อุบลราชธานี เป็นจังหวัดหนึ่งทางภาคอีสานที่ไปบ่อย อุบลเป็นเมืองใหญ่มาก เราไปมาหลายครั้งแล้วก็ยังเที่ยวไม่หมดเลย การเดินทางก็แสนสะดวก มีเครื่องบินบินตรงจาก กรุงเทพหลายสายการบิน เป็นสนามบินนานาชาติขนาดใหญ่ มีรถเช่าให้เลือกหลายบริษัท รวมทั้งของท้องถิ่น ที่พักก็มีให้เลือกหลากหลาย ห้างร้านที่ทันสมัยก็มีมากมาย เป็นจังหวัดขนาดใหญ่ที่มีความเจริญมาก แต่ธรรมชาติก็ยังสมบูรณ์และมีความหลากหลาย ยังคงไว้ซึ่งวัฒนธรรมที่น่าใจ มีชายแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างลาว สามารถข้ามไปเที่ยวลาวใต้แบบวันเดย์ทริปได้สะดวก (จะเล่าในตอนต่อไป) สำหรับเราแล้ว อุบลราชธานี เป็นจังหวัดที่ประทับใจมาก ยิ่งได้รู้ว่ามีงานต้องลงพื้นที่ที่นี่ จะแอบกรี๊ดเสมอ ทำเอามีปัญหาเรื่องน้ำหนักกับสายบินตลอดๆ ขนาดซื้อน้ำหนักเพิ่มแล้วนะ ก็ของดีของเด่นเค้าเยอะจริงๆ นะคุณณณ เอาเป็นทริปนี้ ขอพาเที่ยวชมธรรมชาติ กันก่อนแล้วกันนะคะ วันแรกเราเดินทางมาจากใต้ บินมาลงกรุงเทพแล้วต่อเครื่องมาลงสนามบินอุบลราชธานี ถึงอุบลดึกเลยค่ะ วันแรกเข้าเมืองโดยใช้บริการแท๊กซี่มิเตอร์ค่ะ บริการดีประทับใจสุภาพรถสะอาด แอบพาอ้อมนิ๊ดนุง เพราะเราแอบเปิดแมพตาม แต่ด้วยดึก ไม่อยากมีปัญหา เลยเลยตามเลยค่ะ กรี๊ดโดนซะแล้ว ถึงที่พักวันแรกก็พักค่ะ เดินทางมาจากใต้เหนื่อยหน่อย เพราะประชุมเสร็จก็วิ่งขึ้นเครื่องเลย งั้นวันแรกนอนเอาแรงก่อนเด้อ วันที่สอง เรานัดรถเช่าให้มาส่งรถที่ โรงแรมค่ะ วันแรกเราแพลนว่าไป อำเภอโขงเจียม เลยขอให้รถมาส่งให้เราแต่เช้าตรู่ น่ารักค่ะ 6 โมงเช้ารถพร้อม สะอาดใหม่ เมื่อได้รถเราก็แมพไปดูดอกไม้เลยค่ะ เราตั้งใจมาดูดอกไม้ป่าโดยเฉพาะ เพราะเราไปเห็นรีวิวคนรู้จักเค้ามาอุบล มาถ่ายภาพดอกไม้ป่าไป สวยมาก จึงไม่พลาดค่ะ จัดไปทริปนี้เน้นๆ ที่แรกเราแมพไป ทุ่งดอกไม้ ป่าดงนาทาม ช่วงเวลาที่เหมาะสมคือ เดือนตุลาคม - ธันวาคม เราไปช่วง กันยายนนะคะ กำลังเริ่มบานค่ะ หายเหนื่อยเลย เดินทางมาไกลข้ามน้ำข้ามทะเลมาเพื่อสิ่งนี้ อากาศค่อนข้างร้อนนะคะ แดดแรงมาก แต่มีลมพัดมาเย็นๆ อยู่ค่ะ ภาพถ่ายโดยนักเขียน เดินมาไกลพอสมควรนะคะ ประมาณ 200 - 300 เมตรจากจุดจอดรถค่ะ แต่มีป้าย เจ้าหน้าที่ และนักท่องเที่ยว ตลอดทางไม่ต้องกลัวหลงนะคะ ภาพถ่ายโดยนักเขียน ถ่ายยากมาก เพราะต้นเตี้ยค่ะ ภาพดูหลอนเชียว จุดที่สอง เราเดินทางไปน้ำตก น้ำตกแสงจันทร์ น้ำตกลงรู เป็นอันซีนไทยแลนด์นะคะ เดินไม่ไกลจากจุดจอดรถค่ะ มุมถ่ายภาพเพียบ สวยแปลกดีค่ะ น้ำเย็นมาก เราเล่นน้ำกันพักใหญ่ เลยค่ะ ชื่นใจสุดๆ ช่วยดับร้อนได้เป็นอย่างดีค่ะ ภาพถ่ายโดยนักเขียน จุดต่อไป สามพันโบก แกรนด์แคนยอนเมืองไทย เราหาร้านอาหารริมโขงแถวๆ นี้ทานกลางวันค่ะ อาหารอร่อยเลยทีเดียว เมนูที่พลาดไม่ได้ ก็เป็นอาหารจากปลาน้ำโขง เช่นปลาคัง สั่งต้มโคล้งไปชามใหญ่ฟาดเรียบ เตรียมเก็บแรงไปปีนป่าย สามพันโบก ต่อค่ะ ภาพถ่ายโดยนักเขียน ถ่ายจากร้านอาหารริมโขง โต๊ะที่เราทานอาหารเลยค่ะ แต่จำชื่อร้านไม่ได้ ไปครั้งหลังก็หาไม่เจอเสียดายจัง วิวดี อาหารอร่อยราคาแรงนิดแต่สมเหตุสมผลค่ะ เราเหมาเรือไปเที่ยวล่องไปแม่น้ำโขงไปตามจุดต่าง ๆ นะคะ ไม่แน่ใจราคาประมาณ 300 บาทถ้าจำไม่ผิด ภาพถ่ายโดยนักเขียน ภาพนี้เป็นน้ำตกฝั่งลาว พี่คนขับเรือบอกว่าเข้าใกล้สุดได้เท่านี้นะ สวยจัง แปลกดี เราจะเห็นชาวลาว เดินกลับจากทำไร่นา ด้วยนะคะ ยิ้มแย้ม ทักทายมายังเราด้วยค่ะ ภาพถ่ายโดยนักเขียน จุดไฮไลน์จริงๆ ของ สามพันโบก อยู่ที่เจ้าหินมิกกี้เมาส์นะคะ เราเดินตั้งนานค่ะ กว่าจะเจอ น่ารักคาวาอี้ แปลกจริงๆ แต่ถ้าไม่มีพี่ไกด์พามาเนี่ย เดินไม่ถูก หาไม่เจอเลยนะคะ ภาพถ่ายโดยนักเขียน ว่าแล้วก็โพสๆ บนนี้กันสักหน่อย แต่ที่เรารีเควส เป็นพิเศษ คือ หาดหงส์ค่ะ เพราะเพื่อนเราที่มาก่อนเรานั้น ถ่ายภาพไปลงอินสตราแกรม สวยมาก ยังกะทะเลทรายในดูไบ ใช่ค่ะ หาดหงส์ คือ เนินทรายแม่น้ำโขงที่เกิดจากการพัดพาของน้ำและนำตะกอนทรายมาทับถมกัน จนดูเหมือนทะเลทรายกว้างใหญ่มากค่ะ พี่คนขับเรือก็แสนจะงง กับเรานะคะ จอดให้ขึ้นเกาะแก่งต่างๆ ก็ไม่ลง ลงก็ลงรีบๆ แล้วขึ้น พอถึงหาดหงส์ เราใช้เวลาชั่วโมงกว่ากันเลยทีเดียวค่ะ เพื่อภาพสวยสำหรับเชคอินในอินสตราแกรม ภาพถ่ายโดยนักเขียน ภาพถ่ายโดยนักเขียน ยาวๆ ไป จนพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า แสงแรงมากเลย เตรียมผ้า เตรียมพร็อบมา สำหรับงานนี้เลยจ้า จบแล้วสำหรับทริปวันนี้ เดินทางกลับอำเภอเมืองอุบลด้วยความอิ่มเอมใจ เพราะได้รูปมาตรึม ว่าแล้วเราก็ตรงดิ่งไปตลาดโต้รุ่ง หาข้าวเปียกแซ่บๆ ร้อนๆ ทานให้สบายท้อง แล้วเข้านอน เก็บแรงไปต่อพรุ่งนี้ ติดตามต่อว่าพรุ่งนี้เราจะไปที่ไหนต่อ นะจ๊ะ