กินเจไปทำไม? เทศกาลกินเจ 2566 รู้ให้ลึก ประโยชน์การกินเจ กินอย่างเข้าใจ

กินเจไปทำไม? เทศกาลกินเจ 2566 รู้ให้ลึก ประโยชน์การกินเจ กินอย่างเข้าใจ
แมวหง่าว
14 กันยายน 2565 ( 10:00 )
72.7K
2

     ในช่วงเดือนตุลาคมของทุกปีนั้นเป็นช่วง เทศกาลถือศีลกินเจ ซึ่งในปัจจุบันไม่ใช่เพียงแต่พี่น้องเชื้อสายจีนกันแล้ว แต่ลูกหลานไทยแท้ๆ ก็หันมาสนใจทานเจกันมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตามต้องยอมรับว่าหลายคน กินเจตามกระแส เห็นเขากินก็กินบ้าง จะได้ไม่ตกเทรนด์ ถ้าเช่นนั้น มารู้จัก ความเป็นมา และประโยชน์ของการกินเจ ให้ลึกซึ้ง จะได้ไม่อึ้งเมื่อมีใครถามว่า กินเจเพื่ออะไร?

 

 

เปิดตำนานเทศกาลกินเจ

 

     จุดเริ่มต้นของการกินเจนั้นมาจากประเทศจีนโดยมีประวัติของเทศกาลกินเจหลากหลายตำนาน บางตำนานเล่าว่าเป็นช่วงเวลาแห่งการไว้ทุกข์ 10 วันให้ ชาวฮั่น 9 คน ที่ได้ทำการปฏิวัติต่อต้านพวกแมนจู

 

     บางตำนานเล่าว่าเป็นการระลึกถึงกลุ่มคนที่เรียกตัวเองว่า “หงี่หั่วท้วง”ที่พลีชีพ ต่อสู้ชาวแมนจูโดยการนุ่งขาว ห่มขาวและไม่รับประทานเนื้อสัตว์

 

     บางตำนานเล่าว่าเป็นการบูชากษัตริย์เป๊งของราชวงศ์ช้อง ของมลฑลฮกเกี้ยนและเผยแพร่เข้ามาประเทศไทยโดยชาวแต้จิ๋วที่อพยพจากมณฑลฮกเกี้ยน

 

Quality Stock Arts / Shutterstock.com

 

     นอกจากนี้มีบางกระแสเชื่อว่าการกินเจเป็นการสักการะพระพุทธเจ้าในอดีต 7 พระองค์ และพระมหาโพธิสัตว์อีก 2 พระองค์ รวมเป็น 9 พระองค์ โดยการตั้งปณิธานในการกินเจ งดเว้นอาหารคาว เว้นจากการเอาชีวิตของสัตว์มาบำรุงชีวิตของตน และเว้นจากการเอาชีวิตของสัตว์มาเพิ่มเลือดเนื้อของตน

 

     การกินเจในไทยนั้น น่าจะเกิดขึ้นเมื่อราว พ.ศ. 2170 ตรงกับสมัยอยุธยา เริ่มประมาณเดือนเก้า แต่จะไม่ตรงกันทุกๆ ปี เนื่องจากต้องดูจากปฏิทินจีนเป็นหลัก (เริ่มตั้งแต่วันขึ้น 1 ค่ำ ถึง ขึ้น 9 ค่ำ เดือน 9 ตามปฏิทินจีนของทุกปี) เทศกาลกินเจจะกินเวลา 9 วัน 9 คืน บ้างก็นิยมทานก่อน 1 วัน เพื่อเป็นการล้างท้องเตรียมร่างกายและจิตใจให้บริสุทธิ์ก่อนเริ่มเทศกาล ผู้กินเจนั้นควรดำรงตนอยู่ในศีลธรรมอันดีงาม มีความบริสุทธิ์ สะอาด ทั้งกาย วาจา ใจ เพื่อเป็นการสร้างบุญสร้างกุศล ด้วยการละ เลิก เพื่อชีวิต เรียกได้ว่าเป็นการถือศีลกินเจ

 

ทำความรู้จัก อาหารเจ


     อาหารเจ เป็นอาหารที่ปรุงขึ้นโดยไม่มีเนื้อสัตว์ หรือส่วนประกอบที่มาจากสัตว์ทุกประเภท และไม่ปรุงด้วยผักฉุนทั้ง 5 ชนิด ได้แก่ กระเทียม หัวหอม หลักเกียว กุ้ยช่าย และใบยาสูบ สำหรับผู้ที่ปฏิบัติอย่างเคร่งครัด จะใช้ภาชนะที่ใส่อาหารเจ แยกจากภาชนะที่ใส่เนื้อสัตว์อีกทั้งเลือกผู้ปรุงอาหารเจที่กินเจด้วย เพื่อให้ “อาหารเจ” นั้นบริสุทธิ์จริงๆ

 

 

ประโยชน์ของการกินเจ

 

ประโยชน์ในด้านของศาสนา

  • บังเกิดเมตตาจิต เกิดความสงบ สุขุม เยือกเย็น อารมณ์ไม่ฉุนเฉียว ไม่หุนหันพลันแล่น โมโหง่าย ดวงธรรมญาณอันบริสุทธิ์จะปรากฏออกมาซึ่งจะช่วยเกื้อกูลส่งเสริม ให้บารมีธรรมสูงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้มีสติมั่นคง มีสมาธิแน่วแน่ ไม่ประมาทเลินเล่อเป็นประโยชน์ต่อการดำเนิน ชีวิตและการทำงาน สามารถรอดพ้นจากภัยต่างๆ เช่น ภัยธรรมชาติ ภัยจากสัตว์ ภัยจากเคราะห์กรรม เมื่อวิญญาณออกจากร่าง ก็จะไปสู่ภพภูมิที่ดี หยุดการทำบาป ตัดเวรกรรมที่ผูกพัน ทำให้ไม่เกิดการอาฆาตพยาบาท ทำให้ปราศจากศัตรูทั้งมนุษย์และสัตว์ที่คิดมุ่งร้ายตามจองเวร สิ่งไม่ดีจะถูกขับออกไป ความรู้สึกขุ่นมัว มืดมนจะหมดไป
  • หลังจากกินเจต่อเนื่องกันเป็นระยะเวลานานๆ ความสดใสจะปรากฏขึ้นในจิตใจ และถ่ายทอดออกไปสู่ใบ หน้าให้มีความสะอาดสดใส ผู้ที่กินเจรวมทั้งครอบครัวและบุตรหลาน และคนในปกครองจะเกิดความรุ่งเรืองในชีวิต มีเหตุให้เกิดอยู่ในดินแดนอารยะ มีแต่ความอุดมสมบูรณ์ ปราศจากการทำร้ายรบราฆ่าฟัน ไม่มุ่งร้ายทำลายชีวิตซึ่งกัน และกัน ทำให้จิตใจสะอาดไม่ฟุ้งซ่านจิตใจที่สะอาดทำให้มองเห็นกายอันแท้จริงสามารถสู่นิพพานได้ในที่สุด เทวดาและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ความคุ้มครองอารักขาไม่ให้สิ่งเลวร้ายหรือวิญญาณชั้นต่ำเข้ามาทำร้าย

 

 

ประโยชน์ในด้านวิทยาศาสตร์ 

  • มีผลดีต่อสุขภาพร่างกาย โดยขับสารพิษที่ตกค้างอยู่ในร่างกาย ซึ่งส่วนใหญ่มาจากเนื้อสัตว์ ระบบเลือดสมดุล ผิวพรรณดี ร่างกายเบาสบายไม่อึดอัด อวัยวะสำคัญๆภายในร่างกายแข็งแรง ทำงานได้เป็นปกติสมบูรณ์ร่างกายได้รับสารต้านออกซิเดชั่น สารพฤกษเคมีจากพืชผัก
  • ช่วยลดปัญหาโรคหัวใจ เบาหวาน เก๊าท์ และอื่นๆ สำหรับผู้ที่กินเจเป็นประจำ มักไม่ปรากฏโรคที่รุนแรงหรือเรื้อรัง เช่น โรคมะเร็ง โรคหัวใจความดันโลหิตสูง เส้นเลือดตีบ ไขมันอุดตันในเส้นเลือด โรคไต ไขข้ออักเสบ โรคเก๊าส์ โรคเบาหวานฯลฯ

 

บทความที่คุณอาจสนใจ

 

 

ยอดนิยมในตอนนี้