มาชวนไปทำบุญ ปัง ๆ ง่าย ๆ กันที่หนองคาย ด้วยการ ห่มผ้าบูชา "พระธาตุในตำนาน" 3 องค์ ใน 1 วัน จ้า... รู้ไหม? อานิสงส์จากการห่มผ้าพระธาตุนั้นมากล้นเหลือประมาณ!!!จากประวัติของพระสาวกทั้งหลาย ผู้ได้ชื่อว่า "เป็นเศรษฐี" ทั้งทางโลกและทางธรรม ทั้งฆราวาสและภิกษุ ในสมัยพุทธกาล ท่านก็ล้วนมีการกระทำกุศลกรรม คือการบูชา ไม่ว่าจะเป็นอามิสบูชา (บูชาด้วยข้าวของดี ๆ เช่น แก้ว แหวน เงิน ทอง ประทีป ดอกไม้ เครื่องหอม ผ้า เป็นต้น) หรือปฏิบัติบูชา (บูชาด้วยความดี มีทาน ศีล ภาวนา เป็นต้น) แด่ปูชนียสถานหรือสังเวชนียสถาน ที่บรรจุพระบรมธาตุ (พระธาตุของพระพุทธเจ้า) หรือพระอรหันตธาตุ (พระธาตุของพระอรหันต์) พร้อมกับน้อมนึกคำอธิษฐานที่ดีงาม เป็นหนึ่งในเหตุสำคัญของอานิสงส์ที่ตามมาส่งผลในชาติปัจจุบันด้วยกันทั้งสิ้นแม้เมื่อเร็ว ๆ นี้ ก็มีตัวอย่างของผู้ที่ระลึกได้ว่า อานิสงส์ที่ตนได้รับผลในปัจจุบันนั้น มีส่วนหนึ่งที่ผูกไว้กับกุศลกรรมในอดีตชาติ คือการได้บูชาและตั้งจิตอธิษฐานต่อพระธาตุองค์สำคัญ..."หลวงปู่ชอบ ฐานสโม" เมื่อลูกศิษย์ถามว่า ทำบุญอะไรถึงได้มามีบารมีธรรมให้ลูกหลานได้กราบไหว้แบบนี้ (และแม้ท่านจะละสังขารไปนานแล้ว เรื่องราวแห่งบารมีธรรมของท่านก็ยังสว่างไสวอยู่ตลอดมา)...ท่านตอบว่า มีชาติหนึ่งเกิดเป็นคนลาว ตอนอายุ 70 ปี ข้ามจากฝั่งลาว มาช่วยงานก่อสร้างบูรณะพระธาตุพนม และได้ถวายทานเป็นอามิสบูชา ด้วยเงินคิดเป็นมูลค่า 50 สตางค์ กับ ผ้าขาว 1 วา เอาผ้าคลุมองค์พระธาตุพนมแล้วอธิษฐานขอให้ชาติหน้าได้บวชและได้พ้นทุกข์เรามีแบบอย่างที่ดีอย่างปัง พร้อมหลักฐานที่เห็นได้ชัดขนาดนี้แล้ว...เพราะฉะนั้น การทำตามแบบอย่างเช่นนี้ ย่อมมีแต่จะปัง ใช่ไหมจ๊ะ? แต่ก่อน ผู้เขียนเคยคิด (ด้วยความหนักใจ) ว่า การจะมีโอกาสได้ห่มผ้าพระธาตุนี่ ท่าทางจะยากนะ จะหาโอกาสไหน จะเริ่มอย่างไร จะทำอย่างไร จะจ่ายได้ไหม ฯลฯ...แต่จริง ๆ แล้ว เมื่อได้เดินเข้าวัดบ่อย ๆ ก็ได้ทราบว่า การทำบุญห่มผ้าพระธาตุนี้ ไม่ยากและไม่จำเป็นต้องใช้เงินมากอย่างที่คิด...พระธาตุองค์สำคัญ ๆ โดยทั่วไป ผู้ดูแลมักจัดให้ผู้มีจิตศรัทธาได้ทำพิธีห่มผ้าพระธาตุอยู่แล้ว ค่าใช้จ่ายก็ใช่ว่าจะแพงเกินความเหมาะสม หรือไม่แล้ว ท่านก็เปิดรับเงินทำบุญร่วมห่มผ้าพระธาตุ ซึ่งใครยินดีหรือสามารถจะทำเท่าไร ก็ไม่มีใครบังคับ และต่างก็มีสิทธิ์ยกท่วมหัวถวายทานพร้อมทั้งร่วมโมทนาในกองบุญใหญ่นั้นด้วยกันทั้งสิ้น...ยิ่งถ้าหากเราโชคดีนะ เราไปเจอตอนที่ท่านเปิดให้ร่วมเขียนชื่อลงบนผ้าที่จะนำขึ้นห่มพระธาตุ นี่ก็อย่างจะปลื้มปริ่มเลยพระธาตุ 3 องค์ ที่พาไปสักการะกันในครั้งนี้ ได้แก่ "พระธาตุบังพวน" "พระธาตุหล้าหนอง" (พระธาตุองค์จริงที่อยู่กลางน้ำโขง) และ "พระธาตุพระอรหันต์"สำหรับ "พระธาตุบังพวน" และ "พระธาตุหล้าหนอง" นั้น จากหลักฐานที่มีอยู่ ได้แก่ บันทึกทางประวัติศาสตร์ รวมถึงคำบอกเล่าจากรุ่นสู่รุ่นของผู้คนในพื้นที่ ก็ทำให้นักโบราณคดีสันนิษฐานได้ว่า พระธาตุทั้ง 2 องค์นี้ คือพระธาตุที่ถูกกล่าวถึง ใน "ตำนานอุรังคธาตุ" หรือ "ตำนานพระธาตุพนม"...พระบรมสารีริกธาตุที่ประดิษฐานอยู่ในพระธาตุ ถูกอัญเชิญจากประเทศอินเดีย โดยพระอรหันต์ 5 รูป ที่มีส่วนร่วมในการสร้างหรือบูรณะ "พระธาตุพนม" ในช่วงแรก ๆ ด้วย...และเมื่อพระอรหันต์ทั้งห้านี้ละสังขารเข้าสู่อนุปาทิเสสนิพพานไปแล้ว พระธาตุของท่านก็ถูกอัญเชิญไปบรรจุรวมกันไว้ในเจดีย์มีชื่อว่า "พระธาตุพระอรหันต์" นั่นเองพระธาตุทั้งสามนี้ อยู่ในอำเภอเมืองหนองคาย มีที่ตั้งที่เข้าถึงได้สะดวก และอยู่ในตำแหน่งแห่งหนที่ สายมู ต่างรู้หรือประจักษ์กันว่า ปังจริง ๆ แถมมีความเกี่ยวข้องกับ "ตำนานอุรังคธาตุ" อย่างแน่นแฟ้นเลยทีเดียว...เพราะฉะนั้น ถึงเรายังไม่ได้ไปห่มผ้า "พระธาตุพนม" ที่นครพนม เราไปห่มผ้าพระธาตุ 3 องค์นี้ ก็ย่อมเป็นที่อิ่มเอมใจ และเกิดอานิสงส์ผลบุญได้อย่างมากมาย หรือถ้าใครเคยเดินทางไปห่มผ้า "พระธาตุพนม" มาแล้ว ก็ยิ่งดีที่ได้เติมบุญอีกโดยการได้ห่มผ้าพระธาตุรุ่นหลังเหล่านี้บุญใหญ่ในครั้งนี้ จึงทำได้วันเดียวครบ จบ อิ่ม จ้า...พระธาตุบังพวน วัดพระธาตุบังพวน ตำบลพระธาตุบังพวน อำเภอเมืองหนองคายเดินทางประมาณ 14 กิโลเมตร บนทางหลวงหมายเลข 211 (หนองคาย - ท่าบ่อ) จากต้นทางที่แยกจากทางหลวงหมายเลข 2 (มิตรภาพ อุดรธานี - หนองคาย) เราก็จะพบองค์พระธาตุตั้งตระหง่านอยู่ทางขวามือ ท่ามกลางชุมชนใหญ่ในบริเวณนั้นสำหรับ "พระธาตุบังพวน" มีหลักฐานที่ทำให้เชื่อได้ว่า คือ "ธาตุพวน" ที่ถูกกล่าวถึงในตำนาน ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานของพระบรมธาตุส่วนหัวหน่าว 29 องค์...องค์พระธาตุตั้งอยู่ใน "วัดพระธาตุบังพวน" ซึ่งเต็มไปด้วยซากโบราณสถานมากมาย เพียงแค่ได้เหยียบย่างเข้าไปในวัด ก็ได้สัมผัสกับความงดงามของศาสนสถานโบราณ มีต้นไม้ใหญ่ ๆ เนินอิฐและเนินดินเก่าแก่ อยู่รายรอบ ทำให้ยิ่งดูขลังมากยิ่งขึ้น...เมื่อไปถึงแล้ว อันดับแรกก็ควรเข้าไปกราบสักการะองค์พระประธานในพระวิหารโบราณหลังใหญ่ หน้าองค์พระธาตุ ตรงนี้มีจุดบริการดอกไม้ธูปเทียนให้เข้าไปสักการะองค์พระธาตุ รวมถึงเปิดรับทำบุญร่วมห่มผ้าองค์พระธาตุด้วย...การทำบุญอื่น ๆ เช่น ถวายที่ดิน บริจาคโลงศพ และขอพร-เสี่ยงเซียมซี ก็รวมกันอยู่จุดนี้จ้า...เมื่อไปสักการะองค์พระธาตุ น้อมจิตถวายผ้าห่มบูชาองค์พระธาตุ ให้ปราบปลื้มหัวใจแล้ว ก็เดินชื่นชมกับบรรยากาศศาสนสถานโบราณ มรดกแห่งความศรัทธากันเลย...บริเวณโดยรอบองค์พระธาตุ มีโบราณสถานที่เรียกว่า สัตตมหาสถาน จำลองสถานที่ 7 แห่งที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธองค์หลังการตรัสรู้ ได้แก่ โพธิบัลลังก์ อนิมิสเจดีย์ รัตนจงกรมเจดีย์ รัตนฆรเจดีย์ อชาปาลนิโครธเจดีย์ มุจลินทเจดีย์ และราชายตนเจดีย์ ซึ่งนับเป็นโบราณสถานที่ยังหลงเหลือสัตตมหาสถานครบสมบูรณ์ สมชื่อระดับตำนานจริง ๆ...นอกจากสิ่งก่อสร้างทั้งเจ็ดแล้ว ยังมีพระพุทธรูปโบราณรูปแบบและขนาดต่าง ๆ และศาสนวัตถุโบราณ มีลูกนิมิต เป็นต้น อยู่ในสิ่งก่อสร้างเหล่านั้น และแสดงไว้ในพระวิหารโบราณด้วย นอกจากนี้ เรื่องที่ สายมู ต้องตื่นตาตื่นใจคือ ในบริเวณโบราณสถาน มี “สระมุจลินท์” หรือ “สระพญานาค” สระน้ำโบราณที่มีบันทึกในหนังสือใบลานที่เขียนเป็นภาษามคธว่า ถูกขุดขึ้นเพื่อรองรับน้ำที่พุ่งออกมาจากปล่องภูพญานาค ในช่วงแรกที่นำพระบรมธาตุมาประดิษฐาน...สืบเนื่องกับตำนานที่ว่า องค์พระธาตุตั้งอยู่บน เขาหลวง หรือ ภูพญานาค ซึ่งเป็นที่อยู่ของพญานาคมีฤทธิ์มาก...ปัจจุบัน สระน้ำนี้เป็นหนึ่งในสระน้ำศักดิ์สิทธิ์ ที่ถูกนำไปใช้ในพิธีกรรมต่าง ๆ ทั้งของจังหวัดและของประเทศส่วนตัวแล้ว นอกจากความเคารพบูชาในองค์พระธาตุบังพวน พระธาตุระดับตำนาน และความตื่นตาตื่นใจกับสระมุจลินท์ ที่ดูสงบลึกลับอยู่ท่ามกลางเครื่องสักการะอันสวยงามที่ตั้งเรียงรายไว้มากมายแล้ว อีกสิ่งที่ประทับใจคือ "หลวงปู่นาคบังพวน" พระพุทธรูปโบราณปางนาคปรก ที่ประดิษฐานอยู่ที่มุจลินทเจดีย์ ข้างสระมุจลินท์ ท่านมีพระพักตร์ยิ้ม ดูเปี่ยมด้วยเมตตามาก ส่วนพญานาคที่แผ่พังพานบนพระเศียรก็มีความพิเศษเพราะมีถึง 9 เศียร...สายมู ก็มาขอพรตรงนี้ไม่ขาด เพราะท่านมีชื่อเสียงเรื่องอิทธิฤทธิ์และความศักดิ์สิทธิ์จ้า...พระธาตุหล้าหนององค์จริง หรือ พระธาตุกลางน้ำ ตั้งอยู่กลางแม่น้ำโขง หน้าวัดสิริมหาสังกัจจายน์ ตำบลในเมือง อำเภอเมืองหนองคายเลียบตามซอยริมโขง ตั้งต้นจากลานวัฒนธรรม หรือลานพญานาค มุ่งไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ (แม่น้ำโขงอยู่ด้านซ้ายมือ) ห่างออกไปอีกประมาณ 2 กิโลเมตร จะเห็น "พระธาตุหล้าหนอง" องค์จำลอง โดดเด่นเป็นสง่าอยู่ที่ปลายสุดของซอยหรือถนนเส้นนี้ มองออกไปที่กลางน้ำตรงหน้าพระธาตุองค์สูงนั้น ก็จะเห็นซากปรักหักพังของสิ่งก่อสร้างจากอิฐ มีผ้าสีเหลืองทองคลุมเอาไว้ และมีเรือโดยสายแล่นอยู่โดยรอบ นั่นก็คือ "พระธาตุหล้าหนอง" องค์จริง หรือที่เรียกว่า "พระธาตุกลางน้ำ"การลงเรือไป-กลับ และทำพิธีกรรม ใช้เวลาไม่เกินครึ่งชั่วโมง...แต่ว่าก่อนจะลงเรือ เพื่อความเป็นสิริมงคล ก็ควรไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ "ศาลหลวงพ่อหล้าหนอง" ซึ่งประดิษฐานพระพุทธรูปและรูปองค์พญานาคผู้ปกปักรักษาพระธาตุกลางน้ำ ที่ชาวบ้านในท้องที่เคารพนับถือมาแต่โบราณ ตั้งอยู่ไม่ไกลจากท่าลงเรือนัก (แค่เดินข้ามซอยหรือข้ามถนนก็ถึง) และอยู่ติดกับที่ตั้งองค์พระธาตุจำลอง...เพื่อความ ปัง ยิ่งขึ้น จะเลยไปที่องค์พระธาตุจำลอง สักการะองค์พระธาตุพร้อมขอพร "พระมหาสังกัจจายนะ" เลยก็ได้ หรือจะลงเรือก่อน จึงแวะสักการะจุดนี้ทีหลังเมื่อขึ้นจากเรือแล้วก็ได้จ้ามีท่าเรืออย่างน้อย 3 ท่า ให้เลือกลงตามความชอบใจ และมีเรือมากมายคอยให้บริการ รวมบริการพาทำพิธีกรรมอย่างมืออาชีพ พร้อมการดูแลเรื่องความปลอดภัยทางน้ำโดยเจ้าหน้าที่กรมเจ้าท่า...เครื่องสักการะมีเตรียมให้อย่างดี ราคาก็ไม่แพง หรือใครอาจจะเตรียมไปเองก็ได้ ส่วนค่าเรือรวมบริการอื่น ราคาอยู่ที่ 100 - 500 บาท/รอบ ขึ้นอยู่กับแพคเกจ (เช่น ให้เข้าไปจอดตรงองค์พระธาตุเลย หรือ ให้วนรอบองค์พระธาตุ 3 รอบก่อน) หากไปเจอกันหลายคนหรือหลายทีม สามารถรวมกันลงเรือในรอบหนึ่ง ๆ ได้ตามความสมัครใจ ถ้าลงเรือพร้อมกันสัก 10 คน เลือกแพคเกจ 100 บาท หารกันไปหารกันมาก็อาจตกคนละ 10 บาท เท่านั้น"พระธาตุหล้าหนอง" กลางน้ำนั้น มีหลักฐานที่ทำให้เชื่อได้ว่า คือ "พระธาตุเมืองลา" หรือ "พระธาตุเมืองหล้า" ที่ถูกกล่าวถึงในตำนาน "อุรังคธาตุ" ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานของพระบรมธาตุส่วนพระบาทด้านขวา 9 องค์ ชาวบ้านในพื้นที่เรียกว่า "พระมหาธาตุ" สืบต่อกันมาจากคนรุ่นก่อน ๆ...การเปลี่ยนแปลงของร่องน้ำโขงในแต่ละปี ทำให้พระธาตุที่มีอายุยาวนานต้องกลายเป็นพระธาตุกลางน้ำไปโดยปริยาย และต้องพังทลายลงกว่า 150 ปีมาแล้ว เนื่องมาจากกระแสน้ำโขงที่เชี่ยวกรากในฤดูน้ำหลาก...สำหรับผู้เขียนแล้ว แม้เป็นซากปรักหักพัง แต่พระธาตุกลางน้ำนี้ก็เหมือนมีมนต์ขลัง นำความเย็นตาเย็นใจ แก่ผู้ได้มาเยือน ได้เห็น และได้สักการะ ทั้งจากริมฝั่งโขงและที่กลางน้ำ ได้อย่างน่าประหลาด...บรรยากาศและวิวทิวทัศน์ของแม่น้ำโขงบริเวณโดยรอบองค์พระธาตุนี้ ทั้งในฤดูน้ำหลาก ที่แทบจะมองไม่เห็นส่วนสูงสุดของกองซากพระธาตุ และฤดูน้ำแล้ง ที่ทำให้มองเห็นซากปรักหักพังขององค์พระธาตุโบราณได้อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นเวลาใด เช้า สาย บ่าย เย็น สภาพอากาศแบบใด แดดร่มลมเย็น ฝนตก หรือแดดออก ก็ล้วนมีเสน่ห์และไม่เคยทำให้ผิดหวัง ทุกครั้งที่ได้ไปเยือนสำคัญอย่างยิ่ง...ณ ตรงนี้ สิ่งที่ทำให้ สายมู ต้องตื่นหู ตื่นตา และตื่นใจ ก็คือ มักจะมีเรื่องเล่าและคลิปวิดีโอจากผู้คนธรรมดาทั่วไปที่เอามาแชร์กัน ด้วยเนื้อหาที่ว่า ได้พบเห็นสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ในน้ำ ที่ทำให้เข้าใจกันว่าอาจจะเป็นพญานาค (เพราะแม่น้ำโขงและหนองคาย ก็ขึ้นชื่อว่าเป็นดินแดนแห่งพญานาคอยู่แล้ว) แสดงตัวแสดงตนเหมือนเป็นการโมทนาบุญกับผู้ลงเรือไปสักการะพระธาตุกลางน้ำแห่งนี้อยู่เสมอ...แม้ผู้เขียนเองไม่เคยเห็นพญานาคตรงจุดนี้ แต่ก็มีประสบการณ์ตรง ที่ทำให้ไม่อาจบอกว่า เชื่อ แต่ต้องพูดว่า รู้แล้ว ว่าพญานาคมีจริงจ้า...สายมู ต่างรู้กันใช่ไหมล่ะ? ว่า พญานาคโดยปกตินิยมการทำบุญและชอบโมทนาบุญ จึงชื่นชอบคนทำบุญและอุทิศบุญให้มาก ๆ...ผู้เขียนประทับใจการได้นำผ้าลงเรือไปห่มบูชาองค์พระธาตุที่กลางน้ำ พร้อมกับประพรมเครื่องหอมและดอกไม้ถวาย ด้วยมือตนเอง นับเป็นช่วงเวลาที่มีคุณค่าและน่าปลาบปลื้มมาก ๆ...เพื่อนร่วมลงเรือ ทั้งลำเดียวกันและลำอื่น ๆ ทั้งพนักงานบนเรือและบนท่าเรือ แม้ไม่รู้จักกันมาก่อน แต่ก็ต่างมีน้ำใจไมตรีและอะลุ่มอล่วยต่อกัน นี่ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้ใจผ่องใส พร้อมเป็นภาชนะรองรับบุญกุศลเต็ม ๆ เลยนะพระธาตุพระอรหันต์ วัดโพธิ์ชัย (พระอารามหลวง) ตำบลในเมือง อำเภอเมืองหนองคาย"วัดโพธิ์ชัย (พระอารามหลวง)" ที่ตั้งของ "พระธาตุพระอรหันต์" อยู่ไม่ไกลจากพระธาตุกลางน้ำ คือประมาณ 2-3 กิโลเมตร...แต่การเดินทางอาจใช้เวลามากกว่าที่ควรจะเป็นสักหน่อย เพราะถนนในชุมชนเมืองบริเวณริมโขงค่อนข้างแคบ มีลักษณะเป็นตรอกซอกซอย และบางช่วงจราจรเปิดให้รถวิ่งทางเดียว ถึงแม้การจราจรไม่เรียกว่าคับคั่ง แต่ก็มียานพาหนะจำนวนไม่น้อย ทั้งของคนในพื้นที่และนักท่องเที่ยว ทำให้รถเคลื่อนตัวได้ช้า ๆ และต้องขับรถด้วยความระมัดระวัง"พระธาตุพระอรหันต์" เป็นเจดีย์ที่บรรจุพระธาตุของพระอรหันต์ 5 องค์ ได้แก่ พระมหารัตนเถระ พระจุลรัตนเถระ พระมหาสุวรรณปราสาทเถระ พระจุลสุวรรณปราสาทเถระ และพระสังฆวิชัยเถระ...ที่คนรุ่นหลังพึงเคารพบูชาในพระคุณ ทั้งคุณที่ท่านเป็นพระอรหันต์ เนื้อนาบุญของโลก คุณที่ท่านร่วมสร้างหรือบูรณะพระธาตุพนม และคุณที่ท่านได้เดินทางไปอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุจากอินเดียมาสร้างพระธาตุโบราณชุดหลังเหล่านี้ ให้ผู้คนได้กราบไหว้บูชาให้เป็นสิริมงคลแก่ชีวิตจิตใจมาจนทุกวันนี้..."พระธาตุพระอรหันต์" ตั้งอยู่ด้านหน้าพระอุโบสถที่ประดิษฐาน "หลวงพ่อพระใส" พระพุทธรูปโบราณที่งดงามและศักดิ์สิทธิ์ คู่บ้านคู่เมืองหนองคาย แต่เป็นที่สักการะบูชาของทั้งชาวไทยและชาวลาวบริเวณแถบนี้ ด้วยเรื่องราวตำนานอันศักดิ์สิทธิ์ของท่าน...ดังนั้น จึงนับเป็นกระบวนการภาคบังคับเสริมความ ปัง ที่จุดนี้ ที่เราได้เริ่มต้นด้วยการสักการะขอพร "หลวงพ่อพระใส" ต่อด้วยการสักการะและบูชาผ้าห่มองค์ "พระธาตุพระอรหันต์" เนื่องจากมีรูปหน้ายักษ์อยู่บนองค์พระธาตุ "พระธาตุพระอรหันต์" จึงเป็นที่รู้จักสำหรับคนในท้องที่ว่า “พระธาตุยักษ์” ด้วย ซึ่งก็น่าจะถูกใจ สายมู เพราะอาจทำให้คิดถึง "ท้าวเวสสุวรรณ" นั่นเอง...และอีก 2 จุด ที่น่าจะเป็นที่ชื่นชอบเช็คอินของ สายมู คือ จุดเสี่ยงเซียมซีหน้าพระอุโบสถ และ จุดบูชาของขลัง ซึ่งมีรูปแบบและราคามีให้เลือกได้หลากหลายตามความชอบใจจ้า การทำบุญห่มผ้าบูชาองค์พระธาตุ ผู้เขียนประทับใจ ที่ทางวัดจัดให้ร่วมเขียนชื่อร่วมบุญบนผ้าห่มพระธาตุ ปากกาเขียน พร้อมสรรพทั้งคุณภาพและปริมาณ เจ้าหน้าที่คอยดูแลก็ให้บริการด้วยความเต็มใจและเป็นกันเอง มีขวดเจลแอลกอฮอล์บริการด้วย...ผู้คนมากมายต่างมาตั้งใจเขียนชื่อร่วมบุญ ทำให้นึกถึงคำว่า บุญสามัคคี และรู้สึกว่า บุญนี้ไม่มีปิดกั้น...และทุกครั้งที่ไปสักการะ "หลวงพ่อพระใส" ผู้เขียนก็อดไม่ได้ที่จะชื่นชมในความงดงามขององค์หลวงพ่อพระใส สมกับตำนานความเป็นมา และก็เห็นว่า ทางวัดจัดถวายเครื่องสักการะบูชาและองค์ประกอบต่าง ๆ ได้เหมาะเจาะเหมาะสมงดงามสมบารมีขององค์ท่านจริง ๆจบแล้วจ้า ทำบุญ ปัง ๆ ง่าย ๆ ทำได้ใน 1 วัน...แต่ถึงแม้จะเป็นการทำบุญแบบสายด่วน และใช้ปัจจัยอันเป็นอามิสต่าง ๆ ได้แก่ เงิน และข้าวของบูชาอื่น ๆ แต่การตั้งจิตให้เป็นสมาธิ เพื่อแสดงความสักการะบูชาอย่างจริงใจต่อคุณพระรัตนตรัยและปูชนียสถานนี้ต่างหาก ที่เป็นกุญแจสำคัญ เปิดทางไปสู่ความสำเร็จของพรหรือบุญที่แต่ละจิตแต่ละใจตั้งความปรารถนาขอให้สำเร็จเมื่อทำอย่าง ปัง ทั้งอามิสบูชาและปฏิบัติบูชาเช่นนี้แล้ว ก็ขอให้ได้ผลอย่าง ปัง กันในสิ่งที่ดีงามทุกท่านทุกคนจ้า!!!พิกัด พระธาตุบังพวน วัดพระธาตุบังพวนพิกัด พระธาตุหล้าหนอง (กลางน้ำ) ใกล้ วัดสิริมหาสังกัจจายน์พิกัด พระธาตุพระอรหันต์ วัดโพธิ์ชัย (เครดิตภาพทั้งหมดโดยผู้เขียนเอง)มรรษยวรินทร์อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !