7 ที่เที่ยวหน้าฝน ประเทศลาว ชมเสน่ห์ขุนเขาและสายน้ำ

     ที่จริงแล้ว ลาว ก็ถือเป็นอีกหนึ่งประเทศที่เที่ยวได้ทุกปี ฤดูกาลไหนก็น่าเที่ยว เพราะอุดมไปด้วยความงามทางธรรมชาติ และมรดกทางวัฒนธรรม แต่หน้าฝนก็เป็นอีกหนึ่งฤดูที่ไม่น่าพลาด เพราะเราจะได้สัมผัสกับธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์เขียวขจี ชุ่มฉ่ำมากกว่าปกตินั่นเอง ต่อไปนี้คือ สถานที่ 7 แห่งที่ คุณไม่ควรพลาดในช่วงฤดูฝนในลาว

ที่เที่ยวลาวหน้าฝน เสน่ห์ขุนเขาและสายน้ำ

1. หลวงพระบาง

     หลวงพระบาง เมืองหลวงเก่าของลาวที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดย UNESCO เป็นเมืองที่เงียบสงบเต็มไปด้วยวัฒนธรรม ในช่วงฤดูฝน เมืองหลวงแห่งนี้จะยิ่งสวยขึ้นด้วยต้นไม้ที่เขียวขจี และแม่น้ำที่ใสสะอาด

     ขึ้นชื่อเรื่องน้ำตกที่สวยงามและบรรยากาศที่เงียบสงบ หลวงพระบางเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ห้ามพลาดในช่วงฤดูฝน น้ำตกที่มีชื่อเสียงที่สุดในพื้นที่นี้คือ น้ำตกตาดกวางสี Kuang Si Waterfall ซึ่งจะมีความยิ่งใหญ่ และทรงพลังมากยิ่งขึ้นในช่วงเวลานี้ของปี

2. วังเวียง

     วังเวียง มีชื่อเสียงเรื่องถ้ำหินปูนที่น่าทึ่ง และกิจกรรมผจญภัย เป็นสถานที่อีกแห่งที่ควรค่าแก่การเยี่ยมชมในช่วงฤดูฝน ยิ่งช่วงฝนตกยิ่งเพิ่มความลึกลับให้กับภูมิประเทศ สำรวจถ้ำ ล่องแพไปตามแม่น้ำ หรือนั่งบอลลูนลมร้อนเพื่อชมทิวทัศน์แบบพาโนรามาของภูเขาโดยรอบ ความเขียวขจี และบรรยากาศที่ปกคลุมด้วยหมอกยิ่งทำให้รู้สึกทึ่ง

3. ที่ราบสูงโบลาเวน Bolaven Plateau

    ที่ราบสูงโบลาเวน ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของลาว ถือเป็นอัญมณีที่ซ่อนอยู่ซึ่งจะมีชีวิตชีวาในช่วงฤดูฝน ภูมิภาคนี้ขึ้นชื่อเรื่องไร่กาแฟ น้ำตก และทิวทัศน์ที่สวยงาม ฝนที่ตกหนักในช่วงเวลานี้ของปีช่วยเพิ่มความสวยงามของน้ำตก เช่น น้ำตกตาดฟาน น้ำตกที่สวยงาม และสูงที่สุดในประเทศลาว สูงประมาณ 500 เมตร ทำให้เกิดปรากฏการณ์ที่น่าทึ่ง ให้เราได้เพลิดเพลินกับกาแฟสด ขณะที่ชมวิวทิวทัศน์อันสวยงามของที่ราบสูง

4. แม่น้ำอู Nam Ou River

     ออกเดินทางไปตามแม่น้ำอู แม่น้ำสายหลักสายหนึ่งในประเทศลาว มีความยาวประมาณ 448 กิโลเมตร ต้นน้ำอยู่ที่เมืองวังเวียง ไหลผ่านเมืองหลวงเก่าหลวงพระบาง และสิ้นสุดที่แม่น้ำโขงในเมืองปากเซในช่วงฤดูฝน เพื่อสัมผัสประสบการณ์ที่ยากจะลืมเลือน แม่น้ำที่เอ่อล้นไปด้วยน้ำ ทำให้เกิดบรรยากาศที่งดงามราวภาพวาด ล้อมรอบด้วยหน้าผาสูงตระหง่าน และป่าทึบ ล่องเรือผ่านผืนน้ำอันเงียบสงบ ผ่านหมู่บ้านดั้งเดิมและนาข้าวอันเขียวขจี

5. ทุ่งไหหิน Plain of Jars

     ทุ่งไหหิน แหล่งโบราณคดีที่น่าสนใจ กลุ่มหินเหล่านี้สร้างขึ้นโดยอารยธรรมโบราณเมื่อประมาณ 2,000 ปีก่อน แต่ไม่มีหลักฐานที่แน่ชัดว่าใครเป็นผู้สร้างและเพื่อวัตถุประสงค์ใด โดยเฉพาะช่วงฤดูฝน ไหหินโบราณเหล่านี้ที่กระจายอยู่ทั่วที่ราบ และยิ่งมีกลิ่นอายลึกลับเมื่อถูกห้อมล้อมด้วยหมอกและสายฝน

6. ปากเซ

     ปากเซ เป็นเเมืองที่ใหญ่ที่สุดของแขวงจำปาสักทางตอนใต้ของลาว ตั้งอยู่ที่จุดบรรจบของแม่น้ำเซดอน และแม่น้ำโขง ที่นี่ก่อตั้งโดยนักล่าอาณานิคมชาวฝรั่งเศสในปี 1905 และมีประวัติศาสตร์อันยาวนาน ปากเซทำหน้าที่เป็นประตูสู่ภาคใต้ของลาว และเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยว เมืองนี้มีการผสมผสานเสน่ห์ของลาวแบบดั้งเดิม เข้ากับสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัย

7. สี่พันดอน

     สี่พันดอน เป็นกลุ่มเกาะที่ตั้งอยู่ในแม่น้ำโขงทางตอนใต้ของประเทศลาว เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่ขึ้นชื่อเรื่องบรรยากาศที่เงียบสงบ ให้นักท่องเที่ยวได้ผ่อนคลาย และเพลิดเพลินกับความงามตามธรรมชาติ มีกิจกรรมทางน้ำต่างๆ เช่น ทัวร์ทางเรือ พายคายัค เป็นต้น

     สี่พันดอนยังเป็นที่รู้จักจากน้ำตกที่สวยงาม รวมถึงน้ำตกคอนพะเพ็ง ซึ่งเป็นหนึ่งในน้ำตกที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ น้ำตกแห่งนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดสำหรับผู้ชื่นชอบธรรมชาติและมีทิวทัศน์อันน่าทึ่ง

     โดยสรุป ฤดูฝนในลาวถือเป็นโอกาสพิเศษในการสัมผัสความงามทางธรรมชาติของลาวในมุมที่ต่างออกไป ตั้งแต่น้ำตก ที่ราบสูง ไปจนถึงแม่น้ำ และแหล่งโบราณคดี รีบแพ็คเสื้อกันฝน เริ่มต้นการผจญภัยเพื่อค้นหาความงามที่ซ่อนอยู่ของประเทศลาวในช่วงฤดูฝนกัน

====================