ขึ้น 9 ค่ำ ถึงวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 4 ใต้ เดือน 6 เหนือ ของทุกปี หมู่เฮาชาวเหนือ โดยเฉพาะคนเมืองแพร่ จะพร้อมใจกันมาร่วมงาน “ประเพณีไหว้พระธาตุช่อแฮ เมืองแพร่แห่ตุงหลวง” และภาพในชุดนี้ คือวันที่ 14 มีนาคม 2562 ที่เราได้มาร่วมงานเป็นปีที่ 2 ในวัยย่างเข้า 40 เพราะแม่และผู้เฒ่าทั้งหลาย ท่านอยากมาร่วมทำบุญ ณ ที่แห่งนี้ เราเดินทางออกจากลำปาง ในเส้นทางลำปาง – เด่นชัย – แพร่ โดยแวะเที่ยวที่วัดพระธาตุสุโทนมงคลคีรีกันก่อน รวมถึงกินข้าวเช้าที่วัดแห่งนี้ด้วย ก็ราว ๆ ประมาณ 8 โมงเช้าพอดี จากนั้นเดินทางไปยัง “วัดพระธาตุช่อแฮ” ซึ่งในช่วงเช้า จะยังไม่มีพิธีการใด ๆ ที่เป็นทางการ ศรัทธาสาธุชนทั้งหลาย รวมถึงเราก็หาของกินบ้าง เดินเที่ยวดูสินค้าบ้าง นั่งพักใต้ร่มไม้บ้าง เอาเป็นว่าตามอัธยาศัย วัดพระธาตุช่อแฮ ถูกจัดให้เป็นพระอารามหลวง ดังนั้นพื้นที่ภายในบริเวณวัดจะกว้างขวางมาก เมื่อมีงานประเพณีใหญ่กันทั้งที ก็เป็นโอกาสอันดีของพ่อค้าแม่ขายกันเลยทีเดียว ที่สำคัญของกินแนวป่าจะเยอะมาก เช่น มดแดง ผักหวานป่า รวมถึงเครื่องเทศ แม่ซื้อเยอะมาก จนต้องให้เราเอาของไปเก็บที่รถก่อน เพราะถือไม่ไหวกันแล้วล่ะ ... ตรงร่มหลากสีไกล ๆ โน่นเลย สารพัดสินค้าให้เลือกชอป ที่วิหารหลวงด้านบนเนินสูง นักท่องเที่ยวจะพร้อมใจขึ้นมากราบพระกันก่อน เพื่อความเป็นสิริมงคล ด้านในวิหารทั้งกว้างขวาง และงดงามมาก ส่วนบริเวณโดยรอบ ก็กว้างขวางไม่แพ้กัน มีจุดสักการะบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ รวมถึงจุดนั่งพักเยอะพอสมควร วันดีแห่งปีแบบนี้ แน่นอนว่าโรงทานต้องมาร่วมบุญแน่นอน จุดนี้เป็นโรงทานน้ำหวาน ซึ่งขายออกดีมาก เพราะในเดือนมีนาคม อยู่ในช่วงฤดูร้อน และไม่ต้องห่วงว่าของจะขาด เพราะแม่ค้ามีความพร้อมมาก จัดให้ฟรี!! ไม่มีอั้น ทานแล้วทิ้งขยะกันให้ถูกที่ถูกทางก็พอ ใครมาถึงก่อน ก็นำดอกไม้ธูปเทียนเวียนพระธาตุก่อนได้เลย ส่วนเรามีเรื่องสงสัย เพราะที่ป้ายบอกว่า “เวียนขวา” แต่ทำไมทุกคนเดินไปทางซ้าย จึงเข้าไปถามคุณป้า ได้ความมาว่า คำว่า “ขวา” คือ ให้องค์พระธาตุอยู่ทางขวามือของเรา เพราะเป็นสิริมงคล ในทางตรงกับข้าม หากเป็นงานขาวดำ เราต้องเวียนไปอีกทาง เพื่อความเหมาะสม … จึงถึงบางอ้อ!! ด้วยประการฉะนี้ ในเวลาบ่ายกว่า ๆ รถน้ำคันใหญ่จะเวียนมารดน้ำที่ถนนเป็นระยะ (ดังในภาพ) เพราะในช่วงฤดูร้อน ไอร้อนที่พวยพุ่งขึ้นมา ก็จะร้อนเป็นพิเศษ และเพราะต้นขบวน จะเป็นขบวนช้างนำมา เกรงว่าช้างจะร้อนเกินไป จึงต้องดูแลเรื่องความร้อนกันมากสักหน่อย ซึ่งดีต่อนักท่องเที่ยวด้วยเหมือนกัน ลดฝุ่นไปได้มากเลยทีเดียว เวลาบ่ายสามโมงเย็น รถตำรวจนำขบวน ค่อย ๆ เคลื่อนตัวมาอย่างช้า ๆ ท่ามกลางเสียงตื่นเต้นของนักท่องเที่ยว ที่มารอชมกันตั้งแต่บ่ายนิด ๆ แล้ว โดยความรู้สึกส่วนตัว แม้ว่าปีก่อนหน้านี้ จะได้มาเห็นแล้วก็ตาม แต่ก็ยอมรับว่า ยังมีความสุข สนุก และศรัทธากับวิถีล้านนาบ้านเราอยู่เสมอ ไม่เคยเปลี่ยน เพราะงดงามแตกต่างกันไปทุกปี สังเกตได้ว่า การฟ้อนบวงสรวงพระธาตุ จะเปลี่ยนไปอย่างมาก ก่อนหน้านี้เมื่อหลายปีก่อน จะมีช่างฟ้อนไม่กี่คน เป็นตัวแทนของแต่ละที่ในการฟ้อนรำ แต่ปัจจุบัน จะเป็นช่างฟ้อนนับร้อยชีวิต ที่มารวมตัวกัน ฟ้อนรำในท่วงท่าเดียวกัน ในชุดสีเดียวกัน ซึ่งเป็นภาพที่สวยงามและประทับใจมาก ในขบวนของแต่ละอำเภอ จะจัดไม่เหมือนกัน ซึ่งจะคงเอกลักษณ์ของแต่แห่งเอาไว้ ที่เห็นเหมือนกันคือ เครื่องสักการะบูชา ที่ต้องมีครบถ้วนในแบบฉบับท้องถิ่น รวมถึงการตีกลองต่าง ๆ ด้วย โดยเราจะได้เห็นการใช้เครื่องดนตรีในรูปแบบล้านนา ที่อาจจะไม่เคยได้เห็นมาก่อน หรือในยุคนี้ไม่ค่อยได้ใช้กันแล้ว ซึ่งเป็นภาพที่ทำให้ยิ้มได้ไม่น้อยเลยล่ะ “วัดพระธาตุช่อแฮ” สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดแพร่ เป็นวัดที่มีความสวยงาม มีพระธาตุสีทองตั้งตระหง่าน ณ เนินสูงด้านบน นักท่องเที่ยวที่มาเมืองแพร่ ต้องมากราบไว้เพื่อเป็นสิริมงคลอยู่เสมอ หากเพื่อน ๆ มีโอกาสได้มาเยือน อย่าลืมมาอธิษฐานขอพระกันนะ เพราะที่แห่งนี้คือ ถิ่นรักพระลอ ช่อแฮศรีเมือง