หนีฝุ่น หนีความวุ่นวายไปนอนตากพุงกินบรรยากาศ ชิลกว่านี้ไม่มีแล้ว อุทยานแห่งชาติ ดอยภูคา ไปเที่ยวกันเถอะ คิคิ วันนี้เราจะหนีฝุ่นกรุงเทพ จะหนีความวุ่นวายต่าง ๆ ไปตากอากาศ กางเต็นท์นอนชิล ๆ ปกติเป็นสายกางเต็นท์อยู่แล้วพวกเราก็จะหาที่เที่ยวกันเป็นปกติ ครั้งนี้เลยตั้งใจไปนอนตาอากาศที่จังหวัดน่าน เป็นครั้งแรกที่ได้มาเที่ยวที่จังหวัดนี้ จากแผนของเราที่วางไว้ คือ คืนแรกนอนที่อุทยานแห่งชาติดอยภูคา จะเป็นยังไง จะชิลขนาดไหน มา ๆ ใครที่ชอบแนวนี้ล้อมวงเข้ามาเลย คิคิ พวกเราขับรถกันไปเอง มีแวะกินแวะพักบ้าง ออกจากกรุงเทพประมาณ 6 โมงเช้า ไปถึงอุทยานแห่งชาติดอยภูคาประมาณ 5 โมงเย็น ขับตาม GPS ไปเรื่อย ๆ ถือว่านานอยู่นะ มาถึงก็เย็นเลยต้องรีบหาจุดกางเต็นท์ หาจุดที่เราพอใจและต้องรีบกางก่อนที่ตะวันจะตกดิน เราเลือกกางเต็นท์ที่จุดบ้านเกวียน เพราะลานดูดาวคนเยอะมาก เพราะวันที่ไปพอดีมีกลุ่มอาสาสมัครมาพักกันนับร้อยคน ทำให้บ้านพักและลานกางเต็นท์คนแน่นเลย จุดที่เรากางอุทยานเก็บค่ากางเต็นท์คนละ 40 บาท หลังจากกางเสร็จพระอาทิตย์ยังไม่ตกดิน พวกเราก็ไปเดินเล่น ชมวิว จะบอกว่าอากาศหนาวมาก ๆ ตอนไปก็ใส่แค่ขาสั้นแขนสั้น พอถึงต้องเปลี่ยนใส่แขนยาวกันเลยทีเดียว ทั้งอากาศเย็นและลมแรง ชิลมาก ชอบมาก วิวก็สวยมากด้วย จุดที่เรากางนี้ไม่ได้อยู่ในลานด้วยนะ เพราะต้องการความเป็นส่วนตัว เลยแยกออกมาจากลานนิดนึง ซึ่งถามเจ้าหน้าที่แล้วว่ากางได้ไหม เค้าก็บอกว่าได้ พวกเราก็เลยเอาตรงนี้แหละ ส่วนตัวดีและก็ไม่ไกลห้องน้ำด้วย เพียงแค่ข้ามถนนไป หลังจากที่ทำอะไรเสร็จคืนแรกก็ผ่านไปอย่างยากลำบาก เพราะอะไรล่ะ เพราะเราไม่มีถุงนอนและไม่ได้เช่าถุงนอนของอุทยาน เพราะตอนเราไปคือปลายมกราคมเข้าเดือนกุมภาพันธ์ละ เลยคิดว่าไม่ค่อยหนาวหรอก คิดผิดมาก ! มันหนาวมาก หนาวจนนอนไม่ได้อะ 55555 แต่ก็ยังผ่านไปด้วยดี อากาศหนาวจริง ชอบมากเลย แต่ต้องเตือนตัวเองไว้ว่าอย่าประมาท ฮ่า ๆ เช้าแล้ว ที่อุทยานไม่มีอะไรขายเราจึงต้องเตรียมขึ้นไป พวกเราตั้งใจจะทำอาหารกินกันเองอยู่แล้ว ก็เลยเตรียมของกินต่าง ๆ ที่แวะซื้อข้างทางก่อนขึ้นมาที่นี่ และก็พกเตาแก๊สแบบปิคนิคที่ใช้แก๊สกระป๋องเอาไว้ทำอาหาร เช้านี้ก็เลยทำอะไรกินกันง่าย ๆ ทอดไส้กรอก ไข่ดาว กินกับขนมปัง อร่อยจังเลย นั่งกินนั่งเล่นกันชิล ๆ อากาศดี ๆ ฟินเนอะ :) ก่อนหน้าที่เราจะทำอาหารกินกันเราตื่นกันแต่เช้ามาเดินเล่นรับลมหนาว ถ่ายรูปวิว เดินดูนู่นดูนี่ไปเรื่อย บรรยากาศยามเช้าดีมาก ๆ เลย ทั้งเย็นทั้งสวย เห้อ ชอบจัง หลังจากที่ไปเดินเล่นดูวิว ถ่ายรูปที่ลานดูดาว เราก็เดินย้อนกลับขึ้นไปที่จุดชมวิวอีกจุดนึง ในจุดนี้มีดอกไม้หายากคือ ดอกชมพูภูคา ดอกนี้จะบานในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ เป็นต้นไม้ที่มีที่นี่ที่เดียวในประเทศไทย และเราโชคดีมากที่เรามาและได้เห็น ดอกจะเป็นสีชมพูเข้ม เป็นช่อใหญ่ ๆ สวยแปลกตาดี จากที่เราดูรีวิวมาจะมีจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยอยู่ แต่จะห่างจากอุทยานไปเกือบ 10 กิโลเมตร พวกเราไม่ได้ตื่นเช้าขับไปดูพระอาทิตย์ขึ้น แต่ก็กะจะแวะไปถ่ายรูป ก็เลยอาบน้ำ เก็บเต็นท์เสร็จก็ออกเดินทางไปกันต่อ มาถึงแล้วจุดชมวิว 1715 วิวสวยมาก แต่เสียดายช่วงที่เรามาไม่เจอหมอกเลย ฮื่อ ๆ แต่วิวสวยถ่ายรูปสวย โอเค ๆ ถ้าหากมาเช้ามืดตอนพระอาทิตย์ขึ้นคงจะสวยน่าดูเลยนะเนี่ย ในจุดนี้มีของกินของฝากขายด้วยนะ หลังจากถ่ายรูปเสร็จ ชมวิวเสร็จเราก็ออกเดินทางกันต่อ ทริปนี้ยังอีกยาวไกล คืนที่สองจะไปนอนที่ภูไหนดีน้า.. :) หากใครที่ชอบแนวนี้ ชอบความสงบ อากาศดีเย็นสบาย จะมาตามเราได้นะ แนะนำเลยว่าอากาศดีมาก อุทยานแห่งชาติดอยภูคา นอกจากจะมีลานกางเต็นท์ ทางอุทยานมีบ้านพักเป็นหลัง ๆ ด้วย บ้านพักหลังใหญ่ราคา 800 - 2500 บาท/คืน บ้านเกวียน เป็นบ้านหลังเล็กนอนได้สองคนราคา 300 บาท/คืน ช่วงเดือนที่แนะนำมีอยู่ 3 ช่วง คือ ช่วงฤดูฝน เดือนพฤษภาคม - ตุลาคม ช่วงหน้าหนาว เดือนพฤศจิกายน - กุมภาพันธ์ ช่วงหนาวมาก เดือนธันวาคม - มกราคม ช่วงนี้จะหนาวจัดเหมาะแก่การมาเที่ยวที่สุด พิกัด อุทยานแห่งชาติดอยภูคา อำเภอปัว จังหวัดน่าน รูปภาพประกอบโดยผู้เขียน