“ครั้งหนึ่งในชีวิต เราคือผู้พิชิตภูกระดึง” หลายๆ คนคงได้ยินคำนี้มานักต่อนัก แต่ครั้งนี้ กี้จะมาเล่าประสบการณ์การขึ้นภูกระดึงครั้งแรกของกี้ ในวัย 30+ กันค่ะ เมื่อช่วงต้นปี 2563 ที่ผ่านมา ทุกคงคงได้ยินข่าวไฟป่าที่เผาภูกระดึง ทำให้ป่าสนอายุหลายร้อยปี ถูกไฟเผาไหม้เสียหายเป็นจำนวนมาก กี้หวังว่า ภูกระดึง ที่เป็นเป้าหมายของใครหลายคน ว่าสักครั้งในชีวิตต้องมาพิชิตให้ได้ จะกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา มาอ่านเรื่องราวประสบการณ์การขึ้นภูกระดึงครั้งแรกของกี้ดีกว่าค่ะ ทริปนี้เกิดขึ้นช่วงเดือนธันวา ซึ่งเป็นช่วงที่ภูกระดึงกำลังจะเข้าหน้าหนาว กี้ตัดสินใจจะไปขึ้นภูกระดึงช่วงวันหยุดให้ได้ ไม่มีการวางแผนมาก่อน จัดเตรียมแค่เสื้อผ้าและถุงนอนที่จำเป็น แต่ก่อนจะเดินทาง กี้ได้โทรจองเต้นท์ที่พักด้านบนได้ก่อนแล้ว แต่แล้วเช้าของวันเดินทาง อยู่ดี ๆ ฝนก็ตกลงมา ทำให้อากาศเปลี่ยนกะทันหันเลยค่ะ (ตอนแรกคิดว่าคงได้ขึ้นภูแบบอากาศร้อน ๆ) มาถึงภูกระดึงช่วงเช้า เนื่องด้วยว่าเป็นวันหยุดยาว คนเยอะมากเลยค่ะ ทำให้ลูกหาบมีไม่พอ ถ้าจะรอให้ลูกหาบชุดแรกลงมารับกระเป๋า ก็คงจะทำให้เสียเวลามาก เลยตัดสินใจขึ้นภูกระดึงไปพร้อมกับสัมภาระที่มีค่ะ อย่างที่รู้ว่าภูกระดึงจะแบ่งเป็นซำ ซึ่งกว่าจะถึงจุดบริการนักท่องเที่ยว ต้องเดินทางผ่านทั้งหมด 11 ซำ ขอบอกเลยค่ะ ว่า “ซำแฮก” เป็นอะไรที่ท้าทายกล้ามเนื้อต้นขามาก (ขนาดกี้เป็นคนชอบออกกำลังกาย ยังไม่ไหวเลยค่ะ) แต่ถ้าผ่านซำแฮกไปได้ ที่เหลือก็สบายแล้วค่ะ ใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมงก็มีถึงหลังแปแล้วค่ะ ขอแวะถ่ายรูปเช็คอินกับป้ายสักหน่อย แต่ในขณะที่เดินไปถ่าย ตะคริวมาแล้วค่ะ แนะนำทุกคนยืดเหยียดก่อนนะคะ ไม่งั้นจะเป็นแบบกี้ กี้เดินจากหลังแปไปยังศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ซึ่งห่างออกไปประมาณ 900 เมตร ฝนตกตลอดทางเลยค่ะ ไปถึงก็ไปติดต่อเต้นท์ เก็บของแล้วก็อาบน้ำอาบท่า แล้วก็มาทานหมูกระทะ ชุดละ 500 บาทค่ะ ทานไป 2 ชุด อิ่มมาก ทานเสร็จก็เข้าที่นอนในเต้นท์ค่ะ พรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้าไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ผานกแอ่น เช้าวันรุ่งขึ้น ทุกคนมุ่งหน้าไปผานกแอ่นโดยจะมีเจ้าหน้าที่ดูแลดูแลตลอดเส้นทางค่ะ รอประมาณ 30 นาที ก็เริ่มเห็นแสงจากพระอาทิตย์แล้วค่ะ รู้สึกดีมาก ๆ เลยค่ะ เราเดินกลับไปที่พัก ทานข้าวเช้า พร้อมกับการเตรียมตัวเดินไปดูน้ำตก และผาต่าง ๆ แต่ปรากฏว่า วันนั้นช้างป่าดันมากินน้ำบริเวณน้ำตกค่ะ เจ้าหน้าที่เลยห้ามเข้า (เศร้ามาก) เลยเปลี่ยนแผนเดินไปดูน้ำตกจุดอื่นแทนค่ะ หลังจากนั้นก็เดินไปเช็คอินตามผาต่าง ๆ ค่ะ วันนี้อากาศค่อนข้างร้อนมาก โดนแดดเผาตลอดทาง เมื่อเช็คอินครบทุกจุดก็เดินกลับมายังที่พักค่ะ วันนี้เปลี่ยนมากินชาบู อร่อยมาก ๆ เช้าวันต่อมา วันนี้กี้จะลงจากภูแล้วค่ะ เลยต้องไปติดต่อทางลูกหาบเพื่อที่จะได้หาบสัมภาระ เวลาเดินลงจากภูจะได้สะดวกสบายค่ะ ขาลงจากภูทำเวลาดีกว่าตอนขึ้นเยอะมาก แต่กี้เจ็บเข่ามาก ๆ เลยค่ะ อาจจะเป็นเพราะเกิดการกระแทกเวลาทิ้งน้ำหนักลง ทางที่ดีควรมีไม้ไว้ค้ำเวลาเดิน จะช่วยให้ไม่บาดเจ็บค่ะ หลังจากลงมาถึงก็ไปเอาสัมภาระกับลูกหาบ (ซึ่งพี่แกลงมารอนานแล้ว) นับถือพี่เขาจริง ๆ ค่ะ แข็งแรงกันมากเลยค่ะ ภูกระดึง ในสายตาหลาย ๆ คน อาจจะเป็นภูเขาที่ดูกระจอก ใคร ๆ ก็ดูถูกว่าไม่ท้าทาย แต่กี้ขอบอกไว้เลยว่า การขึ้นภูกระดึงครั้งแรกของกี้นั้น เป็นจุดเปลี่ยนในชีวิตมาก ๆ เลยค่ะ ช่วงระยะทางที่เราเดินขึ้นภูกระดึงนั้น เราไม่มีทางรู้เลยว่าข้างหน้าจะเป็นอย่างไร จะเจอกับอุปสรรคอะไร แต่ระหว่างทางที่กำลังเดินทางนั้น เรากำลังเริ่มสร้างประสบการณ์ในการเรียนรู้ทีละนิด และมีความสุขกับทุกช่วงเวลา เมื่อไปถึงจุดหมายปลายทาง สิ่งที่ได้มาคือ ความภูมิใจ ในตัวเอง ว่า “ครั้งหนึ่งในชีวิต เราคือผู้พิชิตภูกระดึง” อยากให้ทุกคนมาลองค่ะ แล้วจะหลงรักการเดินเขาเหมือนกี้ ขอให้สนุกกับการใช้ชีวิต แล้วพบกันใหม่ค่ะ :) สถานที่ติดต่อ : อุทยานแห่งชาติภูกระดึง หมู่ที่ 1 บ้านศรีฐาน ต.ศรีฐาน อ.ภูกระดึง จ.เลย 42180 อัตราค่าบริการเข้าอุทยานแห่งชาติ ชาวไทย : ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท ชาวต่างชาติ : ผู้ใหญ่ 400 บาท เด็ก 200 บาท ข้อมูลเพิ่มเติม http://park.dnp.go.th/visitor/nationparkshow.php?PTA_CODE=1002 เรื่องและภาพโดยผู้เขียน