ในวัยเด็กของผมนั้น เคยได้ยินคำพูดที่ว่า "ยักษ์วัดแจ้ง แร้งวัดสะเกศ เปรตวัดสุทัศน์" ซึ่งเป็นคำพูดคล้องจองที่ผมเชื่อว่าเพื่อนๆหลายๆคนคงเคยได้ยินผ่านหูมาหลายครั้งหลายครา ซึ่งตำนานนี้เกิดขึ้นจริงในหน้าประวัติศาสตร์ เมื่อครั้งต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ซึ่งวันนี้ผมจะพาเพื่อนๆ ไปเที่ยว 3 วัด และย้อนตำนานนี้ไปด้วยกันนะครับยักษ์วัดแจ้งวัดแรกที่ผมจะพาเพื่อนๆ ไปย้อนตำนานกันคือ “วัดแจ้ง” หรือ วัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร ซึ่งเป็นวัดที่ สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี หรือ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ทรงสถาปนาขึ้นโดยบูรณะจาก วัดมะกอก และเปลี่ยนชื่อเป็นวัดแจ้ง พร้อมทั้งใช้พื้นที่บริเวณนั้นเป็นพระราชวังของกรุงธนบุรี "ยักษ์วัดแจ้ง" ตำนานยักษ์ที่ได้ชื่อว่าโด่งดังที่สุดใน สมัยของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 พระองค์ทรงมีพระราชดำริ ให้ช่างหลวงฝีมือดี ปั้นพญาทศกัณฑ์ และท้าวสหัสเดชะ 2 พญายักษ์จากเรื่องรามเกียรติ์ เป็นทวารบาลคู่หน้า ของพระอุโบสถวัดอรุณฯ ซึ่งในยุคนั้นถือเป็นงานประติมากรรมที่ยิ่งใหญ่ ทัดเทียมกับวัดพระแก้วหากแต่ที่วัดพระแก้วนั้น ประชาชนสามัญเข้าถึงได้ลำบากในยุคสมัยนั้น เพราะอยู่ในเขตของพระบรมมหาราชวัง ยักษ์วัดแจ้ง จึงเป็นที่รู้จักและกล่าวขานของคนในสมัยนั้น จนกลายเป็นคำพูดติดปากว่า "ยักษ์วัดแจ้ง"สิ่งที่น่าสนใจของที่วัดแจ้งนั้น ไม่ได้มีเพียงแต่ยักษ์ แต่ยังมีพระปรางค์องค์ใหญ่ มีพระราชวังเดิม และศิลปกรรมอื่นๆ อีกมาก สำหรับการเดินทางไปที่วัดแจ้ง ผมใช้วิธีการข้ามเรือ บริเวณท่าเตียน ไม่กี่นาทีก็ถึงที่วัด โดยวิธีการเดินทางไปยังท่าเตียนนั้น สามารถเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว รถสาธารณะ หรือว่าจะรถไฟฟ้า ก็สะดวกดีนะครับบทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับวัดแจ้ง : “วัดแจ้ง” ไหว้พระในกรุงข้อมูลวัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหารพิกัด : วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร (วัดแจ้ง)ที่อยู่ : เลขที่ 34 ถนนวังเดิม แขวงวัดอรุณ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร 10600โทรศัพท์ : -เว็บไซต์ : https://www.watarun1.comแร้งวัดสระเกศวัดต่อมาที่ผมจะพาเพื่อนๆไปเที่ยวคือ วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร หรือ วัดภูเขาทอง วัดเก่าที่ชื่อวัดสะแก และถูกบูรณะประติสังขรขึ้นใหม่ในสมัย พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 พร้อมเปลี่ยนชื่อใหม่เป็นวัดสระเกศ ซึ่งแปลว่า ชำระศรีษะ หรือสระผม ครับ ต่อมาสมัย พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 ได้มีการสร้าง บรมบรรพต หรือภูเขาทองขึ้น ณ บริเวณวัดสระเกศนี้"แร้งวัดสระเกศ" สำหรับตำนานแร้งวัดสระเกศ เริ่มในสมัย พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 ได้เกิดอหิวาตกโรค สมัยนั้นเรียกโรคห่า ได้ล้างชีวิตของชาวบ้าน ร้านตลาด ไปจนถึงขุนน้ำขุนนาง ในสมัยนั้นโดยบันทึกไว้ว่า มีศพมากถึง 3 หมื่น และ อีก 30 ปีต่อมา โรคนี้ได้เกิดขึ้นอีกครั้ง ทำให้มีคนตายอีกถึง 4 หมื่นคน ซึ่งในสมัยนั้นยังไม่มีวิธีการรักษา ทำได้แค่รักษาทางไสยศาสตร์ ศพที่ตายเพิ่มขึ้นในทุกๆวันได้ถูกเอามากองรวมรอเผา ที่วัดสระเกศฯ เมื่อฝูงแร้งได้กลิ่นซากศพ จึงพากันบินมารุมจิกกินซากศพ เป็นภาพที่น่าสยดสยองมากในสมัยนั้น จนเป็นคำพูดที่ติดปากว่า "แร้งวัดสระเกศ"นอกจากตำนานแร้งวัดสระเกศที่คุ้นหู เพื่อนๆยังจะได้นมัสการบรมบรรพรต(ภูเขาทอง) และเที่ยวชมบรรยากาศไหว้พระภายในวัด การเดินทางไปที่วัดสระเกศผมใช้ GPS ขับรถไปจากบริเวณท่าเตียน มุ่งสู่ถนนจักรพรรดิ์พงษ์ เลี้ยวเข้าวัดด้านข้างที่จอดรถจะอยู่ด้านข้างพระวิหาร แต่หากเพื่อนๆเดินทางด้วยรถไฟฟ้า สถานีที่ใกล้ที่สุดจะเป็นสถานีสามยอด แล้วต่อรถสาธารณะไปอีกทีนะครับข้อมูลวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร (ภูเขาทอง)พิกัด : วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร (ภูเขาทอง)ที่อยู่ : 344 ถนนจักรพรรดิพงษ์ แขวงบ้านบาตร เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพมหานคร 10100โทรศัพท์ : 0620195959เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/watsraket/เปรตวัดสุทัศน์วัดสุดท้ายของทริปนี้ คือ "วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร" ที่ตั้งอยู่บริเวณเสาชิงช้า ซึ่งเป็นอีกสถานที่สำคัญของกรุงเทพมหานคร เป็นหลักฐานแสดงถึงพิธีกรรมทางศาสนาพราหมณ์ ที่มีการโล้ชิงช้า ก่อนที่จะมีการยกเลิกไป "วัดสุทัศน์เทพวรารามราชวรมหาวิหาร" นั้นเป็นวัดเก่าตั้งแต่สมัยสร้างกรุงรัตนโกสินทร์ เป็นวัดที่สร้างในกรุงเทพมหานครชั้นในตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 1 ซึ่งภายในวัด มีพระพุทธรูปสำคัญ 3 องค์ ได้แก่ พระศรีศากยมุนี พระพุทธตรีโลกเชษฐ์ และ พระพุทธเสรฏฐมุนี"เปรตวัดสุทัศน์" สำหรับตำนานเปรตวัดสุทัศน์ที่คุ้นหู มีที่มาจากหลายๆเหตุการณ์ เริ่มมาจากมีผู้เล่ากันปากต่อปากว่า พบเห็นเปรตร่างกายสูงใหญ่ยามค่ำคืนบ่อยๆ สมเด็จพระสังฆราชแพ อดีตเจ้าอาวาสได้พูดกับเปรตว่า "อยู่ด้วยกันนะ อย่าให้ชาวบ้านได้เดือดร้อน" จากนั้นเปรตก็ไม่มาให้เห็นอีกเลย เป็นไปได้ว่าสมัยก่อนบริเวณวัดเต็มไปด้วยความมืด ด้านหน้าวัดมีเสาชิงช้าที่สูงตระหง่านอยู่ ผู้พบเห็นในเวลากลางคืนอาจจะเข้าใจผิดคิดว่าเป็นเปรต จากคำพูดปากต่อปาก กลายเป็นข่าวลือ และกลายเป็นเรื่องจริง จนมีคำพูดติดปากของคนสมัยนั้นว่า "เปรตวัดสุทัศน์" สำหรับอีกตำนานหนึ่งของเปรตวัดสุทัศน์ คือภาพวาดภายในพระวิหาร ที่เป็นรูปเปรตนอนอยู่ ซึ่งสมัยนั้นถือว่าภาพวาดนี้โด่งดังจนผู้คนบอกต่อกันว่า วัดสุทัศน์มีเปรต อย่างไรก็ตาม บริเวณวัดสุทัศน์ยังมีสถาปัตยกรรม ศิลปกรรม จิตรกรรม สมัยต้นๆกรุงรัตนโกสินทร์ที่สวยงามให้เพื่อนๆได้เที่ยวชมอีกมาก ซึ่งการเดินทางมาที่นี่ผมจะปักหมุดไว้นะครับ ข้อมูลวัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร พิกัด : วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหารที่อยู่ : 146 ถ. บำรุงเมือง แขวงวัดราชบพิตร เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200โทรศัพท์ : 026222819เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/WatSuthatBangkok/ สำหรับทริปนี้ ผมพาเที่ยวตามตำนาน ที่มาจากเรื่องที่เกิดขึ้นจริงทางประวัติศาสตร์ สมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ บางตำนานอาจมีการเติมเสริมแต่ง เล่าต่อกันมาตามยุคตามสมัย ชะนั้นผมจึงนำเสนอจากการเที่ยวและเก็บข้อมูลเล็กๆน้อยๆมาฝากเพื่อนๆ หากเพื่อนๆท่านใดมีอะไรเพิ่มเติมเสริมความรู้ให้ผมจะเป็นเรื่องที่ดีมาก ออกไปเที่ยวไทยกันเยอะๆแล้วเก็บภาพมาเล่าให้ผมฟังบ้างนะครับภาพ : JaturongT.ออกแบบตกแต่ง : Canvaทริปไหว้พระน่าสนใจในกรุงเทพฯ“วัดแจ้ง” ไหว้พระในกรุงรีวิวไหว้พระศักดิ์สิทธิ์ใกล้บ้าน ไหว้พระพุทธไสยาสน์ วัดโพธิ์ ใกล้รถไฟฟ้า เดินทางง่ายแชร์ที่เที่ยวใหม่ๆ ไม่ว่าจะเที่ยวสายไหนก็มาแวะแชร์กับทรูไอดีคอมมูนิตี้ “เที่ยวไปให้สุด”