เบื่อเดินเที่ยวสามพันโบกร้อน ๆ ก็ลองมานั่งเรือชมวิวหินผาริมแม่น้ำโขงชิล ๆ ดูสิจ้ะ บ้านผาชัน ต.สำโรง อ.โพธิ์ไทร จ.อุบลราชธานี ซึ่งอยู่ห่างจากแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมอย่างสามพันโบก อ.โพธิ์ไทร จ.อุบล ราว 25 กม. เป็นแหล่งขึ้นเรือยามหน้าน้ำลด หรือช่วงฤดูหนาว-แล้งสำหรับนักท่องเที่ยวสายชิล ผู้โปรดปรานการนั่งเรือชมวิว อำเภอที่มีวิวแม่น้ำโขงและภูเขาสวย ๆ ในจังหวัดอุบล ส่วนใหญ่อยู่ห่างจากอำเภอเมืองจังหวัดอุบล ซึ่งเป็นที่ตั้งของสนามบินแห่งชาติอุบลราชธานีเฉลี่ยราว 100 กิโลเมตร และบางแห่งไม่เป็นทางผ่าน คือต้องตั้งใจไป และอาจไม่มีสถานที่ท่องเที่ยวอื่นใกล้เคียงมากนัก ควรเช็คแผนที่และวางแผนเดินทางให้ดี พื้นที่บริเวณอำเภอโขงเจียม ลากยาวไปถึงเขมราฐ และบางส่วนของโพธิ์ไทร ใน จ. อุบลราชธานี มีลักษณะทางธรณีวิทยาเป็นลานหินทราย มีหินก้อนขนาดใหญ่เล็ก บางแห่งเป็นแก่ง แห่งที่แห้งแล้งหน่อยเป็นลานหินกว้าง ทอดตามลำน้ำโขงไปไกล พื้นที่บางส่วนเป็นหาดทราย ชาวบ้านมักจะปลูกผัก บางแห่งมีทัศนียภาพสวยงามมากจนปัจจุบันกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยว แต่ข้อเสียคือ หากต้องการไปเที่ยวพื้นที่บริเวณนี้เพื่อถ่ายภาพสวย ๆ ชิค ๆ นักท่องเที่ยวควรต้องเช่ารถยนต์หรือเดินทางเองด้วยรถยนต์ เพราะสถานที่ท่องเที่ยวแต่ละแห่งห่างไกลกันมากพอสมควร บางที่ต้องเข้าตรอก ซอกซอยเล็กน้อย แต่ทางสัญจรสะดวก ไม่เปลี่ยว มีหมู่บ้านเล็กใหญ่อยู่รายลอบที่ท่องเที่ยว สิ่งที่ควรคำนึงถึงเมื่อจะไปเที่ยวหาดทราย ลานหิน หรือเกาะแก่งริมแม่น้ำโขงในจังหวัดอุบลก็คือเรื่องปริมาณน้ำ หากน้ำแห้งเกินไป อากาศมักจะร้อนมาก และภาพอาจจะไม่สวยเท่าที่ควร ขณะเดียวกัน หากเป็นฤดูน้ำมาก เราก็จะไม่เห็นเกาะแก่งและความงามริมแม่น้ำโขง ช่วงเดือนที่เหมาะแก่การท่องเที่ยวคือเดือนพฤศจิกายนถึงมกราคม หากมีเพื่อนอยู่อุบล หรือติดตามเพจสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดอุบลและสอบถามสถานการณ์ ปริมาณน้ำและสภาพอากาศได้จะดีมาก เพราะหากไปถูกช่วง จะได้สัมผัสอากาศเย็นสบาย เที่ยวชิล ๆ ท่ามกลางลมเย็น ๆ แต่ถ้าไปผิดฤดู ผิดเวลา อากาศจะร้อนจัด ควรมีพัดลมพกพาติดไปด้วย วิวสองฝั่งน้ำโขงแถบผาชันนี้จะน่าชื่นชมขนาดไหนนั้น ลองไปดูภาพไฮไลท์กัน ถ้าไปถูกช่วง เช่นช่วงต้นฤดูหนาว ที่นี่ไม่ได้มีแต่วิวหน้าผาหินแห้ง ๆ นะจ้ะ มีต้นไม้เขียว ๆ ด้วย ทางเดินไปขึ้น-ลงเรือ วิวก็จะประมาณนี้ ตรอก ซอกผา แวะถ่ายรูปเก๋ ๆ กันได้ แดดแรงขนาดนี้ ถามใจเธอว่าพร้อมไหม หากจะมาที่นี่แบบไม่มีร่ม หมวก หรือไม่ได้ทากันแดด ช่วงเวลาแนะนำคือ 16.30 น.-18.30 น. (อย่าลืมเช็คเวลาพระอาทิตย์ตกดินด้วยนะจ้ะ มามืดเกินไป จะไม่ได้ล่องเรือและชมแสงพระอาทิตย์ตก) น้ำตกขนาดเล็กมีให้ชมหลายแห่งเลยทีเดียว แต่ย้ำว่า ต้องมาช่วงที่ไม่แห้งแล้งมาก โทรสอบถามคนแถวนั้น หรือคนเรือได้เลย ความงามอยู่ที่แสงที่ส่องตกกระทบกับแนวผาหิน ถ้าแดดแรง แสงออกจ้า สีขาว สีเงิน ก็จะงามอีกแบบ แต่วันที่เรามา แสงออกน้ำตาลทอง แดดไม่ร้อนมาก นับว่าโชคดีสุด ๆ วิวน้ำโขงกว้างไกลสุดลูกหูลูกตา แนะนำให้มากันเป็นกลุ่มใหญ่ 5-10 คน จะได้ไม่รู้สึกว่าค่าเรือแพง เรือ 1 ลำ หากต่อรองได้ ค่าเรืออาจอยู่ระหว่าง 800-1,500 บาท ให้คนเรือพาขับเรือไปดูใกล้ ๆ ได้ น้ำตกและธารน้ำขนาดเล็กแปลกตา มีให้ชมเป็นระยะ มาลองมองหาแสงสีทองอร่าม และแน่นอนว่าแอ่งน้ำ หรือวิวคล้าย ๆ กับสามพันโบก ที่นี่ก็มีให้ชมเช่นกัน สรุป หากมีเวลาไม่มากนัก และไม่อยากแค่ไปเดินตากแดดถ่ายรูปที่สามพันโบก ลองเปลี่ยนเป้าหมายมาที่บ้านผาชันดู แล้วคุณจะพบว่า มาแถบนี้ ไม่ได้มีแค่ลานหน้าผาหินร้อน ๆ เหมือนที่ใคร ๆ บ่นกัน (จริง ๆ ควรพกพัดลมพกพาติดตัว) ถ้าเตรียมตัวมาดี ที่นี่จะกลายเป็นที่เที่ยวสุดรีแล็กซิ่ง สายชิลต้องชอบแน่ ๆ ปล. จริง ๆ ที่สามพันโบก บางช่วงมีกิจกรรมเช่นกางเต้นท์ดูดาว (เช็คสถานที่ ราคา และข้างขึ้นข้างแรมให้ดี) หรือมีกระทั่งพายเรือคายัค ทั้งนี้ ลองติดต่อผู้ประกอบการท่องเที่ยวท้องถิ่น หรือข้อมูลของ ททท. (ไปแวะศูนย์ ททท. ของอุบลแถวทุ่งศรีเมืองก่อนก็ได้นะ เผื่อจะได้มีข้อมูลล่าสุดติดไม้ติดมือไปด้วย เจ้าหน้าที่หน้ารัก มีข้อมูลติดต่อคนในท้องถิ่นมากพอสมควร)