หลาย ๆ คนที่เดินทางมาท่องเที่ยวเชียงใหม่ หากเอ่ยถึงอำเภอแม่ริม แน่นอนว่าทุกคนต่างมุ่งหน้าไปที่ม่อนแจ่ม เพื่อนอนกางเต็นท์ หรือชมทัศนียภาพของยอดม่อนดอยที่ประดับตกแต่งไปด้วยพันธุ์ดอกไม้เมืองหนาวหลากหลายชนิด ทว่าหากใครอิ่มตัวกับการเที่ยวชมม่อนแจ่มและอยากหาสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ ๆ บนเส้นทางสายนี้ ผมแนะนำให้ขับรถมุ่งหน้าเลยทางเข้าม่อนแจ่ม มาตามถนนหมายเลข 1096 ต่ออีกไม่ไกลนัก ก็จะถึงเมืองแห่งขุนเขา ต้นกำเนิดสตรอเบอรี่บนยอดดอยรสชาติดี ที่นี่ อำเภอสะเมิง อำเภอสะเมิงเป็นอำเภอที่แยกตัวออกมาจากอำเภอแม่ริม ตั้งอยู่บนดอยสูงที่มีอากาศเย็นสบายเกือบตลอดปี หากมาเที่ยวในช่วงหน้าหนาวที่นี่จะมีแปลกปลูกสตรอเบอรี่มากมายให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสรสชาติอันหอมหวาน สด ๆ จากไร่ด้วยการเก็บผลผลิตด้วยตนเองในแปลกปลูก นอกจากนี้สะเมิงยังมีผลไม้ พืชผักเมืองหนาวทั้งผลสดและแปรรูปที่สามารถหาซื้อเป็นของฝากกลับบ้านได้อีกหลากหลายชนิด ขับรถมาได้สักระยะก่อนเข้าสู่ตัวเมืองอำเภอสะเมิง วันนี้ผมจะพาทุกคนมาแวะเยี่ยมชมทุ่งข้าวบาเล่ย์ หรือข้าวสาลี ที่ "ศูนย์วิจัยข้าวสะเมิง" กันครับ การเข้าเยี่ยมชมนั้นไม่เสียค่าใช้จ่ายนะครับ ซึ่งศูนย์วิจัยข้าวแห่งนี้ตั้งอยู่ที่บ้านปางดะ หมู่ที่ 10 ตำบลสะเมิงใต้ อำเภอสะเมิง จังหวัดเชียงใหม่ ตามพระราชประสงค์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 เพื่อให้ชาวไทยภูเขาเผ่าต่าง ๆ และชาวไทยที่อาศัยอยู่บนพื้นที่สูงได้ใช้ประโยชน์จากพื้นที่ในการประกอบอาชีพการเกษตร ภายในศูนย์วิจัยจะมีแปลงสาธิตสำหรับทดลองปลูกข้าวสาลีหรือข้าวบาเล่ย์ที่กว้างใหญ่นับร้อยไร่ ซึ่งช่วงเวลาที่ผมเดินทางไปเป็นช่วงเวลาที่ข้าวสาลีในบางแปลงกำลังสุกเปล่งพร้อมที่จะเก็บเกี่ยวไปทั่วทั้งทุ่ง เมื่อต้นข้าวกระทบกับสายลมโชยเบา ๆ และแสงแดดอ่อน ๆ ของบรรยากาศสาย ๆ ในยามเช้า ทำให้ต้นข้าวในท้องทุ่งดูพริ้วไหว โอนเอนเป็นระลอกคลื่นที่มีสีทองประกายเลยทีเดียว อนึ่ง เนื่องจากสถานที่แห่งนี้เป็นหน่วยงานราชการ นักท่องเที่ยวที่มาจากต่างถิ่นจึงไม่ค่อยทราบว่าสามารถแวะเข้าชมได้จึงมีเพียงคนในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ที่แวะเข้ามาเยี่ยมชมในจำนวนที่ไม่มากนัก หากใครจะเดินทางมาที่นี่สามารถมาได้ 2 เส้นทางครับ คือ เดินทางมาตามเส้นทางถนนสายเชียงใหม่-แม่ริม-สะเมิง โดยมีระยะทางประมาณ 42 กิโลเมตร และตามเส้นทางถนนสายเชียงใหม่-หางดง –สะเมิง ระยะทางจะมากกว่าเล็กน้อยประมาณ 44 กิโลเมตร ออกจากศูนย์วิจัยข้าวมาไม่ไกลนัก ผมพาทุกคนมากันที่ลองลิ้มชิมรสสตรอเบอรี่สดที่ปลูกด้วยวิถีอินทรีย์ที่ปลอดภัยจากสารพิษกันที่ "ไร่นภ-ภูผา" กันครับ ด้วยในช่วงเวลาที่เข้าไปเที่ยวชมไร่นั้น เป็นช่วงของปลายเดือนกุมภาพันธ์ ที่ในปีนี้นักท่องเที่ยวไม่คึกคักเหมือนทุกปี ผมจึงได้สัมผัสบรรยากาศอันเงียบสงบและเย็นสบายในยามสาย ๆ แต่ก็สูดอากาศได้ไม่เต็มปอดเท่าใดนักด้วยปีนี้หมอกควันเริ่มหนาตาเร็วกว่าทุกปี และเนื่องจากช่วงนี้เป็นปลายฤดูเก็บเกี่ยวประกอบกับนักท่องเที่ยวน้อย เจ้าของไร่จึงนำสตรอเบอรี่มาวางไว้ต้อนรับนักท่องเที่ยวให้ได้ชิมล้อมรสกันฟรี ๆ เลยครับ 1 จานเต็ม ๆ แน่นอนว่าไม่พลาดที่ผมจะหยิบมาสักจาน ที่เห็นในรูปนี่ คือ ขอยืมเขามาถ่ายรูปสวย ๆ ก่อนนะครับ ฮ่า ๆ ๆ เสร็จแล้วก็เอาไปคืน พร้อมสั่งสตรอเบอรี่สมูทตี้ที่ใส่ผลสตรอเบอรี่สด ๆ แบบจุใจ อีก 1 แก้ว เพื่อทดแทนของที่กินฟรีไป หากใครหิวก็สามารถสั่งอาหารมารับประทานเพิ่มได้เลยที่นี่มีบริการอาหาร ที่พักค้างแรม และมีรถเอทีวี เอาไว้ให้บริการด้วย ส่วนผมหลังจากเดินเก็บสตรอเบอรี่ในแปลง ซึ่งส่วนนี้เมื่อเก็บออกมาต้องมาชั่งน้ำหนักและจ่ายเงินเพิ่มนะครับ อย่ากินในแปลงจนเพลินนะ ไม่ดี นะครับ ฮ่า ๆ ๆ ก็สั่งอาหารกลางวันมารับประทาน พร้อมนอนเอกเขนกพักท้องชิว ๆ บ่ายคล้อยก็ได้เวลาถอยทัพกลับบ้าน จบทริปสั้น ๆ One Day Trip ของผมเพียงเท่านี้ ทริปหน้าไปเที่ยวที่ไหนเดี๋ยวจะมาแลกเปลี่ยนประสบการณ์กันใหม่นะครับ