การได้พักผ่อน แล้วไปเดินย่ำบนหาดทรายขาวละเอียด และสัมผัสกับความเค็มของน้ำทะเล ถือเป็นกิจกรรมหนึ่งที่ผู้เขียนชื่นชอบ และที่เกาะกูด จังหวัดตราด ถือเป็นอีกหนึ่งเกาะที่ผู้เขียนเคยไปมาแล้ว และยังอยากไปเที่ยวอีกรอบ อย่างที่เราเคยเล่าไปแล้วบางส่วน ถึงการไปเที่ยวเกาะกูดในบทความเรื่อง ” 3 เกาะสวยแห่งอ่าวไทย ไม่ไปไม่ได้แล้ว” และบทความเรื่อง ”เทียบกันชัด ชัด ระหว่างเที่ยวทะเลไทย & ทะเลสเปน” แต่วันนี้ผู้เขียนจะมาขอรีวิวให้ฟังแบบละเอียดยิบกับแพ็กเกจเที่ยวเกาะกูด สุดปัง! อ่าวน้อยรีสอร์ท 3 วัน 2 คืน ตามมาดูกันเลย ว่ามีอะไรน่าสนใจกันบ้างผู้เขียนเคยได้ยินเพื่อนร่วมงานเล่าให้ฟังถึงความประทับใจในการไปเที่ยวเกาะกูด พอเราได้ยิน เราก็อยากไปลองสัมผัสด้วยตา และประสบการณ์ของตัวเอง และเมื่อโอกาสอำนวยเราก็จัดการหาข้อมูลการเที่ยวเกาะกูดทางอินเทอร์เน็ต และแล้วเราก็ไปเจอแพ็กเกจเที่ยวเกาะกูดของอ่าวน้อยรีสอร์ทโดยบังเอิญ ซึ่งเป็นแพ็กเกจแบบ 3 วัน 2 คืน ที่รวม ที่พัก 2 คืน อาหารมื้อหลัก 7 มื้อ และอาหารว่าง 2 มื้อ เรือ Speed Boat ไป – กลับ เที่ยวน้ำตก ดำน้ำดูปะการัง และเล่นเรือคายัคและนี่เป็นครั้งแรก ที่เราเที่ยวทะเลแบบซื้อแพ็กเกจทัวร์ โดยการโอนเงินจ่ายผ่านเอทีเอ็ม หลังจากที่ได้โทรติดต่อกับอ่าวน้อยรีสอร์ทเรียบร้อย ใจหนึ่งก็แอบหวั่น ๆ เพราะเราเป็นคนออกเงินของตัวเองจ่ายให้เพื่อนไปก่อน ด้วยจำนวนเงินสองหมื่นกว่าบาท แต่เมื่อเงินออกจากบัญชีไปแล้ว เราก็ได้แต่ภาวนาว่าเราจะโอนไปถูกที่ และไม่ถูกมิจฉาชีพหลอก ไหน ๆ ก็ไหน ๆ ทำใจดีสู้เสือ ยิ้มให้สมาชิกร่วมทางอีก 3 คนการไปเกาะกูดครั้งนี้ พวกเราออกเดินทางจากกรุงเทพ โดยรถทัวร์ที่สถานีขนส่งเอกมัย เพื่อไปลงที่ตัวเมืองตราด แต่เพราะพวกเราต้องออกเดินทางด้วยสปีทโบ๊ทไปอ่าวน้อยรีสอร์ทแต่เช้าประมาณ 8 โมง พวกเราเลยตัดสินใจพักหนึ่งคืนในตัวเมืองตราดก่อนการเดินทาง จริง ๆ เจ้าหน้าที่ที่รับจองทัวร์ก็แนะนำให้พวกเราไปนั่งรอที่ออฟฟิศช่วงกลางคืนก็ได้ หากพวกเรามาถึงดึก แต่เพราะวัยไม่ค่อยอำนวยในการอดหลับอดนอน พวกเราก็เลยต้องจองที่พักในเมืองตราดแทนนั่งรถทัวร์จากกรุงเทพ ไปถึงตราดใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมง ซึ่งก็เป็นช่วงค่ำ ๆ พอดี และหลังจากเก็บกระเป๋าเข้าที่พักเรียบร้อยพวกเราก็ออกไปเดินหาของกินอร่อย ๆ ในตลาด จากความเมารถ ทำให้พวกเราต้องไปเดินหาของแซ่บ ๆ อย่างส้มตำกิน แต่จนแล้ว จนรอดก็หาส้มตำไม่เจอ ก็เพิ่งรู้ว่าเมืองตราด หาส้มตำกินยากจริง ๆ 😊ตอนเช้าขณะที่กำลังนั่งทานอาหารเช้าที่โรงแรม ก็มีเสียงโทรศัพท์โทรเข้ามา บอกจะเข้ามารับ ก็อดจะประหลาดใจไม่ได้ ว่าแพ็กเกจที่ซื้อไปรวมค่าเดินทางมารับที่โรงแรมด้วยเหรอ ??? จริง ๆ เราก็กำลังคิดจะให้ทางโรงแรมไปส่งที่ท่าเรือหลังจากทานอาหารเช้าเสร็จ แต่แหม ทางรีสอร์ทก็ช่างรู้ใจ ส่งคนมารับ ปลื้มปริ่มจริง ๆเมื่อทุกคนพร้อม พวกเราก็ออกเดินทางไปอ่าวน้อยรีสอร์ทด้วยสปีทโบ๊ท ใช้เวลาในการโต้คลื่นในทะเลกว้างประมาณ 2 ชั่วโมงก็ถึงอ่าวน้อยรีสอร์ทช่วงสาย ๆ ที่สะพานไม้มีเจ้าหน้าที่ของทางรีสอร์ทออกมาช่วยรับกระเป๋า พร้อมกับเสิร์ฟน้ำสมุนไพรเย็น ๆ และตะกร้าผลไม้ คุณภาพบริการประหนึ่งโรงแรมหกดาวหลังจากพวกเราเก็บข้าวของเข้าห้องพักเสร็จเรียบร้อย พวกเราก็ออกมาสำรวจบริเวณรอบ ๆ รีสอร์ท ซึ่งอ่าวน้อยรีสอร์ทตั้งอยู่ริมฝั่งทะเล มีต้นมะพร้าวเรียงรายกระจายอยู่ทั่วรีสอร์ท ให้บรรยากาศการเที่ยวทะเลแถบทรอปปิคอลอย่างแท้จริง นอกจากหาดทรายที่สวยงาม และมีความสงบเป็นส่วนตัวแล้ว เจ้าหน้าที่ก็ให้บริการ และความเป็นกันเองดุจญาติมิตร ในแง่ของเซอร์วิช ให้เลยหกดาวหลังรับประทานอาหารเย็นเสร็จ พวกเราก็ออกมานั่งรับลม ชมดาวที่สะพานไม้ที่ทอดเข้าไปในทะเล เด็กน้อย 2-3 คนที่อาศัยอยู่ที่บริเวณรีสอร์ทออกมาตกปลา และชวนพวกเราออกทะเลไปตกหมึก หรือที่คนแถวนั้นเค้าเรียกกันว่าไดร์หมึก ( ถ้าผู้เขียนใช้คำผิด ก็ขออภัยจริง ๆ ค่ะ เพราะเราก็ไม่ใช่เด็กเลเนอะ 😊)ช่วงเช้า ๆ พวกเรา ก็จะตื่นมาพายเรือคายัค และวิ่งถ่ายรูปเล่นกันลูกปู ก่อนจะรับประทานอาหารเช้า และออกไปดำน้ำดูปะการังตามแพ็กเกจ แต่เสียดาย ไม่มีกล้องถ่ายรูปใต้น้ำ เลยได้แต่ภาพบนบกมาฝากกัน อาหารที่เสิร์ฟในแพ็กเกจก็จัดเต็มทุกมื้อ มาแบบทะเลล้วน ๆ จนเรานี่เบื่ออาหารทะเลไปหลายเดือน และมีอยู่มื้อหนึ่งที่เสิร์ฟแกงหมูชะมวง มาพร้อมกับเมนูทะเลอื่น ๆ เรานี่อยากจะบอกว่ามื้อนั้น เหมือนได้ขึ้นสวรรค์ชั้นเจ็ด! จริง ๆ แล้วเราชอบอาหารทะเลเป็นชีวิตจิตใจ มีบุฟเฟต์ที่ไหน ก็มักจะตามไปจัดที่นั่นอยู่บ่อย ๆ แต่เพราะอารมณ์หิว ส่วนใหญ่แล้วมักจะลงมือกินจนลืมถ่ายรูป ทำให้ขาดรูปมาเขียนบทความ แต่ก็ยอมรับว่า หลังจากทริปเที่ยวเกาะกูดครั้งนี้แล้ว ความสนใจในอาหารทะเลของเราก็ลดน้อยลงไปเกือบครึ่งหนึ่งเมื่ออยู่ครบตามแพ็กเกจที่จองมา พวกเราก็ยังอยากอยู่ต่อ และก็เป็นโชคดีของพวกเราที่ห้องว่างพอดี พักต่ออีกสองวัน หนึ่งคืนเพื่อจะไปตกปลาในวันถัดไป ทางเจ้าหน้าที่ของรีสอร์ทก็ติดต่อเรือชาวประมงมาให้พวกเราได้ไปตกปลาในราคาย่อมเยา แต่เท่าไร ผู้เขียนไม่ได้จ่าย เลยไม่แน่ใจว่าเท่าไรกันแน่อยากจะบอกว่า ตั้งแต่ไปตกปลามา ได้ปลาครั้งนี้มากที่สุด คือถ้าอยู่แถวบ้านก็คงเอาไปตากแดด หรือแจกเพื่อนบ้าน แต่จะงกเอาใส่กระเป๋าเดินทางกลับกรุงเทพ ปลาก็คงเน่าหมด พวกเราก็เลยแบ่งปลาให้ชาวประมง และทางรีสอร์ท และทางรีสอร์ทก็ตอบแทนพวกเราด้วยการทำอาหารอร่อย ๆ ให้ทาน โดยคิดค่าปรุงอาหารเล็ก ๆ น้อย ๆทริปเที่ยวเกาะกูด กับแพ็กเกจอ่าวน้อยรีสอร์ท 3 วัน 2 คืน ก็จบลงอย่างประทับใจไม่รู้ลืม ถ้าใครยังไม่เคยไป ผู้เขียนแนะนำที่นี่เลยค่ะ แพ็กเกจอ่าวน้อยรีสอร์ทมีทั้งแบบ Villa Seaview ( กระท่อม ) ในราคา 6200 บาทต่อท่าน และห้องแบบ Villa Beachfront ราคา 6500 บาทต่อท่าน สำหรับผู้เขียนที่ชื่นชอบสไตล์ชาวเกาะเราก็เลือกแบบแรก ถือว่าคุ้มสุดคุ้ม และคิดว่าครั้งหน้า เราก็ไม่พลาดที่จะไปเยือนอีกเมื่อโอกาสอำนวย ส่วนใครที่สนใจบทความด้านการท่องเที่ยวทั้งในประเทศ และต่างประเทศ สามารถเข้าไปอ่านได้ในหน้าโปรไฟล์ของผู้เขียน แล้วพบกันใหม่กับบทความต่อไป ใครสนใจจะไปเที่ยวอ่าวน้อยรีสอร์ท ติดต่อได้ที่อ่าวน้อย รีสอร์ทที่อยู่ : ตำบล เกาะกูด อำเภอ เกาะกูด ตราด 23000มือถือ : 083 078 9006, 083 078 9008, 080 285 6132โทร : 034 155 925LINE: @socialplusขอขอบคุณ กราฟฟิกจากเว็บ Canvaภาพปก & ภาพทั้งหมด โดยผู้เขียน Nurseonomyบทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง 3 เกาะสวยแห่งอ่าวไทย ไม่ไปไม่ได้แล้ว (trueid.net)เทียบกันชัด ชัด ระหว่างเที่ยวทะเลไทย & ทะเลสเปน (trueid.net)อัปเดตบทความท่องเที่ยวตามสถานที่อันหลากหลาย โหลดเลยที่ App TrueID ฟรี !