ช่วงหน้าฝนแบบนี้หลายคนคงไม่อยากออกไปเที่ยว ลองอ่านบทความนี้ดูค่ะ แล้วคุณจะรู้ว่าหน้าฝนมีอะไรให้เที่ยวมากกว่าที่คุณคิด "สังขละบุรี" เป็นอำเภอหนึ่งในจังหวัดกาญจนบุรีซึ่งมีเขตแดนติดกับประเทศพม่า หลายๆคนคงรู้ว่าเอกลักษณ์ของสังขละบุรี คือ สะพานอุตตมานุสรณ์ หรือที่นิยมเรียกกันว่า สะพานมอญ เป็นสะพานไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศไทย มีความยาวถึง 445 เมตร ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังที่ต้องไปให้ถึง ก่อนเริ่มทริปนี้ไม่เคยรู้จักสังขละบุรีมาก่อนเลยค่ะ แถมเป็นหน้าฝนอีก ได้แต่คิดว่าทริปนี้คงนอนแพดูวิวทั้งวันแน่ แต่ไม่เลยค่ะ สังขละบุรีมีอะไรมากกว่าที่คิดเยอะเลยค่ะ มาเที่ยวครั้งนี้เรามากับเพื่อนและกล้องฟิล์มตัวแรกในชีวิตที่เก็บภาพได้เพียง 27 รูปเท่านั้น ภาพที่อยู่ในบทความนี้เราถ่ายด้วยตนเองทั้งหมดค่ะ และเราบอกได้เลยว่าสังขละบุรีเป็นที่ที่เราลืมไม่ลงเลยจริงๆค่ะ เราเลือกพักที่แพแห่งหนึ่งริมแม่น้ำซองกาเลียใกล้ๆกับสะพานมอญ มองเห็นวิวสะพานได้อย่างชัดเจน วิวธรรมชาติที่เต็มไปด้วยภูเขารายล้อม และที่สำคัญหน้าฝนก็ทำให้เราเห็นหมอกสีขาวๆโอบกอดภูเขาไว้มากมาย อากาศที่เย็น บรรยากาศที่สงบ ก็ทำให้เราผ่อนคลายจากความเหนื่อยล้าทั้งหมดได้ดีเลยค่ะ เริ่มการท่องเที่ยวสังขละบุรีด้วยการเหมาเรือเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ ไกด์นำเที่ยวที่ดีที่สุดก็คือคนขับเรือค่ะ เขาเป็นคนมอญพูดภาษาไทยไม่ค่อยชัดเท่าไร แต่ฟังรู้เรื่องนะคะ สถานที่แรกที่เขาพาไป คือ วัดวังก์วิเวการาม (เก่า) หรือ วัดหลวงพ่ออุตตมะ เป็นโบสถ์หลังเก่าที่จมอยู่ใต้น้ำ แน่นอนค่ะเราไปหน้าฝนจึงทำให้เห็นโบสถ์แค่บางส่วน แต่ก็ทำให้เราได้เห็นวัดที่อยู่ใต้น้ำจริงๆค่ะ ภายในโบสถ์มีพระพุทธรูปให้คนสักการะ ถวายดอกไม้ได้ค่ะ มาวัดแห่งนี้ทำให้รับรู้ได้ถึงความเชื่อ ความขลังและความเก่าแก่ของผู้คนที่นี่ที่มีมาอย่างยาวนานค่ะ สถานที่ต่อไป คือ วัดสมเด็จ(เก่า) เป็นเหมือนวัดร้างแต่ไม่ร้างนะคะ พอเรือจอดเราต้องขึ้นบันไดไปยังโบสถ์ซึ่งอยู่ด้านบนเนินเขาเล็กๆค่ะ บันไดเป็นเหมือนก้อนอิฐ เต็มไปด้วยรากของต้นไม้ ภายในโบสถ์มีพระประทานที่ค่อนข้างสมบูรณ์ รอบๆโบสถ์นั้นปกคลุมด้วยต้นไทรมากมาย ด้วยบรรยากาศที่สงบและครึ้มฟ้าครึ้งฝน จึงยิ่งทำให้วัดแห่งนี้ดูขลังและเก่าแก่มากๆค่ะ ระหว่างการเดินทางด้วยเรือสิ่งที่เห็นชัดเจนและสวยงามมาก คือ เจดีย์พุทธคยา เจดีย์สีทองที่ตั้งตะหง่านเด่นออกมาจากภูเขาสีเขียวมากมายค่ะ จึงทำให้เราอยากไปเห็นใกล้ๆค่ะ จึงตัดสินให้ลุงคนขับเรือจอดเทียบท่าเพื่อเดินต่อไปยังเจดีย์นี้ค่ะ การมาครั้งแรกย่อมมีการหลงทางเกิดขึ้นค่ะ แต่โชคดีที่เราได้เจอเด็กๆกลุ่มนึงเพิ่งกลับจากโรงเรียน เราจึงถามทางเด็กๆกลุ่มนี้ เด็กๆบอกอย่างละเอียดเลยค่ะ ผู้คนที่นี่น่ารักและเป็นมิตรมากๆค่ะ และในที่สุดก็ถึง เจดีย์พุทธคยา ค่ะ เจดีย์พุทธคยานี้เป็นที่ที่จำลองขึ้นจากเจดีย์พุทธคยาในประเทศพม่า เพื่อประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุที่หลวงพ่ออุตตมะอัญเชิญมาจากประเทศศรีลังกาค่ะ พอมาดูใกล้ๆแล้วสวยมากๆค่ะ บรรยากาศที่นี่ก็จะเห็นชาวมอญนุ่งขาวห่มขาวพากันมาทำบุญ ไหว้พระ สวดมนต์ เดินจงกลมกันมากมายเลยค่ะ ทุกคนดูมีกิริยาที่สำรวม มีเสียงระฆังดังจากรอบๆตลอดเวลา ทำให้เห็นว่าผู้คนที่นี่นับถือและศรัทธาเลื่อมใสในศาสนาพุทธเป็นอย่างมากค่ะ สถานที่ต่อไปคือ วัดวังก์วิเวการาม (ใหม่) หรือ วัดหลวงพ่ออุตตะมะ อยู่ห่างจากเจดีย์พุทธคยาไม่ไกลมากค่ะ แม่ค้าที่ขายของอยู่ใกล้ๆเจดีย์พุทธคยาแนะนำให้เรานั่งวินมอเตอร์ไซค์มาค่ะ มีวัดนี้เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปหินอ่อนที่งดงามและเป็นที่จำพรรษาของหลวงพ่ออุตตมะอีกด้วยค่ะ บรรยากาศโดยรอบจะเห็นผู็คนมากมายมาสักการะ ถวายสังฆทาน สวดมนต์ ทำสมาธิกันมากมายค่ะ แสดงให้เห็นถึงความเคารพนับถือของผู้คนที่นี่ที่มีต่อหลวงพ่ออุตตมะเป็นอย่างยิ่งค่ะ และสถานที่สุดท้ายที่เราไปคือ สะพานมอญ นั่นเองค่ะ เป็นสะพานที่ยาวและสูงกว่าที่เราคิดไว้เยอะเลยค่ะ ผู้คนที่นี่ใช้งานสะพานมอญนี้อยู่ตลอดเวลา มีชาวมอญหาบของโดยการไว้บนหัวเดินไปมาโดยของไม่ตก ต้องลองเห็นด้วยตาตัวเองจริงๆสักครั้งค่ะ มีเด็กๆรับปะแป้งถ่ายรูปบนสะพานด้วยนะคะ เด็กๆน่ารักมากๆค่ะ วิวบนสะพานมอญสวยและกว้าง และหน้าฝนนี้ก็ทำให้เราดื่มด่ำบรรยากาศบนสะพานได้นานเลยค่ะ เพราะอากาศเย็น สงบ และเห็นหมอกในทุกๆที่ สวยงามมากจริงๆค่ะ แล้วพบกันใหม่ทริปหน้า สวัสดีค่ะ :) สุดท้ายนี้อยากให้ทุกคนลองเปิดใจกับการเที่ยวหน้าฝน หน้าฝนไม่ได้ทำให้เราลำบากอย่างที่คิดนะคะ แต่การเที่ยวหน้าฝนนั้นคุ้มค่ากับการพกร่ม พกเสื้อกันฝนไปด้วยแน่นอนค่ะ สังขละบุรีรอให้ทุกคนไปเที่ยว ไปเห็นสิ่งต่างๆด้วยตนเองอยู่นะคะ ** ภาพทั้งหมดโดยผู้เขียน