ชุนชนริมคลองที่แต่งแต้มด้วยงานศิลป์ไม่ขาดสาย กับบรรยากาศเก่าๆ ที่ชวนคิดถึง แวะพายเรือกับเหล่า 'น้องแมวs' อ้วนตุ่บ ณ ตลาดเก่าหัวตะเข้ :)"ตลาดเก่าหัวตะเข้" เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจเลยไม่รอช้าที่จะจัดทริปออกเดินทางไปยังสถานที่แห่งนี้ แม้จะเป็นทริปสั้นๆ 2 วัน 1 คืนแถมเป็นวันธรรมดาที่ทางชุมชนไม่ได้มีกิจกรรมใดใด พูดได้ว่าเป็นการมาพักผ่อนแบบ 100% แต่บอกได้เลยว่าวันธรรมดาก็กลายเป็นวันธรรมดาที่แสนพิเศษได้เช่นกันค่ะ เพื่อนๆ คนไหนที่กำลังมองหาสถานที่ท่องเที่ยวฮีลใจ อยากพาตัวเองมาใช้ชีวิต Slow life พร้อมสัมผัสวิถีชีวิตแสนเรียบง่ายของผู้คนในชุมชนตลาดเก่าหัวตะเข้แห่งนี้ก็สามารถเดินทางมาได้อย่างง่ายดายค่ะเส้นทางสู่ "ตลาดเก่าหัวตะเข้" ด้วยรถไฟ 2 บาท ! โดยเส้นทางที่เราใช้ เราเริ่มต้นที่ BTS สถานีพญาไท -> เปลี่ยนไปขึ้น Airport Rail Link ที่สถานีพญาไท -> ลงสถานีลาดกระบัง -> เดินลงสถานีลาดกระบังจะเจอกับกำแพงสูง ๆ ให้เดินต่อไปเรื่อย ๆ จนเจอกับประตูบานเล็กๆจะเป็นทางเข้าไปในสถานีรถไฟ -> พอถึงสถานีรถไฟแล้วให้เราทำการซื้อตั๋วที่สถานีลาดกระบัง ราคาตั๋วจะอยู่ที่คนละ 2 บาทถ้วน (ใช้เวลารอรถไฟประมาณ 30 นาที รถไฟก็มาแล้ว) -> ลงที่สถานีหัวตะเข้...เท่านี้เราก็มาถึงหัวตะเข้แล้วค่าา เย้ ~!ที่นี่ ณ ตลาดเก่าหัวตะเข้หลังจากหลุดจากตัวเมืองมาถึงตลาดเก่าหัวตะเข้ประมาณบ่ายสองนิดๆ ก็ได้เวลาเซ็คอิน ที่พักสำหรับเราในคืนนี้คือที่ "สี่แยกหัวตะเข้คาเฟ่ แอนด์เกสต์เฮ้าส์ Si Yaek Huatakhe Cafe & Guesthouse" เป็นคาเฟ่ที่มีบริการเกสต์เฮ้าส์สำหรับผู้มาเยือนด้วย ครบจบที่เดียวทั้งที่กินที่นอนไปเลยจ้าบรรยากาศในห้องถูกตกแต่งในสไตล์วินเทจ มีความ 90's เพื่อให้เข้ากับคาเฟ่และบรรยากาศชุมชน เป็นการผสมผสานที่ลงตัวสุดๆเปิดประตูหลังม่านออกไปจะเจอกับระเบียงที่ตกแต่งให้เข้ากับห้องนอน เป็นพื้นที่แสนสงบเหมาะแก่การพักผ่อน ไม่เร่งรีบเพลิดเพลินไปกับการนั่งซึมซับวิถีชีวิตริมคลองอันแสนสงบแวะเพิ่มพลังที่ร้าน "ก๋วยเตี๋ยวโรงกลึง"หลังจากเช็คอินทัวร์ห้องนอนเสร็จแล้ว ก็ถึงเวลาหาอะไรใส่ท้องเพราะกระเพาะเจ้ากรรมเริ่มมีเสียงประท้วงดังขึ้นมาว่า หิวๆๆๆ สุดท้ายก็พาตัวเองมาที่ร้าน ก๋วยเตี๋ยวโรงกลึง เป็นร้านก๋วยเตี๋ยวขึ้นชื่อของที่นี่ ใครได้มาต้องแวะมาฝากท้องที่นี่ให้ได้เลยน้าจัดการสั่งบะหมี่หมูเกี๊ยวกุ้งต้มยำทะเล ส่วนของเพื่อนเป็นบะหมี่หมูต้มยำ แถมราคาก็ยังน่ารักสนนราคาอยู่ที่ 40-55 บาทเท่านั้น รสชาติก็กลมกล่อม เปรี้ยว หวาน เผ็ดกำลังพอดีไม่ต้องปรุงเพิ่ม และสิ่งที่ประทับใจที่สุดคงเป็นเกี๊ยวกุ้งที่จริงใจ เพราะเขาอัดเนื้อกุ้งแน่นๆ เต็มคำ กัดเข้าไปตะโกนได้คำเดียวว่า กุ้งงงงงงงงงงงงงง~! สาวกกุ้งเลิฟเวอร์ถูกใจสิ่งนี้บอกเลยกิจกรรมฮีลใจ ณ ตลาดเก่าหัวตะเข้กิจกรรมที่เป็นไฮไลท์สุดๆ ของที่นี่ก็คงหนีไม่พ้น "พายเรือเก็บขยะกับเหล่าน้องแมวs" เป็นกิจกรรมของทางเกสต์เฮ้าส์ที่จะพาพายเรือเก็บขยะในลำคลองกับเหล่าน้องแมวเซเลป ที่แต่ละแมวจะมีจิตวิญญาณและความน่ารักต่างกันออกไป แต่ความสามารถพิเศษที่เหล่าแมวๆ ทุกแมวมีก็คือน้องๆ ทรงตัวบนเรือได้อย่างผู้เชี่ยวชาญและว่ายน้ำเก่งประหนึ่งนักกีฬาโอลิมปิก (สุดยอดดดด) เห็นแล้วก็อดเอ็นดูไปกับความเก่งและวิถีชีวิตแมวริมคลองไม่ไหวเลยอะ โง้ยยย นอกจากจะมีกิจกรรมพายเรือเก็บขยะกับเหล่าแมวๆ แล้ว ทางเกสต์เฮ้าส์ยังมีกิมมิคเล็กๆ ที่ทำให้ผู้เข้าพักอย่างเราอดยิ้มไม่ได้นั่นก็คือในห้องพักจะมีสมุดให้เราเขียนความรู้สึกที่มีต่อที่นี่หรือเขียนระบายอะไรก็ได้เพราะไม่มีใครรู้ว่าเราเป็นใคร 55555คือที่มันน่ารักสุดๆไปเลยก็เพราะผู้ที่มาเข้าพักต่อก็สามารถเปิดอ่านเรื่องราวของผู้คนที่ผ่านมาที่นี่ได้ ทำให้รู้สึกว่าเราได้รู้จักเพื่อนนักเดินทางหลายท่านที่กำลังมีทั้งความสุขและทุกข์ในตอนที่ได้มาที่นี่ อ่านแล้วรู้สึกอยากจะกอดทุกคนเลย พอได้อ่านทุกเรื่องราวในสมุดแล้วเหมือนมีเพื่อนใหม่ๆ มานั่งคุยฮีลใจด้วยกัน บ๊ายบายน้า "หัวตะเข้" เช้าวันที่ 2 ก็ถึงเวลาโบกมือลาหัวตะเข้ หลังจากเช็คเอ้าท์จากที่พัก บรรยากาศยามเช้าของที่นี่ก็ยังคงสงบและร่มรื่มเหมือนเดิม ฮีลใจตั้งแต่เดินเข้ามาจนกระทั่งเดินออกจากที่นี่เลยอะ ก่อนจะไปก็ขอแวะฝากท้องร้านอาหารตามสั่งสะหน่อย คราวนี้สั่งผัดฉ่าทะเลฉ่ำๆ กุ้งก็ฉ่ำ หมึกก็ฉ่ำ ในราคา 50 บาท อิ่มไปครึ่งวัน แถมรสชาติก็ดีไม่มีผิดหวัง เผ็ดหวานกลมกล่อมสะใจสุดๆตอนจ่ายเงินเลยอดใจไม่ไหวที่จะแวะบอกคุณป้าเจ้าของร้านว่า "อร่อยมากเลยค่ะ" และสิ่งที่ป้าตอบกลับมาคือ "โอ้ ขอบใจจ้า ป้าอยากได้ยินแค่นี้แหละ :)" เป็นคำพูดสั้นๆ ที่ทำให้ยิ้มตามยาวๆการมาทริปสั้นๆ ในวันธรรมดาครั้งนี้ดูเหมือนจะไม่มีอะไรหวือหวา ไม่ได้มีอะไรน่าตื่นเต้น แค่เป็นการพาตัวเองมาสร้างความทรงจำกับเพื่อน มาค้นพบพื้นที่แห่งความสบายใจด้วยกัน มารู้จักกับผู้คนที่น่ารัก มากินอาหารอร่อยๆ มาฮีลใจกับเหล่าเซเลปก้อนขนสี่ขา เพลิดเพลินไปกับความร้แก่นสาร ไม่ต้องเร่งรีบแค่ซึบซับทุกความรู้สึกที่เราใช้ไปกับตัวเองและบรรยากาศรอบข้างภายใน 2 วัน 1 คืนนี้ แค่นี้ก็เรียกว่า "ความสุข" ได้แล้วค่ะ ขอให้ทุกคนที่เข้ามาอ่านบทความนี้หาพื้นที่แห่งความสบายใจเจอกันไวๆนะคะ :) รูปภาพถ่ายโดยผู้เขียนบทความและไม่อนุญาตให้นำไปใช้ในทุกกรณีอยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !