รัฐควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลียมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย เป็นเมืองที่ถูกเรียกว่าเมืองแห่งแสงแดด Sunshine State ( เพราะแดดออกเกือบทั้งวัน ) แนวทิศตะวันออกของรัฐควีนส์แลนด์ติดชายทะเล ขึ้นชื่อเรื่องน้ำทะเลสีฟ้าเข้มและชายหาดสีขาว หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของรัฐควีนส์แลนด์คือ Australia Zoo หากย้อนไปเมื่อปี ค.ศ. 2006 คงมีหลายคนที่จำเหตุการณ์การเสียชีวิตของ สตีฟ เออร์วิน ขณะถ่ายทำรายการ Ocean’s Deadliest เขาถูกเงี่ยงปลากระเบนชายธง ( Stingray ) แทงหน้าอก คนออสเตรเลียตกใจและเสียใจกับการจากไปของเขามาก เพราะเขามีชื่อเสียงจากการเป็นพิธีกรรายการ The Crocodile Hunter ทำให้คนออสเตรเลีย รวมทั้งคนทั่วโลกด้วยเข้าใจเกี่ยวกับจระเข้มากขึ้น ที่สำคัญคือเขาเป็นเจ้าของสวนสัตว์ Australia Zoo ที่จะพาทุกท่านไปเที่ยววันนี้ หลังจากเขาเสียชีวิตสวนสัตว์นั้นได้รับการดูแลโดยภรรยาและลูก ๆ ของเขา ภาพปกและภาพประกอบโดยผู้เขียน โดย Australia Zoo นั้นตั้งอยู่ในเมืองบริสเบน รัฐควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย นอกจากมีส่วนจัดแสดงสัตว์ต่าง ๆ ที่เป็นสัตว์ท้องถิ่นออสเตรเลียเช่น จิ้งโจ้ หมีโคล่า นกอีมู วอมแบท นกค็อกคาบาร่า วอลลาบี และอื่น ๆ อีกมาก ยังเป็นศูนย์อนุรักษ์พันธุ์สัตว์อีกด้วย อีกทั้งยังมีโรงพยาบาลสัตว์ Australia Zoo Wildlife Hospital เปิดรับรักษาสัตว์ป่าที่ได้รับบาดเจ็บต่าง ๆ เพราะฉะนั้นสวนสัตว์นี้จึงค่อนข้างใหญ่มาก แต่ทางสวนสัตว์ก็มีรถ Shuttle Bus ให้บริการฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย โดยหนึ่งรอบจะใช้เวลาประมาณ 30 นาที ควรนั่งให้ครบรอบก่อนแล้วจากนั้นเดินต่อ จะได้เที่ยวได้ทุกโซน รถ Shuttle Bus จะมาที่จุดจอดรถทุก ๆ 30 นาที แต่ถ้าเป็นวันเสาร์อาทิตย์ จะมีรถสองคัน ก็จะมาที่จุดจอดรถทุก ๆ 15 นาที ครั้งนี้ตอนแรกครอบครัวเราไม่ได้นั่งรถ เพราะพวกเรามุ่งหน้าไปโซนจิงโจ้และหมีโคล่าก่อนเลย ซึ่งจะอยู่ในโซน Roo Heaven โดยจากทางเข้าเราเลี้ยวซ้ายแล้วเดินผ่านจุดแสดงงูหลากหลายชนิดทั้งงูมีพิษและไม่มีพิษ จากนั้นจะผ่านจุดแสดงนกนักล่า นกอินทรี นกเหยี่ยวหลากหลายพันธุ์ เดินต่อไปจะถึงจุดเข้าชมนกในเขตป่าร้อนชื้น ส่วนใหญ่จะเป็นนกแก้วหลายสายพันธุ์ซึ่งจะมีสีต่าง ๆ กันสวยงาม เมื่อออกจากโซนนกมาแล้วก็จะเป็นส่วนที่พวกเราอยากมามากที่สุดนั่นคือ Roo Heaven โดยที่นี่มีจิงโจ้เยอะมาก และเลี้ยงอย่างอิสระ ปล่อยให้จิงโจ้ที่มีอยู่หลายร้อยตัวใช้ชีวิตอย่างอิสระในโซนนี้ได้เลย บางตัวก็นอนหลับนิ่ง ๆ เลย หากเราไปลูบหัวเขาเบา ๆ ไม่ได้เข้าไปทางข้างหลังให้เขาตกใจ เขาก็นอนให้ลูบหัวเหมือนว่าเขาชอบเลยทีเดียว แรก ๆ ลูก ๆ ก็เกรง ๆ ไม่ค่อยกล้า แต่เมื่อเห็นแล้วว่าทำได้ ก็ลดความกลัวลงไปได้ จากจุดนี้เดินต่อไปยังโซนหมีโคล่า ซึ่งก็จะมีบางตัวที่เจ้าหน้าที่สวนสัตว์นำมาเกาะไว้ที่กิ่งต้นยูคาลิปตัสให้ผู้เข้าชมได้เห็นใกล้มากขึ้น บางครั้งเจ้าหน้าที่ก็จะเอามาอุ้มให้เราได้ไปสัมผัสขนมันได้ด้วย เจ้าหน้าที่เล่าว่าหมีโคล่าเป็นสัตว์ที่ขี้อายมากและดุร้ายพอควร มันชอบนอนตอนกลางวันมาก มันเลยไม่ค่อยจะหันหน้ามาให้เราถ่ายรูปเท่าไหร่ ภาพประกอบโดยผู้เขียนภาพประกอบโดยผู้เขียน จากนั้นใกล้เวลาแสดงจระเข้ เราเลยเดินไปที่ Crocoseum ซึ่งเป็นลานแสดงจระเข้ จะแสดงเวลาเที่ยงตรงทุกวัน ถ้ามีเวลาก็มาจับจองที่นั่งกันก่อน จะได้เห็นชัด ๆ การแสดงประมาณครึ่งชั่วโมง คือถ้าจะเทียบกับบ้านเราแล้ว หมอจระเข้บ้านเราก็อาจจะกล้ากว่า แต่ของเขาดูแล้วก็อาจจะรู้สึกว่าของเขาค่อนข้างปลอดภัยกว่า จบจากโชว์จระเข้พวกเราก็ทานอาหารที่บริเวณโรงอาหารใกล้กับจุดแสดงจระเข้เลย เนื่องจากเราเตรียมตัวมาพอสมควรเราจึงนำอาหารเที่ยงมาเอง เป็นแซนด์วิชแฮมชีส เบคอนทอดกรอบ และสปาเก็ตตี้โบลองเนส สิ่งที่ขาดไม่ได้คือควรนำน้ำดื่มมาเองด้วย หลังรับประทานอาหารเที่ยงเสร็จแล้ว เราก็นั่งรถ Shuttle Bus กลับมายังทางออก ระหว่างทางจะผ่านโซน Africa จะมีม้าลาย ยีราฟ แต่พวกเราไม่ได้แวะโซนนี้ เลยได้ลงรถตรงบริเวณใกล้ทางออกพอดี โดยรวมแล้วพวกเราใช้เวลาในสวนสัตว์ประมาณ 3-4 ชั่วโมง หากใครมีเวลาสามารถอยู่ได้นานกว่านั้น เพราะมีอีกหลายจุดที่พวกเราไม่ได้แวะ Australia Zoo เปิดตั้งแต่เวลา 9.00น. ถึง 17.00น. สำหรับทริปนี้ให้คะแนน 9/10 หักหนึ่งคะแนน ราคาค่าเข้าค่อนข้างแพง อย่างว่าเนอะต่างประเทศ ค่าเข้าราคาอยู่ที่ ผู้ใหญ่ 59 AUD เด็ก 35 AUD มีโปรโมชั่น Family 4 คน ( 2 Adults + 2 Children ) อยู่ที่ 179 AUD ใครไปบริสเบนก็ลองแวะไปเที่ยวดูนะคะ ภาพประกอบโดยผู้เขียน ( Capture มาจากวีดีโอที่สามีเป็นคนถ่ายเลยอาจจะเบลอเล็กน้อย) ภาพประกอบโดยผู้เขียน