นครพนมเมืองแห่งความสุข ถ้าหากผู้เขียนจำไม่ผิดผู้เขียนจำได้ว่านครพนมเคยถูกจัดอันดับเป็นจังหวัดที่มีความสุขที่สุดในประเทศด้วย ก็ดูไม่ผิดอะไรเพราะตอนที่ผู้เขียนมาบรรยากาศอบอวลไปด้วยความสุขจริงๆ ใครได้มาเยือนก็ต้องตกหลุมรักเมืองเล็กๆ ริมโขงแห่งนี้แน่นอนค่ะ ก่อนน้ำท่วมใหญ่ที่อุบลฯ ปีที่แล้วก็คือ ปี 2562 นั่นแหละค่ะ ผู้เขียนได้มีโอกาสไปจังหวัดนครพนมเป็นความตั้งใจที่อยากจะมานานแล้ว จนมาถึงวันหยุดของพวกเรา แต่การเดินทางที่สนุกมักจะมีอุปสรรคอยู่เสมอ เนื่องจากวันที่เราเดินทาง คือวันที่ 31 สิงหาคม เป็นวันที่มีฝนตกและน้ำท่วมในบางพื้นที่แล้ว เส้นทางตรงที่จะขับมานั้นฝ่าน้ำบนถนนไม่ได้เลย และขับมาจนจะครึ่งทางอยู่แล้วแต่ข้ามสะพานไม่ได้อีก ฮ่าๆๆ เจ้าหน้าที่บอกให้เราต้องกลับรถอ้อมไปอีกทาง ซึ่งเราอ้อมไปทาง อำเภอดอนตาล จังหวัดมุกดาหาร ซึ่งถือว่ามันไกลออกไปเรื่อยๆ อย่างมาก ตอนนั้นก็กลัวมากเพราะสองข้างทางส่วนใหญ่ก็เป็นป่าอีกทั้งแล้วสัญญาณโทรศัพท์ไม่มีเลย จอดถามชาวบ้านแถวนั้นบอกว่าไฟฟ้าดับหลายวันแล้ว กว่าจะเข้าเขตนครพนมเล่นเอาลุ้นอยู่เหมือนกันว่าเราจะหลงทางกันไหม ถึงกับถามกันในกลุ่มว่าจะกลับหรือไปต่อดี เพราะตอนนั้นข่าวออกเยอะมาก ว่าน้ำเริ่มท่วมในหลายพื้นที่ทางก็ขาด พวกเราก็กลัวกลับมาอุบลฯ ไม่ได้ แต่ก็ลงความเห็นกันว่าไหนๆ ก็ได้ตั้งใจมาแล้วก็ต้องไปให้สุดค่ะ และแล้วความตั้งใจเราก็มาถึงสถานที่แห่งแรกกันค่ะ คือ วัดพระธาตุพนม ที่เลือกมาที่นี่ก่อนก็คือว่าอยากทำบุญก่อนให้สบายใจก่อน ขออย่าให้มีฝนฟ้าอากาศมาทำให้ทริปนี้ล่มเลย ฮ่าๆๆ แต่เหมือนฝนฟ้าจะเห็นใจ พอมาถึงวัดแดดก็ออกทันทาเห็นเลยค่ะ สงสัยคงอยากให้เราได้สะสมแต้มบุญกันแน่ๆ วัดนี้ถ้าใครมานครพนมย่อมไม่พลาดแน่ๆ ค่ะ ต่อด้วย วัดพระธาตุเรณู อำเภอเรณูนคร วัดนี้ก็สวยงามไม่แพ้กันเลยค่ะ พระธาตุเรณูจะมีลักษณะเป็นสีชมพูและสีขาวค่ะ เป็นพระธาตุประจำวันจันทร์สำหรับใครที่มีความเชื่อ คนที่เกิดวันจันทร์ก็แวะมานมัสการได้ค่ะ เขาบอกว่าจะได้อานิสงค์ส่งผลให้มีวรรณะงดงามดังแสงจันทร์ค่ะ ก็ไปมาหลายทีแล้ว ไหนๆ ก็จะค่ำ ผู้เขียนขอรีวิวอาหารก่อนแล้วค่ะ อาหารของที่นี่ก็มีหลากหลายมาก ร้านค้า ร้านอาหารริมโขงเยอะแยะเต็มไปหมด เลือกไม่ถูกเลยจริงๆ สำหรับคนที่ชอบมานั่งชิลๆ บรรยากาศดีๆ จิบน้ำชา ที่นี่เหมาะเลยค่ะ ถัดมาอีกวันที่นครพนม เนื่องจากสถานการณ์น้ำท่วมและเพื่อนๆ หลายคนก็เป็นห่วงในการเดินทางกลับ พวกเราก็จึงตัดสินใจกลับในวันนี้ แต่ก่อนกลับเลยขอแวะอีกสักหน่อยไหนๆ ก็หลงรักไปแล้ว ก็ให้เก็บความทรงจำอีกสักหน่อย พวกเราได้ไปเยี่ยมชม วัดนักบุญอันนา ที่เป็นสถาปัตยกรรมที่งดงามริมแม่น้ำโขง, ไปสักการะพญาศรีสัตตนาคราช ที่เป็นแลนด์มาร์คอันศักดิ์สิทธิ์ของชาวนครพนม และสถานที่สุดท้ายไปเก็บเอาความรู้สักหน่อยค่ะ ที่บ้านลุงโฮจิมินห์ มาจนถึงท้ายบทความแล้วผู้เขียนไม่แปลกใจว่าทำไมหลายๆ คนที่ได้มาต้องหลงรักนครพนม เพราะมีสถานท่องเที่ยวมากมาย และเราสามารถตามรอยอารยธรรมได้ครบรสทั้งธรรมมะ ธรรมชาติ และวัฒนธรรมแห่งลุ่มน้ำโขงค่ะ แม้ผู้เขียนจะยังมีอีกหลายที่ที่อยากไปต่อ แต่ก็คงเอาไว้คราวหน้าแล้วกันค่ะ ผู้เขียนว่าความสุขนั้นหาได้ง่ายแค่เราได้ออกเดินทางไปสัมผัสกับสิ่งใหม่ๆ แต่ว่าช่วงนี้สถานการณ์โควิด-19 ยังทำให้หลายๆ คน ต้องกักตัวอยู่บ้าน ผู้เขียนจึงขอเขียนไว้เป็นแนวทางและแชร์ประสบการณ์ ถ้าเมื่อไหร่โรคร้ายนี้หายไปขอให้ท่านผู้อ่านได้แพลนไปเที่ยวเมืองแห่งความสุขนี้ ไปหาความสุข ณ ริมฝั่งโขง ที่นครพนมกันนะคะ ภาพโดย :ผู้เขียน