จากเกาะช้าง เกาะล้าน เกาะเสม็ด หรือเกาะต่างๆ ที่เราต่างคุ้นหูกันดี แต่อยากถามว่ารู้จัก "เกาะเทโพ" กันบ้างไหม บางคนอาจจะงงว่าเกาะนี้คืออะไร อยู่ที่ไหน แล้วมีอะไรน่าสนใจ มีแน่ขอบอก ยิ่งคนที่ชอบปั่นจักรยานด้วยแล้วยิ่งต้องมาทำความรู้จักเกาะนี้โดยด่วน เกาะเทโพ ตั้งอยู่กลางแม่น้ำสะแกกรัง จ.อุทัยธานี มีลักษณะเป็นที่ราบลุ่ม มีน้ำท่วมขังทั้งตำบล ในอดีตเกาะนี้มีลักษณะเป็นอ่าว แม่น้ำมีปลาชุกชุมมาก โดยเฉพาะปลาเทโพ จึงได้รับการเรียกขานกันว่า “ตำบลเกาะเทโพ” ต.เกาะเทโพ แยกมาจาก จ.ชัยนาท เมื่อปี พ.ศ.2480 ราษฎรส่วนใหญ่อพยพมาจากชัยนาท นครสวรรค์ และที่อื่นๆ เกาะเทโพ เดิมเป็นแหลมยื่นออกมาคั่นระหว่างแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำสะแกกรัง แม่น้ำทั้งสองสายมาบรรจบกันทางทิศใต้ของแหลม และภายหลังได้มีการขุดคลองเชื่อมทางเหนือ เพื่อให้แม่น้ำเจ้าพระยามาหนุนแม่น้ำสะแกกรังในยามหน้าแล้ง แหลมนี้จึงกลายเป็นเกาะเทโพมาจนทุกวันนี้ ที่เกาะเทโพเป็นเกาะที่นักปั่นจักรยานให้ความสนใจเป็นอย่างมาก การเข้ามายังเกาะเทโพเราสามารถใช้สะพานเดินข้ามมา ชาวบ้านเรียกว่า “สะพานวัดโบสถ์” เป็นสะพานที่เชื่อมต่อระหว่างตลาดสดเทศบาลและวัดอุโปสถาราม ซึ่งเป็นเพียงสะพานเล็กๆ ที่คนกับมอเตอร์ไซค์ผ่านสวนทางกันได้เท่านั้น แต่ถ้าจะเดินทางด้วยรถยนต์ ต้องไปอีกทางนึง คือจากบริเวณวงเวียนวิทยุ (ใกล้ตลาดสด) ให้ไปตามถนนศรีอุทัย ขับไปประมาณ 3 กม. ผ่านสถานีตำรวจมาเล็กน้อย ให้เลี้ยวซ้ายขึ้นสะพานพัฒนาภาคเหนือเพื่อข้ามไปยังเกาะเทโพ เมื่อเราข้ามสะพานมาได้แล้ว นั่นคือ.. การเริ่มต้นการเดินทางบนเกาะสวรรค์แห่งนี้ สองข้างทางบนเกาะนี้เป็นป่าไผ่ มีการทำไร่ข้าวโพด ปลูกมะไฟ และทำนา นอกจากนี้ชาวบ้านยังทำสวนส้มโออีกด้วย มีทั้งพันธุ์มโนรมย์และขาวแตงกวา บางจุดบนเกาะเป็นแหล่งรวมสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ มากมายไปด้วยของดีประจำจังหวัด ไม่ว่าจะเป็นอาหารแปรรูปจากปลา กลุ่มทำมีดจากเหล็กกล้า กลุ่มจักสานไม้ไผ่ กลุ่มธูปหอม เป็นต้น สำหรับนักปั่นทั้งหลาย ถ้าปั่นจนครบรอบเส้นทางจักรยานที่กำหนดไว้ รวมระยะทางปั่นบนเกาะนี้จะอยุ่ที่ 33 กม. นอกจากปั่นจักรยาน เรายังเที่ยวอะไรได้อีกบ้าง เมื่อเดินข้ามสะพานวัดโบสถ์จากตัวเมืองอุทัยเข้ามายังเกาะเทโพแล้ว สิ่งแรกที่มองเห็นแต่ไกลคือวัดโบสถ์ หรือ วัดอุโปสถาราม ซึ่งเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวสะแกกรัง เดิมทีวัดนี้มีชื่อว่าวัดโบสถ์มโนรมย์ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำสะแกกรัง ตรงข้ามกับตลาดเทศบาลเมืองอุทัยธานี ต.สะแกกรัง อ.เมือง จ.อุทัยธานี วัดอุโปสถาราม สร้างขึ้นประมาณ พ.ศ. ๒๓๒๔ วางแผนผังเป็นฐานไพทียกสูง ก่ออิฐถือปูนบนฐานตั้งพระอุโบสถขนานเสมอกับพระวิหาร หันหน้าไปทางทิศตะวันออก และเจดีย์ ๓ องค์ หลากรูปแบบ สร้างเรียงไว้ทางทิศตะวันตก ด้านริมแม่น้ำ เป็นแบบอย่างของการสร้างวัดในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย รัตนโกสินทร์ตอนต้น จากวัดไปคาเฟ่กันบ้าง บนเกาะเทโพแห่งนี้ยังมีคาเฟ่หรือร้านกาแฟน่านั่งซึ่งอยู่ห่างจากวัดโบสถ์ไปประมาณ 4 โลกว่า เรียกว่าปั่นจักรยานไปไกลพอสมควร ปั่นจักรยานผ่านสวนน้ำเฉลิมพระเกียรติ แล้วปั่นยาวไปอีกโลนึง The Sun House Coffee ไร่สุดท้าย คือเป้าหมายที่ว่านั้น ไร่สุดท้าย เป็นร้านกาแฟที่ตั้งอยู่บนเกาะเทโพ อ.เมืองอุทัยฯ บรรยากาศดีตรงที่ติดริมท้องนา จุดขายของที่นี่อยู่ตรงที่มีสวนมัลเบอรี่เป็นซุ้มอุโมงค์ เมื่อคุณเดินไปในดงมัลเบอรี่คุณจะได้เห็นผลมัลเบอรี่อยู่มากมาย สามารถเด็ดกินได้สดๆ เลย ร้านเปิดบริการทุกวัน 8:00 - 16:00 น. แต่อาจเลทไปถึง 17:00 น. แล้วแต่สถานการณ์ สำหรับที่พักบนเกาะเทโพก็มีให้เลือกอยู่หลายแห่ง แต่มาถิ่นสะแกกรังทั้งทีมันต้องพักเรือนแพถึงจะได้บรรยากาศ แนะนำที่ "บ้านอิงน้ำรีสอร์ท" ที่นี่มีเรือนแพถึงสองหลัง หลังซ้ายเป็นแพร้อยปี ส่วนหลังขวาเป็นแพ 50 ปี ราคาอยู่ที่หลังจะพันเดียวในวันอาทิตย์ถึงพฤหัส แต่ถ้าใครนอนศุกร์เสาร์ ราคาจะอยู่ที่ 1200 ซึ่งราคาก็ยังดีต่อใจมากๆ แม้จะเป็นเรือนแพแต่ก็มีแอร์เย็นๆ นะคะคุณ และยังมีทีวี ตู้เย็น พัดลม ไดเป่าผม รวมถึงห้องน้ำในตัวอีกด้วย เรียกว่าครบครันในเรื่องความสะดวก แพหลังนึงนอนได้สองคนกำลังสวย การมานั่งรับลมชมวิวตรงนอกชาน แล้วทำใจให้ว่างเปล่า เป็นช่วงเวลาที่ร่างกายและจิตใจของเราได้พักผ่อนเต็มที่ ถือว่าเป็นทริปที่ slow life ที่ดีที่สุด เหมาะสำหรับคนที่ชอบเที่ยวแบบมาพักผ่อนจริงๆ อยู่กับธรรมชาติ สายน้ำ ทุ่งหญ้าป่าเขา ไม่ใช่แค่ได้กินของอร่อยแต่เรายังมีพื้นที่ในการออกกำลังกาย สำหรับสายปั่น เกาะเทโพแห่งนี้นับว่าเป็นเกาะสวรรค์ที่นักปั่นปรารถนา เพราะถนนหนทางไม่มีรถใหญ่เลย มีแค่รถจักรยานยนต์ แต่การปั่นบนเกาะนี้พึงระวังในเรื่องของสุนัขท้องถิ่นที่มักชอบวิ่งไล่นักท่องเที่ยวที่กำลังปั่นจักรยานอยู่เสมอ มันจะไม่ slow life ก็ตรงจุดนี้นี่แหละ ^ ^! ภาพทุกภาพในรีวิวนี้ ถ่ายโดย เอ๋จัง ลากแตะ