บันทึกการเดินทาง เส้นทาง ภูเก็ต - กระบี่ - ภูเก็ต ... ผู้เขียนเริ่มออกเดินทางจากภูเก็ต เป้าหมายที่กระบี่ การเดินทางในครั้งนี้มีเวลาจำกัดมาก แค่สองวัน เท่านั้น ไป-กลับ ไปด้วยรถส่วนตัวของเพื่อน โดยกำหนดการ Start นั้น 9.00 น. เอาฤกษ์เอาชัย ออกเดินทางออกจากตัวเมืองภูเก็ต แวะน้ำมันให้เต็มถัง พักจิบกาแฟในปั้ม รองท้องก่อนออกเดินทางแบบยาว ๆ กันไป จากการค้นหาข้อมูลใน Google Map เส้นทางจากภูเก็ตถึงกระบี่ จะใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 28 นาที ระยะทางประมาณ 158 กิโลเมตร ดูเหมือนไม่ไกล และดูเหมือนจะใช้เวลาไม่มาก หากเราทำเวลากันจริง ๆ เดินทางแบบยาว ๆ แบบที่เราหวังไว้ก็น่าจะทำเวลาได้ใกล้เคียงกับที่ Google Map คำนวณมาให้ ภาพจาก Google Map เช้านี้ รถที่วิ่งออกจากภูเก็ตฝั่งขาออก มีรถเยอะพอสมควรแต่เราก็ยังไปได้เรื่อย ๆ ไม่ถึงกับติด ถ้าออกกันแต่เช้าตรู่ เส้นนี้วิ่งฉิว เเม้จะออกสาย ๆ แต่ใช้เวลาเดินทางไม่นานก็มาถึงสะพานสารสินแล้ว ข้ามสะพานไปเราก็จะเข้าสู่เขตของจังหวัดพังงา จะขอเป็นแค่ทางผ่านเท่านั้น ขากลับหากพอมีเวลาค่อยแวะพังงาแล้วกัน เผื่อมีผลไม้ ปลาแห้ง ของแห้ง อาหารทะเลติดรถกลับไปฝากเพื่อน ๆ ที่ภูเก็ต ถ้าเราทำเวลากันได้แบบนี้เป้าหมาย "สระมรกต" ที่เราฝันถึงคงอยู่ไม่ไกลอย่างแน่นอน เส้นทางจากพังงาไปกระบี่ เป็นเส้นทางที่มีธรรมชาติสองข้างทางที่สวยงาม จะมีวิวสวย ๆ งาม ๆ ให้เราได้ชม แถมมีของอร่อย ๆ ระหว่างทางให้ได้แวะกินกันด้วยนะ ผู้เขียน นั่ง ๆ หลับ ๆ สลับกับดูวิว ใช้เวลาไม่นานก็เดินทางมาถึงเป้าหมายกัน ด้านหน้าจะมีที่จอดรถกว้างขวาง เจ้าหน้าที่แจ้งว่าจะเข้าไปจอดด้านในใกล้ทางเข้าสระมรกตก็ได้ แต่จะมีค่าบริการจอดรถ ประมาณ 30 บาท และอาคารแสดงสินค้า บูธขายของของร้านค้าต่าง ๆ มีทั้งของที่ระลึก และ อาหารการกินมากมาย ตลอดเส้นทางเดินเข้าไป ตามผู้เขียนมา เดี๋ยวผู้เขียนจะพาเดินเข้าไปด้านในกันนะครับ ก่อนอื่นจะต้องซื้อตั๋วตรงทางเข้ากันก่อน สำหรับคนไทย 20 บาท นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ 200 บาท ต่อคน เวลาเปิดทำการให้นักท่องเที่ยวเข้าเยี่ยมชมได้ เริ่มตั้งแต่ 08.30-17.00 น. เส้นทางที่จะเดินไปชมสระมรกตนั้น จะมีให้เลือกเดินสองเส้นทาง เส้นทางธรรมชาติ 800 เมตร ส่วนเส้นทางที่ทางเดินที่เจ้าหน้าที่ทำไว้ให้ 1,400 เมตร ทั้งสองเส้นทางจะต้องเดินผ่านป่าธรรมชาติเข้าไป เป็นป่าที่มีความอุดมสมบูรณ์เป็นอย่างมาก จะได้ยินเสียงนก เสียงธรรมชาติมากมาย ที่ซ่อนตัวอยู่ในป่าแว่วทะลุออกมา เส้นทางเดินป่านี้ บางจุดจะมีนักท่องเที่ยวเดินสวนออกมา เดินตามหลังเรามาก็มี วันนี้ที่เรามาถึงนักท่องเที่ยวเดินทางมากันเยอะแล้ว ผู้เขียนสังเกตว่าระหว่างเส้นทางเดินในป่าจะมีสระน้ำธรรมชาติอยู่เป็นระยะ ๆ ซึ่งน่าสนใจตรงน้ำใสมาก บางจุดจะมีดอกไม้จากธรรมชาติให้ได้ชม รวมถึงพันธุ์ไม้ประจำถิ่นที่เราไม่เคยได้เห็นจากข้างนอกที่ไหนมาก่อนก็มี ตลอดเส้นทางที่เราเดินเราจะได้ยินเสียงน้ำไหลอยู่ตลอดเวลา เป็นน้ำที่ไหลผ่านป่าลงไปยังปากทางเข้า เพราะจุดนั้นจะมีผู้มาเที่ยวเล่นน้ำกันได้อยู่ เป้นจุดที่เจ้าหน้าที่อนุญาต แต่หากจะเล่นในป่าแบบนี้ไม่ได้ เพราะเป็นป่าต้นน้ำที่บริสุทธิ์จริง ๆ จะมีการห้ามไว้ ต้องระวังนิดหนึ่งนะครับ พยายามอย่าออกนอกแนวเขตที่เจ้าหน้าที่กำหนดให้เป็นแนวทางเดินไว้ให้แล้ว เพื่อไม่ไปทำลายธรรมชาติอันสวยงาม สังเกตดี ๆ เราจะเห็นสระน้ำธรรมชาติแบบนี้อยู่เป็นระยะ ๆ สภาพน้ำใสมาก ๆ และจะมีปลาเล็กปลาน้อยว่ายอยู่ในน้ำ แหล่งต้นน้ำธรรมชาติแบบนี้เราควรช่วยกันดูแลรักษาเอาไว้ เพราะมันคือความสวยงามที่น่ามหัศจรรย์ยิ่งนัก หาที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว ลูกหลานเราจะได้มีสิ่งดี ๆ ธรรมชาติดี ๆ แบบนี้ได้ชม ได้มีที่มาศึกษาและเรียนรู้กันเวลาที่พวกเขาเติบโตขึ้น พอเดินพ้นแนวป่า เสียงน้ำไหล เสียงผู้คนเจื้อยแจ้ว อยู่ตรงหน้า พร้อมภาพสระน้ำขนาดไม่ใหญ่มากนัก สีน้ำเป็นสีเขียวมรกต สวย น้ำใสมาก บางคนก้อนั่งริมสระ บางคนก็เล่นกลางสระ ดูแต่ละคนมีความสุขกันมาก วันนี้ผู้เขียนขอแค่มาชมและเก็บภาพไว้ ไม่ขอลงเล่นน้ำนะครับ แค่ได้มาเยี่ยมชมก็พอใจแล้ว สระมรกต เป็นสระธารน้ำอุ่น เนื่องจากโซนป่าบริเวณนี้จะมีน้ำพุร้อนอยู่มาก หลายจุด อุณหภูมิของน้ำจะอยู่ที่ 30-35 องศา อุ่นกำลังดี แต่ก็มีคำเตือนสำหรับบางคนที่อาจจะมีผลกระทบกับร่างกายได้ หากแช่น้ำนาน ๆ ควรที่จะให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่และอ่านคำเตือนให้ดีก่อนจะเล่นน้ำด้วยนะครับ เก็บภาพสระน้ำสักพักก็เดินต่อไปตามเส้นทางเดินที่เขาทำไว้อยากรู้ว่าไปต่อจะเจอกับอะไร ยอมรับครับว่าเหนื่อย ร้อนกับการเดินทางมากเหมือนกัน แต่เพราะความอยากรู้จริง ๆ ว่าปลายทางเส้นนี้จะต้องมีอะไรดี ๆ ซ่อนอยู่แน่ ๆ เพราะเห็นคนอื่นก็เดินทางกันไปก่อนหน้าผู้เขียน เดินไป พักไป เป็นระยะ ๆ เพราะอาการเหนื่อย หอบ หรือเพราะแก่แล้วนะ ขอชี้แนะในการมาเที่ยวสถานที่เป็นธรรมชาติแบบนี้ว่า สิ่งที่ควรติดตัวมาด้วย น้ำดื่ม ผ้าเย็น และยาดม ห้ามลืมนะครับ ช่วยได้เยอะเลย ฮ่า ๆ เพราะตอนนี้ผู้เขียนไม่มีทั้งผ้าเย็น ไม่มีทั้งน้ำ ไม่มีทั้งยาดม เป็นความผิดพลาดอย่างมากทีเดียว ไม่คิดครับว่าทางเดินชมที่นี่จะเดินไกลขนาดนี้ แต่ก็คุ้มครับ พักหายเหนื่อยก็มาเดินกันต่อ ต่อด้วยเส้นทางเดินในป่า พร้อมป้ายเตือนสัตว์มีพิษ เช่น งู และ แมงมุม พิษ เป็นระยะ ๆ มาถึงขนาดนี้แล้วถอยไม่ได้แล้ว ต้องเดินต่อไปให้สุด ไม่นานก็พบกลุ่มนักท่องเที่ยวยืนชมอะไรบางอย่างกันอยู่ด้วยความตื่นเต้น บ้างถ่ายรูป บ้างก็นั่งพัก คงเพราะเหนื่อย พอผู้เขียนเดินเข้าไปใกล้สิ่งที่ปรากฎตรงหน้านั่นก็คือ "บ่อน้ำผุด" หรือที่เรียกกันว่าตาน้ำกลางป่า บ่อน้ำขนาดไม่ใหญ่มากนัก แต่น้ำใสมาก สีฟ้าสวย คุ้มค่าที่พยายามเดินมาถึงจุดนี้ได้ แต่สิ่งหนึ่งที่ผู้เขียนอยากตำหนิในการกระทำของนักท่องเที่ยวบางคนที่เดินลงไปข้างล่างเพื่อถ่ายรูป เป็นสิ่งที่ไม่ควรกระทำเลย ผู้เขียนเก็บภาพสักพัก หายเหนื่อยก็รีบเดินทางกลับออกจากป่าสระมรกต ขากลับเดินออกเส้นทางธรรมชาติ 800 เมตร ก่อนจะเดินกลางออกจากกระบี่ เพื่อกลับสู่เมืองภูเก็ต เส้นทางการเดินทางทัวร์สระมรกตในครั้งนี้ แม้ว่า จะเหนื่อย แต่คุ้มค่า กับสิ่งที่ได้มาเจอ มันเกินคำบรรยาย เกินกว่าความคาดหมายอย่างมาก ไม่เคยคิดว่า ในป่าธรรมชาติจะมีสระน้ำมหัศจรรย์แบบนี้อยู่ ดีใจที่ยังการอนุรักษ์ไว้ อย่างดี สิ่งหนึ่งที่อยากฝากหากใครจะไปท่องเที่ยวที่นี่คือ การเตรียมตัวให้พร้อม ทั้งร่างกาย จิตใจ และสิ่งอำนวยความสะดวก ไม่ว่าจะเป็น น้ำดื่ม ผ้าเย็น หรือ ยาดม ยาหม่อง ในกรณีจะเป็นลม หรือ เผื่อเจอใครเป็นลมกลางทางจะได้เผื่อแผ่กันได้ แล้วการท่องเที่ยวของเราก็จะมีแต่ความสุข เก็บเกี่ยวความทรงจำดี ๆ ในสถานที่นี้ไว้ตลอดไป ก่อนจากกันในบทความนี้ ผู้เขียนขอฝากติดตามบทความอื่น ๆ ของพ่อน้องนำมนต์ด้วยนะครับ ภาพโดย ผู้เขียน