วันนี้ลวิตจะพาไปวัดภูมโนรมย์ค่ะ (วันที่ 1 ตุลาคม 2563) กว่าจะถึงวัดก็ห้าโมงเย็นหน่อยๆ เจ้าหน้าที่ตามซุ้มขายของต่างๆ กลับไปหมดแล้ว เริ่มไม่มีคน กังวลใจอยู่ว่าเราจะเข้าไปได้ไหม แต่หาข้อมูลจากอินเทอร์เน็ตว่าปิด 19.00 น. จึงลองเดินไปถามสามเณรที่ผ่านมาพอดี ท่านตอบว่าอยู่ได้ถึงหนึ่งทุ่ม ให้รีบหน่อย จะค่ำแล้ว เราขอบคุณแล้วรีบไปไหว้พระกัน ก่อนตะวันจะสิ้นแสงจึงเก็บภาพกับป้าย "สุดเขตแดนสยาม จ.มุกดาหาร" ไว้ และเร่งฝีเท้าไปที่พระใหญ่ที่เห็นไม่ไกลอยู่ตรงหน้า ระยะทางเป็นแบบเนินขึ้น กว่าจะถึงหอบเลย ไม่ได้แก่อะไรหรอกนะ ^_^ วัดภูมโนรมย์มีชื่อเต็มว่า "วัดรอยพระพุทธบาทภูมโนรมย์" อยู่ที่อำเภอเมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร ภายในวัดมีรอยพระพุทธบาทจำลองของพระเจ้าใหญ่แก้วมุกดาศรีไตรรัตน์ให้ได้สักการะขอพร ด้วยเวลาอันจำกัดเราจึงไม่ได้ไปไหว้รอยพระพุทธบาทแต่ขึ้นไปไหว้องค์ "พระเจ้าใหญ่แก้วมุกดาศรีไตรรัตน์" ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ขนาดหน้าตัก 39.99 เมตร สูง 59.99 เมตร ความสูงจากฐานถึงยอดเศียร 84 เมตร ที่ประดิษฐานอยู่บนยอดเขาเลย ตัวอาคารยังสร้างไม่แล้วเสร็จ แต่โครงสร้างมั่นคงแข็งแรงสามารถขึ้นไปไหว้ท่านด้านบนได้แล้วค่ะ จากกล้องที่เรามีกับระยะที่เราถ่ายรูปได้นั้น ไม่สามารถเก็บองค์ท่านได้ครบเนื่องจากขนาดที่ใหญ่มาก จึงเก็บภาพได้เพียงบางส่วน ที่เหลือบันทึกไว้ในความทรงจำ การไหว้พระครั้งนี้เราเจอเพื่อนร่วมทางใจดี ชี้ให้เราดูเมฆรูปทรงน่าศรัทธา พี่เขาบอกให้ลองกลับภาพเป็นแนวตั้งด้วยนะ เห็นเป็นอย่างไรก็อย่างนั้นเลยค่ะ ^_^ หลังจากสูดอากาศสดชื่นยามเย็นจนเต็มปอด ภาพทิวทัศน์ค่อยๆ มืดเลือนไป ก็ได้เร่งฝีเท้ากันอีกรอบเพื่อไปไหว้ “องค์พญาศรีมุกดามหามุนีนีลปาลนาคราช” หรือ “ปู่ศรีมุกดา” ที่อยู่ด้านล่างไม่ไกลนัก ถึงองค์ท่านอาทิตย์ก็ลับขอบฟ้าไปแล้ว แต่มีสปอร์ตไลท์ส่องสว่างอยู่ทั่วบริเวณจึงยังเห็นท่านได้ชัดเจน รอบๆ บริเวณตามที่ต่างๆ มีผ้าแดงที่มีคนมาเขียนชื่อและอธิฐานขอพรผูกไว้เต็มไปหมด เป็นความศรัทธาที่เพิ่มความขลังให้กับสถานที่ได้อีกไม่น้อย เราไม่ได้ผูกผ้าแดง แต่ไปเดินลอดท้องปู่ศรีมุกดาอธิษฐานขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคลจบครบทั้ง 7 จุด ซึ่งแต่ละจุดมีพรที่แตกต่างกันไป อยากรู้ว่ามีอะไรบ้างต้องไปค่ะ ^_^ ปู่ศรีมุกดา เป็นพญานาคเศียรเดียวลวดลายบรรจงงดงาม เมื่อต้องแสงยามโพล้เพล้จนอาทิตย์อัสดงก็ยิ่งโดดเด่น ดูลึกลับน่าค้นหา ถ้าใครมาเวลานี้จะได้เห็นความงามในอีกรูปแบบที่ต่างออกไปจากเวลากลางวัน บรรยากาศสงบเย็น มีคนมาไหว้ประปรายนับพวกเราด้วย 7 คนถ้วน เหมาะกับผู้ที่ไม่ชอบความพลุกพล่านของผู้คน เมื่อมองผ่านสายตาจะเห็นความงาม ความยิ่งใหญ่มากกว่ามองผ่านเลนส์นะคะ แล้วอย่าถ่ายรูปเพลินจนลืมเวลาเชียวค่ะ เพราะพอหมดแสงแล้วทางเดินกลับค่อนข้างมืด ส่วนทางขึ้น-ลงเขาซึ่งเป็นถนนที่สร้างมาที่วัดโดยเฉพาะ เป็นถนนเลนสวนที่ไม่มีไฟ ขับรถต้องระวังกันให้ดี ลวิตกลับออกมาด้วยหัวใจพองโต อิ่มทั้งตา อิ่มทั้งใจ หวังว่าเพื่อนผู้อ่านจะมีโอกาสได้ไปสัมผัสด้วยตาของตัวเองกันนะคะ ^_^ ภาพถ่ายโดยไปกับลวิต