รีเซต

ชวน "ล่องเรือไหว้พระ" ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เสริมสิริมงคลสงกรานต์นี้

ชวน "ล่องเรือไหว้พระ" ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เสริมสิริมงคลสงกรานต์นี้
ไทยรัฐ
16 เมษายน 2562 ( 11:30 )
3.8K
3

ในช่วง "เทศกาลสงกรานต์" หรือ "วันปีใหม่ไทย" แบบนี้ สาวๆคงกำลังมองหากิจกรรมเกี่ยวกับการไหว้พระทำบุญทำกุศลแน่นอน เนื่องจากการได้ทำบุญไหว้พระในช่วงปีใหม่แบบนี้จะเป็นการสร้างสิริมงคลให้กับตัวเอง 

คนส่วนใหญ่พอถึงเทศกาลขึ้นปีใหม่ทีไร ต้องนึกถึงการตระเวนเดินทางไปไหว้พระขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ สำหรับสาวๆ ที่ไม่ค่อยมีเวลาก็ไปวันเดียวแต่ไปหลายวัด ดังนั้น ไลฟ์สไตล์ไทยรัฐ จึงได้มีทริปล่องเรือไหว้พระริมแม่น้ำเจ้าพระยามาฝาก เนื่องจากครั้งนี้เราได้มีโอกาสเดินทางไปกับ "เนอวาน่า ไดอิ" ที่เพิ่งเปิดตัว "บันยันทรี เรสซิเดน ริเวอร์ไซด์" คอนโดมิเนียมหรูริมแม่น้ำเจ้าพระยา

เอาฤกษ์เอาชัยตั้งแต่ปีใหม่ไทยด้วยการล่องเรือสำราญตามแม่น้ำเจ้าพระยา พร้อมไหว้พระ ณ วัดชื่อดัง เพื่อความเป็นสิริมงคลรับปี 2562  

เราลงเรือกันที่ท่าเรือของคอนโดฯ บันยันทรี เรสซิเดน ริเวอร์ไซด์ เพื่อลงเรือสุดคลาสสิกจาก "แฮคเกอร์โบ๊ท" ที่มีลักษณะเป็นเรือคราฟสวยหรู เพื่อความดื่มด่ำในการชมทัศนียภาพของคุ้งน้ำเจ้าพระยา โดยมีอาจารย์นัท-จุลภัสสร พนมวัน ณ อยุธยา เป็นผู้บรรยายตลอดเส้นทาง 

เริ่มต้นด้วยการสักการะและชมความงามของ "วัดราชาธิวาสราชวรวิหาร" ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่อีกวัดหนึ่ง ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นวัดที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์พระพุทธศาสนาในประเทศไทย และเกี่ยวข้องกับพระมหากษัตริย์ไทยในราชวงศ์จักรีมาโดยตลอด มีสถานะเป็นพระอารามหลวงชั้นโทชนิดราชวรวิหาร

วัดนี้เป็นวัดที่สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาททรงสถาปนาจาก "วัดสมอราย" ได้รับการปฏิสังขรณ์ต่อเนื่องตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 1 ถึงรัชกาลที่ 3 จนถึงในสมัยรัชกาลที่ 4 ได้ทรงปฏิสังขรณ์ใหม่แล้วพระราชทานนามใหม่ว่า "วัดราชาธิวาสวิหาร" มีความหมายว่า "วัดอันเป็นที่ประทับของพระราชา" เป็นวัดแรกที่ถือกำเนิดคณะสงฆ์ธรรมยุติกนิกาย 

เพราะมีหลักรูปร่างคล้าย "สมอ" ปักอยู่รอบวัด จึงเป็นที่มาของชื่อ "วัดสมอราย"

พระอุโบสถของวัดเป็นทรงขอมคล้ายนครวัด ออกแบบโดยสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจิตรเจริญ กรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ มีห้องสามตอนคือ ห้องหน้าเป็นระเบียง ห้องกลางเป็นห้องพิธี มีพระสัมพุทธพรรณีเป็นพระประธาน มีนพปฎลมหาเศวตฉัตร (รัชกาลที่ 5 หล่อพระราชทาน) หลังพระประธานเป็นซุ้มคูหา มีภาพจิตรกรรมฝาผนังภายในแสดงเรื่องพระเวสสันดรชาดก สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ ทรงเป็นผู้ร่างภาพ และ ศ. ซี. ริโกลี (C. Rigoli) จิตรกรชาวอิตาเลียน เป็นผู้เขียนด้วยการใช้สีปูนเปียก (Fresco)

นอกจากนี้ยังมีศาลาการเปรียญตั้งอยู่หน้าวัด เป็นศาลาการเปรียญสร้างด้วยไม้สักทั้งหลัง โดย สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ ทรงให้สร้างเลียนแบบจากศาลาการเปรียญวัดใหญ่สุวรรณาราม จังหวัดเพชรบุรี ถือเป็นศาลาการเปรียญที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย

จากนั้นเราจึงได้กลับขึ้นเรือเพื่อเดินทางต่อไปยัง "วัดทองนพคุณ" ถึงแม้อากาศภายนอกจะดูร้อนอบอ้าว แต่แม่น้ำทั้ง 2 ฝั่งกลับทำให้เรารู้สึกสงบใจอย่างบอกไม่ถูก อีกทั้งยังมีอาจารย์นัท ที่คอยบรรยายถึงที่มาของโบราณสถานและที่ประดิษฐานพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ตลอดเส้นทางเดินเรือ

เรือแฮคเกอร์โบ๊ทจอดให้พวกเราลงที่ท่าเรือ "ล้ง 1919" เพื่อพักดื่มน้ำเย็นให้ชื่นใจคลายร้อน ก่อนจะเดินเท้าต่อไปยังวัดทองนพคุณซึ่งอยู่ไม่ไกลนัก และเมื่อคณะของพวกเราถึงวัด ท่านเจ้าอาวาสต้อนรับพวกเราด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ก่อนจะเล่าถึงประวัติความเป็นมาของวัดนี้ให้พวกเราฟัง

วัดทองนพคุณ สร้างขึ้นในสมัยอยุธยา ต่อมาพระยาโชฎึกราชเศรษฐี (ทองจีน) ได้เป็นผู้บูรณะซ่อมแซม และถวายให้เป็นพระอารามหลวงในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว และบูรณปฏิสังขรณ์ใหญ่อีกครั้งในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 4)

ส่วนสถาปัตยกรรม อุโบสถเป็นหลังคาลด 2 ชั้น หน้าบันสลักลวดลาย ด้านหน้ามีรูปเทพอุ้มผ้าไตร ด้านหลังมีพานรองบาตร หน้าต่างเป็นช่องกลม หน้านางด้านข้าง ข้างละ 4 ช่อง ลวดลายปิดทองประดับกระจก ส่วนพระวิหารหลังคาลด 2 ชั้น ไม่มีช่อฟ้า ใบระกา ถือปูนเกลี้ยง หน้าบันประดับกระเบื้องสีและถ้วย จาน ชาม อาคารก่ออิฐทรงไทยสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น ภายในประดิษฐานของพระพุทธรูปหลายร้อยองค์ มณฑป เป็นที่ประดิษฐานรอยพระพุทธบาทจำลองสร้างในรัชกาลที่ 4 พระเจดีย์องค์ใหญ่ย่อเหลี่ยมไม้สิบสอง

ต้องบอกว่าคณะของพวกเราโชคดีเป็นอย่างมาก เพราะท่านเจ้าอาวาสได้เปิดพระอุโบสถให้พวกเราได้เข้าไปชื่นชมศิลปกรรมภายในพระอุโบสถ (ปกติไม่เปิดให้คนทั่วไปเข้าชม) พระประธานในอุโบสถ เป็นพระพุทธรูปปั้น ปางมารวิชัย จิตรกรรมฝาผนังในพระอุโบสถ เป็นเรื่องมหาเวสสันดรชาดก เขียนโดยพระครูกสินสังวร ด้านหลังพระประธานมีภาพจิตรกรรมฝาผนังเป็นรูปพระวิสูตร หรือผ้าม่าน และมีเหล่าทวยเทพคลี่พระวิสูตรออกมาทั้งด้านซ้ายและขวา

สุดท้าย...พวกเราได้เดินกลับไปยังบันยันทรี เรสซิเดน ริเวอร์ไซด์ เพื่อนั่งพักให้หายเหนื่อยจากการเดินทาง จะสังเกตได้ว่าการที่คอนโดแห่งนี้ตั้งอยู่บนที่ดินฝั่งเมืองเก่าของแม่น้ำเจ้าพระยาทำให้เราได้เห็นบรรยากาศดี มีความร่มรื่นและโอ่โถง เนื่องจากคอนโดมิเนียมแห่งนี้เน้นเรื่องดีไซน์และนวัตกรรมการอยู่อาศัยระดับลักซ์ชัวรี่อย่างแท้จริง.

อ่านเรื่องราวอื่นๆ เกี่ยวกับ "สงกรานต์ 2562" ต่อได้ที่นี่:

พิธีสำคัญในวัน "สงกรานต์" ทำไมเราถึงต้อง "รดน้ำดำหัว" ผู้ใหญ่ 

วิธี "สรงน้ำพระ" ที่ถูกต้อง ต้อนรับ "สงกรานต์" แบบไทยๆ