ภาพประกอบโดยผู้เขียน จุดเริ่มต้นของการขึ้นไปบนยอดบานาฮิลล์คือทุกคนต้องผ่านทางเข้าไปยังสถานีเคเบิ้ลคาร์แห่งนี้ก่อน ซึ่งทางเข้ากว้างขวางใหญ่โตสวยงามมากค่ะ ด้านในบริเวณชั้นสองมีการจัดสวนอย่างสวยงามเหมาะกับการพักผ่อนและถ่ายรูปมากค่ะ ตอนที่เราเดินหาจุดจำหน่ายตั๋วเคเบิ้ลคาร์นี่เราพูดเลยว่าซับซ้อนมากอ่ะ เดินหานานมาก ไกลมากด้วย คือพอผ่านซุ้มประตูด้านหน้าเข้ามา ก็ต้องขึ้นบันไดเลื่อนไปชั้น 2 เลี้ยวขวาแล้วเดินตรงไปตามป้าย หรือจะเดินไปทางสวนก็ได้จะไปสุดที่ทางเข้าบริเวณจำหน่ายตั๋วและจุดขึ้นเคเบิ้ลคาร์เหมือนกัน ภาพประกอบโดยผู้เขียน ภาพประกอบโดยผู้เขียน ในที่สุดเราก็เจอแล้วจุดจำหน่ายตั๋ว แค่เห็นกระเช้าก็ดีใจละ นึกในใจว่า ‘ชั้นต้องได้ขึ้นแน่ 5555 (หัวเราะแบบตัวร้าย)’ ภาพประกอบโดยผู้เขียน และเราก็เดินตาม ๆ เขาไป ตอนแรกเหมือนจะใกล้ถึงนะ แต่ยังไม่ถึง ต้องเดินขึ้นบันไดเลื่อนมาหลายชั้นมาก ขึ้นมาจนชั้นบนสุด ก็ซื้อตั๋วกับพนักงาน ราคาคนละ 650.000 (หกแสนห้าหมื่นดอง) ใช่แล้วค่ะ ขึ้นเคเบิ้ลคาร์ทีราคาครึ่งล้านเลยค่ะ แต่เป็นแสนกว่าดองที่คุ้มอยู่นะคะ เพราะตั๋วใบเดียวใช้นั่งแบบไป - กลับ เคเบิ้ลคาร์ที่มีความยาวมากติดอันดับโลก ใช้เวลาเดินทางเที่ยวเดียวประมาณเกือบ 30 นาทีได้ ภาพประกอบโดยผู้เขียน เรากับเพื่อนลงความเห็นว่าแค่มานั่ง ไป - กลับชมวิว นั่งผ่านเมฆ ผ่านหมอกก็คุ้มแล้วละค่ะ นอกจากนี้ยังสามารถเล่นเครื่องเล่นมากมายในปราสาทแฟนตาซีโดยไม่ต้องจ่ายเงินเพิ่มด้วยค่ะ ที่สำคัญจะเล่นกี่รอบก็ได้ ดี๊ดี ภาพประกอบโดยผู้เขียน ภาพประกอบโดยผู้เขียน เรากับเพื่อนนั่งกระเช้าขึ้นมากันแบบ Private มาก ๆ ไม่มีคนอื่นร่วมทางมาด้วย นี่พูดเลยว่าถ้ามากับแฟน บรรยากาศยามนี้จะเรียกว่า โคตรโรแมนติกเลย ยิ่งจังหวะที่กระเช้าเดินทางผ่านหมอกนะ คำเดียวเลย ฟิน > < ภาพประกอบโดยผู้เขียน ภาพประกอบโดยผู้เขียน พอมาถึงด้านบน ก็สัมผัสได้ถึงความหนาวเย็นที่ทวีคูณขึ้น นอกจากที่เราจะอยู่บนที่สูง แบบที่เขาเรียกว่า ‘ยิ่งสูง ยิ่งหนาว...’ แล้วนั้น เรายังมาอยู่บนยอดเขาหลังจากฝนเพิ่งหยุดตกด้วย มันก็ดีอยู่หรอกที่เราขึ้นมาแล้วไม่เปียกฝน แต่อากาศ ณ จุดนี้มันเย็นมากเลยค่ะ เนื่องจากด้านนอกยังมีความชื้นอยู่มาก พื้นเปียกด้วย เราเลยเลือกต้องท่องแดนแฟนตาซีในปราสาท Fantasy Park กันซะก่อน ภาพประกอบโดยผู้เขียน ด้านใน Fantasy Park มีหลายชั้นมากค่ะ ประมาณ 4 - 5 ชั้นได้มั้ง เครื่องเล่นด้านในที่น่าเล่นสุดก็น่าจะเป็นเจ้านี่แหละ คล้าย ๆ Giant drop ที่สวนสยามอยู่นะ ในเรื่องของหน้าตา แต่เมื่อได้ลองเล่นแล้ว จะพบว่า มีความละมุนละไม ฟรุ้งฟริ้งกว่า Giant drop เยอะเลยค่ะ ถ้าไป ลองไปเล่นดู เดี๋ยวรู้เอง อิอิ ส่วนเครื่องเล่นอื่น ๆ นั้น ถ้าใครยังจำฟิลลิ่งของสวนสนุกในห้างสรรพสินค้าได้ ก็อารมณ์นั้นละค่ะ ละมุนละไมน่ารักน่าเอ็นดู ภาพประกอบโดยผู้เขียน สำหรับสิ่งที่เราอยากเล่นที่สุดอย่าง Alpine Coaster วันนี้ก็ไม่เปิดให้บริการ เสียดายมากอ่ะ เราคาดว่าเพราะหลังฝนตกมีหมอกมาก ทัศนวิสัยไม่ดีเลยต้องหยุดให้บริการชั่วคราว เสียดายจัง ภาพประกอบโดยผู้เขียน สำหรับปราสาทบนยอดเขา Ba Na Hills แห่งนี้ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ครั้งที่เวียดนามอยู่ภายใต้การปกครองของฝรั่งเศส ที่นี่จึงถูกสร้างเป็นสถานที่พักผ่อน หรือเรียกง่าย ๆ ว่า บ้านพักตากอากาศของทหารฝรั่งเศสนั่นเอง ที่นี่จึงมีกลิ่นไอยุโรปมาเต็มมาก เอาเป็นว่าถ้าใครกำลังวางแผนจะมาที่นี่ก็เตรียม Costume มามโนว่าอยู่ฝรั่งเศสแสนโรแมนติกกันได้ตามสบายจ้า^-^ บานาฮิลล์ในม่านหมอก (ภาพประกอบโดยผู้เขียน) บานาฮิลล์ในม่านหมอก (ภาพประกอบโดยผู้เขียน) เราเดินเล่นถ่ายรูปกับมุมต่าง ๆ ของที่นี่อย่างเพลิดเพลินทีเดียว เพราะในเวลานี้ เรียกได้ว่าคนน้อยกำลังดีเลย สงสัยเค้าจะหนีฝนลงเขากันไปแล้ว ก็ดีนะ เก็บภาพสถานที่ได้ง่ายดี แต่อากาศก็ไม่เป็นใจหนัก การถ่ายภาพในวันหมอกมาก บรรยากาศก็จะดูหม่น ๆ หน่อย บานาฮิลล์ในม่านหมอก (ภาพประกอบโดยผู้เขียน) บานาฮิลล์ในม่านหมอก (ภาพประกอบโดยผู้เขียน) ช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน ต้นเดือนธันวาคมที่เราไป เป็นช่วงที่เวียดนามจะมืดเร็วมากค่ะ มืดกันตั้งแต่ 17.15 น. เลยทีเดียว ข้อเสียคือได้เที่ยวน้อย ข้อดีคือได้นอนเยอะ 555 ภาพประกอบโดยผู้เขียน ภาพประกอบโดยผู้เขียน เราลงจากเขาก่อนที่ฟ้าจะมืด ขาลงนี่หมอกจางเห็นทางข้างล่างชัดเจน ความตื่นเต้นในความสูง และระยะทางอันยาวมากของกระเช้าก็ลดน้อยลง อาจเพราะเคยนั่งมาครั้งหนึ่งแล้ว เราอยากแนะนำว่าถ้าใครมาเยือนดานังต้องมาที่นี่ให้ได้นะคะ ไฮไลท์เลยนะ