Shan Monastery) แล้วหิ้วท้องไปอิ่มหนำสำราญพุงใน ตลาดกลางคืนลิ่วเหอ (Liuhe Tourist Night Market)
ไถจง (Taichung)
เมืองใหญ่อันดับสามของไต้หวันที่รายล้อมไปด้วยพิพิธภัณฑ์ ตึกโบราณ ย่านช้อปปิ้ง และแหล่งรวมของอร่อย แถมเมืองนี้ยังเดินทางง่ายมาก เพราะมีสถานีรถไฟใต้ดินมากถึง 18 สถานี ใครชอบถ่ายรูปเช็กอิน แนะนำให้มาที่ โรงละครแห่งชาติไถจง (National Taichung Theater) ส่วนสายคาเฟ่และคนรักงานศิลป์ ปักหมุดไว้เลยที่ Shen Ji New Village สายเดินป่าลองมาทดสอบกำลังขา บนเส้นทางชมธรรมชาติ Dakeng Hiking Trail หลังทำกิจกรรมจนหิวท้องกิ่ว แวะมาเติมพลังที่ ตลาดกลางคืนอี้จง (Yizhong Night Market)
leungchopan / Shutterstock.com
Get to know :
- เมนูห้ามพลาด : เต้าหู้เหม็น, ชานมไข่มุกต้นตำหรับ, บะหมี่เย็นไต้หวัน, Miyahara Ice Cream
- ของฝากแนะนำ : ชาอู่หลง, ชานมสำเร็จรูป, มาสก์หน้าแบรนด์ไต้หวัน, เมล็ดกาแฟ, เครื่องหอมธรรมชาติ
- งบเที่ยวชิมช้อปชิลๆ : 8,500-13,000 บาท (สำหรับทริป 5 วัน 4 คืน ไม่รวมตั๋วเครื่องบิน)
Special Tips : การพก บัตรเงินสด EasyCard หรือ iPas จะช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทาง และการใช้จ่ายในร้านสะดวกซื้อต่างๆ
=================
4. เกาหลีใต้
เกาหลีใต้ ยังคงขึ้นแท่น 1 ใน ประเทศน่าเที่ยวในครึ่งปีหลัง 2025 โดยช่วงเดือนตุลาคม - พฤศจิกายน น่าเที่ยวมากเพราะเป็นช่วง ใบไม้เปลี่ยนสี อุณหภูมิประมาณ 10-20 องศาเซลเซียส ถือว่าเที่ยวได้สบายๆ ไม่หนาวจนเกินไป เหมาะกับสายชิลชวนกันเดินเที่ยวเล่นสัมผัสวัฒนธรรม ช้อปปิ้งจนจุใจ และตระเวนชิมเมนูเด็ด
ส่วนใครที่ชอบอากาศหนาวๆ ระดับติด -5 องศาเซลเซียส แนะนำให้เดินทางในช่วงฤดูหนาว คือ เดือนธันวาคม - กุมภาพันธ์ ถ้ามีแพลนเล่นสกี ช่วงนี้เหมาะที่สุด!
เมืองน่าเที่ยวในเกาหลีใต้
โซล (Seoul)
โซล เป็นที่ที่เที่ยวได้ทุกฤดู แต่ช่วงที่อากาศดีมากๆ คือ เดือนตุลาคม - พฤศจิกายน แพลนที่ห้ามพลาด คือ การเข้าชม พระราชวังเคียงบกกุง (Gyeongbokgung Palace) และ หมู่บ้านบุกชอนฮันอก (Bukchon Hanok Village) พอตกเย็นไปเดินเล่นสไตล์ชาวโซลที่ริม คลองชองเกซอน (Cheonggyecheon) สำหรับคู่รักอย่าลืมจูงมือกันไปคล้องกุญแจ และชมวิวเมือง 360 องศา บน N Seoul Tower บอกเลยว่าโรแมนติกไม่แพ้ซีนซึ้งๆ ในซีรีส์เกาหลีแน่นอน
ปูซาน (Busan)
เมืองท่าขนาดใหญ่ที่ได้ชื่อว่าเป็นเมืองของสายคอนเทนต์ ใครชอบตระเวนกิน เที่ยว มาเมืองนี้มีปลื้มแน่ๆ โดยตั้งแต่เดือนตุลาคมอากาศจะค่อยๆ หนาวขึ้นเรื่อยๆ เหมาะกับการเดินเที่ยวชม หมู่บ้านวัฒนธรรมคัมชอน (Gamcheon Culture Village) หรือจะลองนั่ง รถไฟสกายแคปซูล (Sky Capsule) เก็บประสบการณ์ชมวิวปูซานก็ดีมากๆ ส่วนสายชิม เคลียร์ท้องให้ว่างแล้วปักหมุดมาอิ่มหนำกับสารพัดเมนูเด็ดที่ ตลาดแฮอุนแด (Haeundae Traditional Market)
เกาะเชจู (Jeju Island)
หนึ่งในโลเคชันยอดฮิตที่ปรากฏอยู่ในซีรีส์ดังหลายเรื่อง ใครอยากตามรอย หัวหน้าฮง แห่ง Hometown Cha-Cha-Cha ปักหมุดมาที่ เมืองโพฮัง (Pohang) จากนั้นไปสัมผัสวิถีชีวิตของชาวท้องถิ่น และลิ้มลองอาหารทะเลสดกริบที่ ตลาดโพฮังชุกโด (Pohang Jukdo Market) และ ตลาดปลาชุกโด (Jukdo Market) แล้วอย่าลืมไปเก็บภาพสุดประทับใจที่ จุดชมวิว Igari Anchor Observatory บนสะพานรูปสมอเรือด้วยนะ
คังวอนโด (Gangwon-do)
สายธรรมชาติ และชอบหิมะ ต้องไม่พลาดเมืองนี้ เพราะมีกิจกรรมสนุกๆ ให้ทำเพียบ โดยเฉพาะช่วงฤดูหนาว ที่ใครๆ ก็อยากลองนั่งกระเช้าขึ้น เขาพัลวังซัง (Balwangsan Mountain) สายแอดเวนเจอร์ต้องมาลองเล่นสโนว์บอร์ดที่สกีรีสอร์ท ส่วนใครอยากสัมผัสชอบชมธรรมชาติช่วงใบไม้เปลี่ยนสี แนะนำให้มาเดินสำรวจธรรมชาติใน อุทยานแห่งชาติซอรัคซาน (Seoraksan National Park) ส่วนสาย Cafe Hopping เตรียมเช็กอินคาเฟ่ดังริมชาดหาดใน ย่านคังนึง (Gangneung) ได้เลย รับรองว่าได้ภาพเท่ๆ ไว้โพสต์อวดเพื่อนจนเต็มฟีด
rnkadsgn / Shutterstock.com
Get to know :
- เมนูห้ามพลาด : ไก่ทอดเกาหลี, ซัมกเยทัง, หมูดำย่าง, โซจูท้องถิ่น, อาหารทะเล
- ของฝากแนะนำ : สกินแคร์, พายสตรอว์เบอร์รี, ชาโสม, กาแฟดริป, ของที่ระลึกจากพระราชวัง และหมู่บ้านวัฒนธรรม
- งบเที่ยวชิมช้อปชิลๆ : 10,000-20,000 บาท (สำหรับทริป 5 วัน 4 คืน ไม่รวมตั๋วเครื่องบิน)
Special Tips : เพื่อความสะดวกในการเดินทางเข้าประเทศ ควร ลงทะเบียน K-ETA ให้เรียบร้อย และเตรียมข้อมูลท่องเที่ยวตลอดทริปให้ครบถ้วน หากถูกเจ้าหน้าที่เรียกตรวจ ควรตอบคำถามของเจ้าหน้าที่ด้วยความมั่นใจ
=================
5. สิงคโปร์
jamesteohart / Shutterstock.com
แม้ สิงคโปร์ จะเป็นประเทศเล็กๆ แต่เต็มไปด้วยความหลากหลายทางวัฒนธรรม อาหารอร่อย แหล่งช้อปปิ้งแบรนด์เนม แถมยังมีเทศกาลลดราคาเอาใจนักช้อป และเทศกาลอาหารในช่วงเดือนกรกฏาคม - สิงหาคม ส่วนช่วงปลายปี ห้างร้านจำนวนมาก ก็พร้อมใจกันจัดโปรโมชันใหญ่ต้อนรับคริสต์มาส นอกจากนี้ สิงคโปร์ยังมีธรรมชาติที่สวยงาม มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย และปลอดภัยสูง เหมาะทั้งการมาเที่ยวแบบฉายเดี่ยว หรือพาครอบครัวมาพักผ่อน
สถานที่น่าเที่ยวในสิงคโปร์
เกาะเซ็นโตซา (Sentosa)
เอาใจสายกิจกรรมด้วยพิกัดเติมความสนุกที่ Universal Studios Singapore, S.E.A Aquarium, Adventure Cove Waterpark หรือถ้าอยากไปปลีกตัวไปอาบแดด ว่ายน้ำ พายเรือคายัคชิลๆ หาดพาลาวัน (Palawan Beach) ก็เป็นจุดหมายที่ต้องมา!
ถนนออร์ชาร์ด (Orchard)
ถนนที่เก่าแก่ที่สุดของสิงคโปร์ เป็นที่ตั้งของศูนย์การค้าขนาดใหญ่ อย่าง TANGS, ION Orchard, 313@Somerset และ Plaza Singapura ที่นี่เป็นแหล่งรวมของสินค้าแบรนด์เนมระดับโลก ร้านอาหารสุดหรู และโรงแรมระดับห้าดาว เรียกว่าเป็นพิกัดสุดเลิฟของสายช้อปที่สามารถเดินจับจ่ายได้ทั้งวันไม่มีเบื่อ
happycreator / Shutterstock.com
ย่านไชน่าทาวน์ (Chinatown)
เมืองเก่าอบอวลด้วยวัฒนธรรมที่หลากหลายของผู้คนต่างเชื้อชาติ เปิดทริปด้วยการเสริมสิริมงคลกันที่ วัดพระเขี้ยวแก้ว (Buddha Tooth Relic Temple) ชมสถาปัตยกรรมของวัดฮินดูที่เก่าแก่ วัดศรีมาริอัมมันต์ (Sri Mariamman Temple) แล้วชวนมาลิ้มลองอาหารท้องถิ่นและเมนูนานาชาติที่ Chinatown Food Street แหล่งรวมเมนูอร่อยติดดาวมิชลิน และสตรีทฟู้ดรสเด็ด
อ่าวมาริน่า (Marina Bay)
เพลินตาและประทับใจไปกับสถาปัตยกรรมที่เป็นแลนด์มาร์คสุดภาคภูมิใจ อย่าง มาริน่า เบย์ แซนด์ (Marina Bay Sands) ใครอยากพักผ่อนด้วยการชมสวนสวยขนาดใหญ่ สามารถแวะไปเดินเล่น หรือปั่นจักรยานได้ที่ การ์เด้นส์ บาย เดอะ เบย์ (Gardens by the Bay) โอเอซิสกลางเมืองที่คว้ารางวัลการออกแบบและจัดสวนระดับโลกมาแล้ว
Netfalls Remy Musser / Shutterstock.com
Get to know :
- เมนูห้ามพลาด : ลักซา, สะเต๊ะสไตล์สิงคโปร์, ข้าวมันไก่สิงคโปร์, บักกุ๊ดเต๋, กาแฟ Specialty coffee
- ของฝากแนะนำ : สินค้าแบรนด์เนม, ของที่ระลึกจาก Universal Studios, เมล็ดกาแฟ Specialty coffee
- งบเที่ยวชิมช้อปชิลๆ : 10,000-15,000 บาท (สำหรับทริป 5 วัน 4 คืน ไม่รวมตั๋วเครื่องบิน)
Special Tips : ใช้ บัตร EZ-Link หรือ NETS FlashPay ช่วยให้เดินทางสะดวกขึ้น ทั้งการใช้บริการ MRT และรถบัส ทั้งยังสามารถใช้ซื้อของในร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven ได้อีกด้วย
=================
6. เวียดนาม
แพลนท่องเที่ยว เวียดนาม ในครึ่งปีหลัง แนะนำให้ปักหมุดมาเยือน ดินแดนแห่งมังกรฟ้า (The Land of the Blue Dragon) ในช่วงเดือนพฤษภาคม - มิถุนายน เพราะเป็นช่วงที่อากาศดี ไม่ร้อนมาก แต่อาจเจอฝนบ้างเล็กน้อย และเนื่องจากช่วงนี้ไม่ใช่ฤดูท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวจะไม่ค่อยพลุกพล่าน ชาวอินโทรเวิร์ตยิ้มกว้างได้เลย ที่สำคัญ ราคาตั๋วเครื่องบินไม่แพงเวอร์ เรียกว่าเที่ยวสนุกได้เต็มที่ในงบสบายกระเป๋า แต่ถ้าชอบบรรยากาศคึกคักในฤดูท่องเที่ยว พร้อมกับสัมผัสอากาศเย็นฉ่ำจับใจ แนะนำให้วางทริปเที่ยวเวียดนามในช่วงเดือนตุลาคมเป็นต้นไป
เมืองน่าเที่ยวในเวียดนาม
ฮานอย (Hanoi)
เมืองหลวงที่ได้ชื่อว่าเป็นแหล่งรวมวัฒนธรรมที่มีความเป็นเอกลักษณ์ของชาวเวียดนามในทุกย่างก้าว ใครชอบเดินชม ตึกเก่าสไตล์โคโลเนียล เมืองนี้เหมาะมาก ส่วนสายกาแฟก็ห้ามพลาดเพราะเมืองนี้มีคาเฟ่เก๋ๆ ให้นั่งชิลละลานตา นักชิมเองก็ชอบเมืองนี้มากๆ เพราะมีเมนูอร่อยสไตล์เวียดนามแท้ๆ และเมนูฟิวชันรสชาติถูกปากให้ชิมเพียบ
ดานัง (Da Nang)
เมืองสุดฮิตในเวียดนามกลาง มีพิกัดให้เก็บภาพสวยๆ เพียบ อย่าง สะพานโกลเด้นบริดจ์ (Golden Bridge) แลนด์มาร์คสุดเก๋ของ บาน่าฮิลล์ (Banahills) หรือเช็กอินในคาเฟ่เก๋ๆ ริม แม่น้ำหาน (Han River) ตกเย็นชวนกันไปเดินเล่นรับลม แวะถ่ายรูปบน สะพานมังกร (Dragon Bridge) สัญลักษณ์ของเมืองดานัง สายชิมต้องแวะไปลองอาหารทะเลสดที่ ตลาดท้องถิ่น Chợ Cồn ที่ราคาดีต่อใจมากๆ
อ่าวฮาลอง (Halong Bay)
อีกหนึ่งแลนด์มาร์คสุดจึ้งของเวียดนามเหนือ แนะนำให้มาช่วงเดือนพฤษภาคม เพราะจะได้เก็บภาพขณะล่องเรืออยู่ในอ่าวกว้างสุดสายตาที่มีฉากหลังเป็นภูเขาหินปูนรูปทรงสะดุดตาท่ามกลางท้องฟ้าใสๆ จนหนำใจ
ซาปา (Sapa)
เมืองเล็กๆ กลางหุบเขาในภาคเหนือของเวียดนาม รายล้อมด้วย นาขั้นบันได และสายหมอก ใครชอบอากาศเย็นสบายไม่หนาวมาก แถมยังได้ชมวิวทุ่งนาสีทองอร่าม แนะนำให้มาในช่วงเดือนกันยายน - ตุลาคม แต่ถ้าอยากสัมผัสหน้าหนาวของซาปา สามารถมาเที่ยวได้ในช่วงเดือนธันวาคม - มกราคม
Get to know :
- เมนูห้ามพลาด : เฝอ, บั๋นหมี่, มี้กว่าง, บุนจ๋า, กาแฟไข่ (Egg Coffee)
- ของฝากแนะนำ : กาแฟสำเร็จรูปเวียดนาม, งอบเวียดนาม, ชุดอ่าวหญ่าย
- งบเที่ยวชิมช้อปชิลๆ : 6,000-15,000 บาท (สำหรับทริป 5 วัน 4 คืน ไม่รวมตั๋วเครื่องบิน)
Special Tips : การข้ามถนนในประเทศเวียดนาม ต้องทำด้วยความมั่นใจ ไม่ต้องห่วงว่าจะถูกรถมอเตอร์ไซค์เฉี่ยวชน เพราะไบค์เกอร์ชาวเวียดนาม มีสกิลในการหลบคนข้ามถนนระดับเซียน
=================
7. อิตาลี
การเดินเที่ยวใน อิตาลี ก็เหมือนเดินชมพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งตลอดเวลา เพราะมีทั้งสถาปัตยกรรมที่มีอายุเกินพันปี พิพิธภัณฑ์ระดับโลก เมืองสีสันละมุนริมทะเล ไปจนถึงอาหารขึ้นชื่ออย่าง พาสต้าจานร้อน และเจลาโต้แสนอร่อย อิตาลีจะมีสีสันมากที่สุดในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ตั้งแต่เดือนกันยายนเป็นต้นไป และจะเริ่มเข้าสู่ฤดูหนาวในเดือนธันวาคม ซึ่งโทนของเมืองจะอบอวลไปด้วยความโรแมนติกสุดขีด
เมืองน่าเที่ยวในอิตาลี
โรม (Rome)
เมืองหลวงแห่งอารยธรรม ถ้าคุณชื่นชอบการเดินเสพงานสถาปัตยกรรมยุคโบราณ ต้องไม่พลาดแวะชมความอลังการของ วิหารแพนธีออน (Pantheon) มหาวิหารแห่งทวยเทพในระบบสุริยะทั้ง 7 อายุกว่า 2,000 ปี โคลอสเซียม (Colosseum) 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก และ มหาวิหารนักบุญเปโตร (Basilica of Saint Peter) 1 ใน 4 มหาวิหารเอกของกรุงโรม สร้างขึ้นในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 4
ฟลอเรนซ์ (Florence)
เมืองศิลปะที่อบอวลด้วยกลิ่นหอมของไวน์และแสงแดดอุ่นๆ อยากชวนสายเดินชมเมืองมาดื่มด่ำผลงานการออกแบบ มหาวิหารฟลอเรนซ์ ((Florence Cathedral) ที่ผสมผสานศิลปะหลายยุคหลายสมัยได้อย่างลงตัว แวะเสพผลงานศิลปะระดับโลกกว่า 100,000 ชิ้นใน หอศิลป์อุฟฟีซี (Uffizi Galleries) ช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนม ณ จัตุรัสรีพับลิค (Republic Square)
เวนิส (Venice)
เมืองลอยน้ำที่เสิร์ฟความโรแมนติกได้ไม่รู้จบ กับกิจกรรม ล่องเรือกอนโดล่า เคล้าเสียงเพลง ลัดเลาะจากคลองขนาดเล็ก สู่ แกรนด์ คาแนล ไปสัมผัสความสวยงามของโบสถ์สไตล์บาโรก ณ มหาวิหารซานตามารียา เดลล่า ซาลูเต (Basilica di Santa Maria della Salute) แวะชม The Church of Gold มหาวิหารซานมาร์โก ตื่นตาตื่นใจกับ พระราชวังปาลัซโซ ดูคาเล (Palazzo Ducale) ที่ประดับด้วยทองคำ พักถ่ายรูปคู่กับ หอระฆังซานมาร์โก (St Mark's Campanile) สูง 98 เมตร ในจัตุรัสเปียซ่าซานมาร์โก
มิลาน (Milan)
สายแฟชั่นนิสต้าเตรียมเสื้อผ้าหน้าผมให้พร้อม แต่ก่อนจะไปเดินช้อปฉ่ำๆ ชวนแวะเซลฟีกับ มหาวิหารแห่งมิลาน (Duomo di Milano) วิหารศิลปะโกธิคสไตล์อิตาลีที่ใหญ่ที่สุดในโลก และชมผลงานของศิลปินชื่อก้องโลก ไมเคิล แองเจลโล ณ พิพิธภัณฑ์ในปราสาทสฟอร์เซสโก้ (Castello Sforzesco) จากนั้นชวนมาช้อป และชิมอาหารอิตาลีให้จุใจบน ถนน Corso Buenos Aires
Get to know :
- เมนูห้ามพลาด : สเต็ก Fiorentina, ไวน์ Chianti, ไอศกรีมเจลลาโต, ปลาทอดสไตล์เวเนเชียน, ขนม Panettone
- ของฝากแนะนำ : แฟชั่นแบรนด์อิตาลีแท้, น้ำหอม, งานเซรามิกวาดมือ, เครื่องหอมจากวาติกัน
- งบเที่ยวชิมช้อปชิลๆ : 12,000-25,000 บาท (สำหรับทริป 5 วัน 4 คืน ไม่รวมตั๋วเครื่องบิน)
Special Tips :
- ใช้ Eurail Pass หรือ บัตร Regional Train Pass ช่วยให้การเดินทางข้ามเมืองสะดวกยิ่งขึ้น
- ควรโหลด แอป “Rome2Rio” และ “Trainline EU” ช่วยเช็กเส้นทางได้แม่นยำ
- ในอิตาลี ร้านท้องถิ่นจะปิดบริการในช่วงกลางวัน (Siesta) เวลา 13.00-16.00 น.
=================
8. สวิตเซอร์แลนด์
หากกำลังมองหาประเทศที่ “วิวจริงสวยกว่าโปสการ์ด” เที่ยวสนุกทุกฤดู และเดินทางได้ปลอดภัย สวิตเซอร์แลนด์ คือคำตอบนั้น ครึ่งปีหลังของที่นี่เป็นช่วงฤดูร้อน และฤดูใบไม้ร่วง อาจเจออากาศอุ่นๆ สลับกับฝนโปรยปรายบ้าง แต่ก็ได้บรรยากาศที่ดีไปอีกแบบ ส่วนถ้าอยากเล่นสกี สัมผัสหิมะขาวโพลนในอุณหภูมิติดลบ แนะนำให้มาเยือนในเดือนธันวาคม
เมืองน่าเที่ยวในสวิตเซอร์แลนด์
เซอร์แมท (Zermatt)
แค่คิดว่าได้ใช้วันลาพักร้อนทั้งหมดในเมืองแสนสงบบนเทือกเขาแอลป์ เอนหลังชมวิวหลักล้านจากหน้าต่างของ รถไฟ Glacier Express ก็ฟินสุดๆ แล้ว เมืองที่มากล้นไปด้วยเสน่ห์แห่งนี้ ไม่มีรถยนต์ แต่ชาวท้องถิ่นจะใช้รถไฟฟ้าคันเล็กๆ รถม้า และจักรยานแทน เหมาะกับการมาฮีลใจมากๆ แนะนำให้นั่งกระเช้าเคเบิลคาร์ขึ้นมายังจุดชมวิวบน ยอดเขาแมทเทอร์ฮอร์น (Matterhorn) ใครแรงเหลืออยากให้ลองเดินสำรวจห้องโถงต่างๆ และชมงานประติมากรรมแกะสลักน้ำแข็งในถ้ำน้ำแข็ง Glacier Palace อายุกว่า 1,000 ปี
ลูเซิร์น (Lucerne)
เมืองริมทะเลสาบที่รายล้อมด้วยขุนเขาบรรยากาศสุดโรแมนติก กิจกรรมห้ามพลาดคือ การล่องเรือเฟอร์รี่ชมวิวเมืองจาก ทะเลสาบลูเซิร์น (Lake Lucerne) หรือจะนั่ง รถไฟล้อเฟือง Pilatus Railway ขึ้นมาชมทะเลสาบและทิวเขาแอลป์บน ยอดเขาพิลาตุส (Mount Pilatus) ก็ประทับใจไม่แพ้กัน ใครชอบดูสิ่งปลูกสร้างยุคเก่า แนะนำให้มาเก็บภาพ สะพานไม้ชาเปล (Chapel Bridge) ที่มีความเก่าแก่มากที่สุดในยุโรป
ซูริค (Zurich)
เมืองหลวงแห่งเศรษฐกิจการค้า และแหล่งรวมคาเฟ่สุดเท่ แวะเสพงานศิลป์ของศิลปินระดับโลกใน พิพิธภัณฑ์คุนสท์เฮ้าส์ (Kunsthaus Zürich) ช่างภาพแลนด์สเคปปักหมุดจุดชมวิวบน ภูเขาอูทลิเบิร์ก (Uetliberg Mountain) ได้เลย จุดนี้จะเก็บภาพเมือง ทะเลสาบ และสถาปัตยกรรมวิจิตร งดงามของซูริคได้ครบในเฟรมเดียว และส่งท้ายด้วยการช้อปปิ้งเพลินๆ บน ถนนบานโฮฟซตราเซอร์ (Bahnhofstrasse)
เบิร์น (Bern)
ดินแดนมรดกโลกที่มีสัญลักษณ์ประจำเมืองเป็น “หมีสีน้ำตาล” นอกจากการแวะทักทายเจ้าหมีตัวเป็นๆ ใน บ่อหมี (Bear Pit) แล้ว อยากชวนทุกคนมาเดินทอดน่องชมอาคารเก่าแก่ ชิมอาหารรสเยี่ยม และช้อปของฝากประจำถิ่น ริม ถนนมาร์คกาสเซ (Marktgasse) สายศิลป์ต้องไม่พลาดสถาปัตยกรรมยุคเก่าอย่าง หอนาฬิกา Zeitglockenturm, ประตูเมืองโบราณ Kafigturm และ มหาวิหารกรุงเบิร์น
Get to know :
- เมนูห้ามพลาด : เบียร์ท้องถิ่น, เค้กแอปเปิล, ไอศกรีมโฮมเมด, ฟองดูว์ชีส
- ของฝากแนะนำ : ช็อกโกแลต, สบู่แฮนด์เมด, มีดพับ Victorinox, นาฬิกา Swiss รุ่นพิเศษ
- งบเที่ยวชิมช้อปชิลๆ : 18,000-28,000 บาท (สำหรับทริป 5 วัน 4 คืน ไม่รวมตั๋วเครื่องบิน)
Special Tips : เพื่อความสะดวกในการเดินทาง สามารถซื้อ Swiss Travel Pass นั่งรถไฟ รถบัส และล่องเรือได้ไม่อั้น
=================
9. ฝรั่งเศส
ทุกเมืองของ ฝรั่งเศส ล้วนอบอวลด้วยเสน่ห์เฉพาะตัวไม่ซ้ำกัน มีสถาปัตยกรรมอันน่าทึ่งที่แทรกอยู่ในอาคารทุกหลัง โดยในครึ่งปีหลังของฝรั่งเศสจะเริ่มเข้าสู่ฤดูร้อนในเดือนมิถุนายน อากาศจะเริ่มหนาวขึ้นก่อนเข้าสู่ฤดูใบไม่ร่วงในเดือนกันยายน และกลางเดือนธันวาคมเป็นต้นไปจะเป็นฤดูหนาวยาวไปจนถึงกลางเดือนมีนาคม
เมืองน่าเที่ยวในฝรั่งเศส
ปารีส (Paris)
จุดที่พลาดไม่ได้ของการมาเยือนเมืองแห่งแฟชั่น และแหล่งแรงบันดาลใจ คือ หอไอเฟล (Eiffel Tower) ที่สามารถขึ้นไปชมวิวเมืองแบบพาโนรามา สายประวัติศาสตร์ชวนชมงานศิลป์และวัตถุโบราณจากทั่วโลก ณ พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ (Louvre Museum) จากนั้นย้อนเวลากลับสู่ยุค พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ด้วยการเที่ยวชมความงดงามของ พระราชวังแวร์ซาย (Palace of Versailles) ส่วนสายธีมปาร์ค เตรียมจัดแพลนต่อคิวขึ้นเครื่องเล่นใน Disneyland Paris ได้เลย
บอร์กโดซ์ (Bordeaux)
บอร์กโดซ์ ไม่ใช่แค่ไวน์ที่ดี แต่ไวป์ของเมืองก็ยอดเยี่ยมไม่ยอมกัน แวะ พิพิธภัณฑ์ไวน์ La Cité du Vin เรียนรู้ประวัติศาสตร์และเทคโนโลยีการหมักไวน์ชื่อดัง ชมสถาปัตยกรรมสไตล์นีโอคลาสสิก ณ จัตุรัส Place de la Bourse ล่องเรือชมวิวเมืองใน แม่น้ำการอนน์ (Garonne River) เดินเที่ยว ชมสถาปัตยกรรม และช้อปปิ้งใน ย่านเมืองเก่า Vieux Bordeaux สายกินต้องแวะชิมเมนูประจำถิ่น อาทิ ไวน์ ชีส และขนมปังอบ ใน ตลาด Marche des Capucins
KO-SIM / Shutterstock.com
สตราสบูร์ก (Strasbourg)
สตราสบูร์ก เป็นเมืองติดกับประเทศเยอรมี จึงได้รับอิทธิพลด้านวัฒนธรรม สถาปัตยกรรม และวิถีชีวิตของผู้คนมาค่อนข้างมาก แลนด์มาร์คห้ามพลาด คือ มหาวิหาร Strasbourg Cathedral โบราณสถานทรงคุณค่าที่ได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกโลก ชวนเดินถ่ายรูปสนุกๆ ชิมเมนูเด็ด ช้อปของฝาก สัมผัสกลิ่นอายบ้านไม้โบราณสไตล์เยอรมันใน ย่าน La Petite France ใครมาเที่ยวช่วงปลายปีจะประทับใจมาก เพราะร้านรวงใน ตลาดคริสต์มาส จะพร้อมใจกันตกแต่งด้วยแสงไฟ ตุ๊กตากวาง แขวนถุงเท้าลายน่ารัก และยังมีกิจกรรมดีๆ ให้ร่วมสนุกมากมาย
ลียง (Lyon)
เมืองแห่งวัฒนธรรมอาหาร ที่เป็นการผสมผสานอิทธิพลก้นครัวจากฝรั่งเศสและอิตาลี จึงไม่น่าแปลกใจที่จะเห็นชื่อพาสต้าและรีซอสโต้แทรกอยู่ในเมนูเด็ดของทุกร้านอาหาร ใครอยากเปิดประสบการณ์ตระเวนชิมร้านดังในลิสต์มิชลินสตาร์มาที่นี่ไม่มีผิดหวัง ส่วนใครอยากชิมอาหารท้องถิ่นและอาหารสไตล์ฟิวชันที่ตกแต่งจานได้อย่างยอดเยี่ยม ให้ปักหมุดมาที่ ตลาดในร่ม Les Halles de Lyon Paul Bocuse และ ตลาดกลางแจ้ง Marche Alimentaire St-Antoine Celestins
Get to know :
- เมนูห้ามพลาด : หอยทากอบกระเทียม (Escargot), ไส้กรอกแห้ง (Saucisson), พายถั่วเคลือบน้ำตาลสีชมพู (Arte à la praline), พิซซ่าบางสไตล์อัลซาซ (Tarte flambée), ขนม Canelé
- ของฝากแนะนำ : ไวน์แดง Bordeaux AOC, ไวน์ขาวอัลซาซ, ช็อกโกแลตหรือชีสท้องถิ่น, น้ำหอม
- งบเที่ยวชิมช้อปชิลๆ : 12,000-25,000 บาท (สำหรับทริป 5 วัน 4 คืน ไม่รวมตั๋วเครื่องบิน)
Special Tips : เพื่อความสะดวกในการนำทาง ควรดาวน์โหลด แอปพลิเคชัน Bonjour RATP ไว้ให้พร้อม และสำหรับสายพิพิธภัณฑ์ ควรซื้อ บัตร Museum Pass หรือ Paris Pass จะเที่ยวได้คุ้มค่ามาก
=================
10. ออสเตรเลีย
ประเทศนี้ไม่ได้มีดีแค่ จิงโจ้ หมีโคอาล่า หรือ ซิดนีย์ โอเปร่าเฮาส์ (Sydney Opera House) แต่ยังเป็นหนึ่งในประเทศที่คนรักการผจญภัยไม่ควรพลาด เพราะมีกิจกรรมสนุกๆ ให้ทำทุกฤดูกาล แถมทุกเมืองใหญ่ยังเต็มไปด้วย ร้านกาแฟระดับ Specialty และ ร้านเบเกอร์รี่สดใหม่ โดยช่วงไฮซีซันของที่นี่จะอยู่ในฤดูใบไม้ผลิ ช่วงเดือนกันยายน - พฤศจิกายน ท้องฟ้าจะสดใส เหมาะกับการทำกิจกรรม อย่าง ดำน้ำ เดินป่า และ Cafe Hopping ส่วนใครชอบเล่นสกี แนะนำให้บินมาเที่ยวในช่วงเดือนมิถุนายน
เมืองน่าเที่ยวในออสเตรเลีย
เมลเบิร์น (Melbourne)
เดินชมงานสตรีทอาร์ตบน ถนน Hosier Lane ไปแจมกับกิจกรรมสนุกๆ เสิร์ฟสายแอดเวนเจอร์เต็มอิ่ม ไม่ว่าจะเป็นการขับรถเที่ยวที่ Great Ocean Road ท้าพละกำลังด้วยกิจกรรมปีนผาที่ Grampians National Park หรือจะเลือกพาย Paddle board ชิลๆ ใน ทะเลสาบ Yarra ก็เป็นกิจกรรมยอดฮิตไม่แพ้กัน
ซิดนีย์ (Sydney)
ชวนมาเดินเล่นกระทบไหล่ชาวซิดนีย์ใน ย่านเดอะร็อคส์ (The Rocks) พิกัดนี้มีกิจกรรมสนุกๆ ให้ทำตลอดเช้าจรดค่ำ ทั้งการเข้าชมพิพิธภัณฑ์ เติมพลังในร้านอาหาร ทิ้งตัวนั่งชิลในคาเฟ่ และวาดลีลาแดนซ์ในผับชื่อดัง แต่ถ้าหากอยากอวดสกิลเล่นเซิร์ฟ รีบตั้งพิกัดมาที่ หาดบอนได (Bondi Beach) ได้เลย ส่วนสายธีมปาร์ค แนะนำให้มากระตุ้นอะดรีนาลีนใน สวนสนุก ลูน่า พาร์ค ซิดนีย์ (Luna Park Sydney) เครื่องเล่นของที่นี่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกของรัฐอีกด้วย
FiledIMAGE / Shutterstock.com
แทสมาเนีย (Tasmania)
ใครเคยวาดภาพทริปขับรถตระเวนเที่ยวในออสเตรเลีย บอกเลยว่า แทสมาเนีย ช่วงหน้าหนาว คือสวรรค์ของสาย Road Trip เลยล่ะ พิกัดแนะนำหนีไม่พ้น เมาท์ เวลลิงตัน (Mount Wellington) จุดชมวิวสุดอลังการบนยอดเขาที่สูงที่สุดในเมืองโฮบาร์ต แล้วลงมาเดินเล่นในหมู่บ้านเก่าแก่ Richmond Village สายถ่ายภาพอยากชวนมาตั้งกล้องบันทึกความงดงามของก้อนหินสีส้มตัดกับท้องฟ้าอันสดใสบน ชายหาด Bay of Fires
แคนส์ (Cairns)
หากชอบดำน้ำชมแนวปะการัง บอกเลยว่า Fitzroy Island คือ สวรรค์ของสายสกูบา (Scuba diving) เพราะเกาะนี้ คือที่ตั้งของ Great Barrier Reef แนวปะการังที่ใหญ่ที่สุดในโลก สายชิมอยากชวนไปลิ้มลองอาหารสไตล์ออสซี่ที่ตลาดกลางคืน (Night Markets) คนรักธรรมชาติจะเพิ่มแพลนเติมความสดชื่น เดินสำรวจ อุทยานแห่งชาติ The Daintree National Park ก็เป็นไอเดียที่ไม่ซ้ำใคร
Get to know :
- เมนูห้ามพลาด : กาแฟสไตล์ออสซี่ เช่น Iced Long Black และ Flat White, ไส้กรอกจิงโจ้, พายเนื้อสไตล์แทสมาเนีย, สเต็กเนื้อวัวออสเตรเลีย, Smashed Avocado Toast
- ของฝากแนะนำ : เมล็ดกาแฟจากโรงคั่ว Specialty, น้ำผึ้งแทสมาเนีย, เทียนกลิ่นกาแฟ, สินค้าแฮนด์เมดของชาวท้องถิ่น
- งบเที่ยวชิมช้อปชิลๆ : 15,000-25,000 บาท (สำหรับทริป 5 วัน 4 คืน ไม่รวมตั๋วเครื่องบิน)
Special Tips : การเช่ารถขับเองจะช่วยประหยัดค่าเดินทางได้ดีมาก และควรซื้อ Sim Card Unlimited Data มาจากสนามบิน จะช่วยให้การนำทาง ทำได้แม่นยำยิ่งขึ้น
=================
เป็นยังไงกันบ้าง กับ 10 เมืองน่าเที่ยวครึ่งปีหลัง 2025 และเพื่อให้ทุกการท่องเที่ยวสนุกและคุ้มค่ามากที่สุด เรามีเทคนิคการจับจ่ายผ่านบัตรเครดิต ttb ในมือให้คุ้มแบบมือโปรมาฝาก
แจกเคล็ดลับ เที่ยวต่างประเทศให้คุ้ม ด้วยบัตรเครดิตแบบมือโปร
เพื่อให้ทุกการใช้จ่ายในทริปเติมความแฮปปี้ได้คุ้มค่ามากที่สุด ลองทำตามเทคนิคนี้ค่ะ
- ใช้บัตรจ่ายทุกอย่างที่ทำได้ เช่น จองตั๋วเครื่องบิน ชำระค่าที่พัก เช่ารถ ช้อปของฝาก จ่ายค่าอาหาร จ่ายค่าเดินทางแบบ contactless payment เป็นต้น
- เลือกใช้จ่ายให้เหมาะกับสิทธิ์ และคุณสมบัติของบัตรเครดิตในมือ
- สะสมคะแนนทุกการใช้จ่าย ก่อนนำมาแลกส่วนลดร้านค้า สายการบิน หรือช้อปออนไลน์
- ตรวจสอบโปรโมชันพิเศษจากร้านค้าพาร์ทเนอร์ และโปรโมชันจากเทศกาลต่างๆ
สำหรับใครที่มี บัตรเครดิต ttb อยู่ในมือ อยากชวนมาเช็กพร้อมๆ กันว่าแต่ละใบมีสิทธิ์สุดคุ้มอะไรที่น่าสนใจบ้าง*
- บัตรเครดิต ttb so smart โดนใจสาย cashback รับเงินคืน 1% เข้าบัญชี ทีทีบี โนฟิกซ์ สูงสุด 2,000 บาท/บัญชีบัตร/รอบบัญชี
- บัตรเครดิต ttb so chill โดนใจสายชิลล์ ค่าธรรมเนียมกดเงินสดเพียง 1.5% (จากปกติ 3%) พร้อมโปรโมชันใช้จ่ายรับคะแนนคุ้ม ทุก 25 บาท รับ 1 คะแนน รับคะแนนทุกการใช้จ่าย (1 มี.ค. 2567 ถึง 31 ธ.ค. 2568)
- บัตรเครดิต ttb so fast ที่หนึ่งในใจของสายเก็บคะแนน ทุกการใช้จ่าย 10 บาท รับ 1 คะแนน สามารถนำคะแนนไปแลก Cashback สูงสุด 12% กับร้านค้าที่ร่วมรายการ รับคะแนนไว แลกของทันใจสุดๆ
- บัตรเครดิต ttb absolute บัตรเครดิตใช้ต่างประเทศได้เหนือกว่า คุ้มกว่า รับเอกสิทธิ์คุ้มค่าทุกมุมโลก ด้วยค่าธรรมเนียมใช้จ่ายต่างประเทศ (FX Rate) เพียง 1% (จากปกติ 2.5%) พร้อมรับคะแนน X2 เมื่อใช้จ่ายออนไลน์ ฟรี ประกันอุบัติเหตุจากการเดินทาง วงเงินคุ้มครอง 16 ล้านบาท และ ฟรี บริการห้องรับรองพิเศษ Airport Lounge จำนวน 2 ครั้ง/ปีปฏิทิน
ใหม่! บัตรเครดิต ttb Disney บัตรเครดิตที่คุณสามารถเลือกลายหน้าบัตร เป็นคาร์แรคเตอร์ดิสนีย์ที่รัก ที่มีให้เลือกมากถึง 8 ลาย พร้อมสิทธิ์พิเศษมากมาย* อาทิ
- แตะจ่ายง่ายดาย ด้วย Google Pay ผ่านมือถือแอนดรอยด์
- รับคะแนนทุกการใช้จ่าย รูดจ่าย 25 บาท รับ 1 คะแนนทันที
- รับแต้มสะสม 5 เท่า ในหมวดออนไลน์ ร้านอาหาร และซูเปอร์มาร์เก็ต
- ใช้คะแนน แลกของขวัญสุดแรร์ จาก ttb Disney reward catalog
- ช้อปสินค้าดิสนีย์ในร้านค้าที่ร่วมรายการ รับสิทธิ์ ผ่อนดอกเบี้ย 0% นาน 6 เดือน
เพิ่มความอุ่นใจ เช็กคะแนนรวบครบทุกใบ ทุกการใช้จ่าย ง่ายๆ ผ่าน แอป ttb touch
- เปิดใช้งานฟีเจอร์ "แจ้งเตือนรายการใช้จ่ายต่างประเทศ" ผ่านแอป ttb touch
- เช็กคะแนนจากทุกการจับจ่ายของบัตรเครดิต ttb ของสมาชิกในครอบครัว ง่ายๆ ในคลิกเดียว ผ่านบัญชี ttb rewards family
บัตรเครดิต ttb ทุกใบ คุ้มค่าสุด มีบริการ ttb so goood ผ่อนชำระบัตรเครดิตด้วยอัตราดอกเบี้ย 0% นาน 3 เดือน ทุกร้าน ทุกรายการ เมื่อใช้จ่ายครบ 1,000 บาทขึ้นไป/เซลล์สลิป สามารถทำรายการได้เองผ่านแอป ttb touch และฟรีค่าธรรมเนียมแรกเข้าและรายปี (ยกเว้น บัตรเครดิต ttb Disney จะมีค่าธรรมเนียมแรกเข้า 300 บาท ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และค่าธรรมเนียมรายปี 500 บาท ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับรายละเอียดบัตรเครดิต ttb สามารถศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์บัตรเครดิต และข้อมูลเพิ่มเติมผ่านทางเว็บไซต์ ttb หรือติดต่อสอบถามได้ที่ ttb contact center 1428
*หมายเหตุ :
- เงื่อนไขเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด
- ใช้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนได้เต็มจำนวนตามกำหนด จะได้ไม่เสียดอกเบี้ย 16% ต่อปี
ที่มา : https://www.ttbbank.com