สวัสดีค่ะ เพื่อนๆคนไหนที่กำลังอยู่ในช่วงของการเริ่มต้นใช้ชีวิตวัยทำงาน อาจจะเพิ่งได้รับเงินเดือนก้อนแรกหรือก้อนสุดท้ายของงานแรก และกำลังมีแพลนไปเที่ยวต่างประเทศวันนี้จะขอแนะนำประเทศที่เหมาะกับการเดินทางด้วยตัวเอง มีแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตสุดไอคอนิค พร้อมกับระบบคมนาคมที่สะดวกสบายที่สุด "ไต้หวัน" นั่นเองเราเลยจะมาแบ่งปันประสบการณ์ที่ได้จากการไปเที่ยว 3 วัน 2 คืน ครั้งแรก พร้อมทั้งแจกแพลน ค่าใช้จ่าย วิธีการเดินทาง และข้อมูลเล็กๆน้อยๆ เริ่ม! แพ็คกระเป๋าแล้วออกเดินทางสู่ไต้หวัน... เกาะเล็กๆที่รอต้อนรับการเติบโตครั้งยิ่งใหญ่ อยากเที่ยวไต้หวันควรเตรียมเงินไปเท่าไหร่ดีนะ...?ถ้าเพื่อนๆคนไหนคิดไม่ออก สามารถอ้างอิงจากค่าใช้จ่ายของเราได้เลย Budget ที่ตั้งไว้ = 22,280 THB ---> ค่าใช้จ่ายจริง = 16,763.50 THB แลกเงินไป (1 TWD = 1.125 THB) = 8,900 TWD (10,013 THB)- Super Rich สีเขียว สาขา Central Rama 2 แนะนำให้แชทไปจองแบงก์ย่อยล่วงหน้าค่าตั๋วเครื่องบิน China Airlines (ไป-กลับ) = 8,635 THB- อาหาร 1 มื้อ + สัมภาระ Carry On 7 KG และโหลดใต้เครื่อง 23 KGประกันการเดินทาง (7 วัน) = 415 THB ค่าที่พัก Midtown Richardson Hotel (2 คืน) = 3,217 THB- ห้องพักไม่มีหน้าต่าง (1 เตียงใหญ่)ค่ารถไป-กลับสนามบิน BKK = 600 THBค่าเดินทาง + ค่ากิน + ค่าของฝาก = 3,896.50 THB มาดูข้อมูลเล็กๆน้อยๆสำหรับการไปไต้หวันครั้งแรกกัน!China Airlines- เราจองตั๋วแบบแพ็คเกจ (เครื่องบิน + โรงแรม) ผ่าน Trip.com ได้ราคากลางๆ ถ้าเทียบกับการจองแยกกัน ก็พบว่ากแบบหลังถูกกว่า(ถึงจะไม่มาก)- ขาไปเรานั่ง CI838 เครื่องบินใหม่มาก สะอาด แอร์เย็นฉ่ำๆ ก่อนขึ้นเครื่องเขาจะแจกหูฟังให้เอาไว้ใช้ดูหนัง เล่นเกม คือมีให้เลือกเยอะมาก ไม่ต้องกลัวอ่อมระหว่างบินเกือบ 4 ชม.- ต้องบอกก่อนว่าเราทำ Online Check-In ไม่ได้ พอโทรไปเช็คกับสายการบิน เจ้าหน้าที่บอกว่าข้อมูลยังไม่เข้าระบบ ก็ค่อนข้างงง แต่ทางนั้นคอนเฟิร์มว่าตั๋วถูก Booking เรียบร้อย เราเลยแก้ปัญหาด้วยการไปสนามบินให้เร็วกว่าเดิม สรุปคือ Trip./com จองที่ไว้ให้แล้ว เป็นที่นั่งหลัง Business Class โดยบนเก้าอี้จะมีป้ายเขียนว่า Reserved Seat แขวนไว้ และด้วยความเป็นที่นั่งแรกของ Economy Class พื้นที่เลยกว้างมาก ไม่ต้องกลัวขาไปกระแทกกับเบาะหน้า เริ่ดเกิน- แอร์โฮสเตสกับสจ๊วตน่ารักจริงๆ ส่วนกัปตันเสียงหล่อมากกก การบริการประทับใจสุดๆ ลูกเรือจะเดินมายิ้มให้เรื่อยๆ เราไม่แน่ใจว่าเขามีแผนผังในมือที่บอกว่าผู้โดยสารคนไหนมาจากประเทศอะไรไหม เพราะเขาใช้ภาษากับแต่ละคนได้ถูกต้องมาก ซึ่งไฟล์ทนี้ไม่มีลูกเรือคนไทย โดยเขาจะใช้ภาษาอังกฤษกับเราแทน- อาหารอร่อยเกินคาด ของเรามีให้เลือกระหว่างข้าวสตูลเนื้อกับข้าวสตูลไก่ โดยมาพร้อมกับขนมปังแยม เค้ก และผลไม้ ครบ 5 หมู่เลย แถมลูกเรือใส่ใจสุดๆ เขาจะปลุกจนกว่าเราจะตื่นมากินข้าว ซึ่งไฟล์ทนี้คือตี 3 ตาไม่ไหวแล้ว แต่ก็เออเอา สู้ๆ 555- ขากลับเรานั่ง CI837 (เราไปทำ In-Town Check-In ในเช้าวันที่กลับและได้ที่นั่งแถวที่ 2 ของ Economy Class) ส่วนตัวคิดว่าเครื่องบินค่อนข้างเก่า แถมแอร์ร้อน ยิ่งขากลับคนเยอะ อาจจะนอยนิดหน่อย แต่ลูกเรือยังคงน่ารักและบริการดีเช่นเคย ซึ่งน่าจะเป็นทีมเดิมกับ CI838 แต่ว่ารอบนี้มีคนไทยด้วย ส่วนอาหารมีให้เลือกระหว่างข้าวไก่ทอดกับข้าวปลาทอด ใช่แล้ว โดนปลุกเหมือนเดิม เพราะบินไฟล์ทเกือบเที่ยงคืน สู้ๆ 555การผ่านตม.- สำหรับเราไม่ยากเลย ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ชิลมาก ถึงเจ้าหน้าที่ทุกคนในโซนตรวจคนเข้าเมืองจะหน้านิ่ง แต่เขาก็คอยใช้ภาษามือบอกว่าควรทำอะไร ถ้าทำผิดเขาก็บอกใหม่Easy Card- เราซื้อใน 7-11 ที่สนามบิน ตอนแรกหาไม่เจอ แต่ถามทางกับอาสาสมัครเอา ร้านจะอยู่ชั้นล่างข้างๆที่ขึ้นรถบัสเข้าเมือง พอซื้อแล้วก็เติมเงินที่แคชเชียร์ได้เลย ขอแค่อย่าซื้อผิดระหว่าง Easy Card กับ IPSS เพราะแขวนไว้รวมๆกันSim Card- เราซื้อของค่าย Chunghwa Telecom โดยตอนออกมาจากที่รับกระเป๋าให้เดินตามป้าย Telecommunication Service โซนจะอยู่ตรงข้ามกับซุ้ม Lucky Draw พอไปถึงชี้ว่าเอากี่วันแล้วเจ้าหน้าที่จะขอโทรศัพท์ไปเปลี่ยนให้ (ระวังโดนนินๆ ถ้าเขาแสดงออกไม่ดี ให้มองหน้าไปจนกว่าเขาจะหยุด แค่นั้นเอง)- ตอนขากลับสามารถเดินเข้าศูนย์ที่อยู่ระหว่างทางไป Gate เพื่อขอให้เจ้าหน้าที่เปลี่ยนกลับคืนได้เลย (ขอเก็บ Sim ไว้ก็ได้นะ) ไม่อยากจะบอกว่าเจ้าหน้าที่เขาตื่นเต้นมากที่มีคนเข้าไปใช้บริการ 555- ส่วนตัวแนะนำให้ซื้อ Sim ของไต้หวัน เพราะเน็ต 4G Unlimited แรงมากกก ไม่ว่าจะขึ้นเขา ลงทะเล ฝนตก ก็ไม่มีสะดุดสักนิด เว่อร์เกิน- เราคิดว่าควรมาเลอืกเองที่สนามบินดีกว่า เพราะราคาพอๆกันกับ Klook / KkdayLucky Draw- เพื่อนเราสุ่มได้ IPASS มา 1 อัน (ตอนไปไม่มี Easy Card แล้ว แต่ IPASS ก็ไม่ได้ด้อยกว่าเลย) เอามาแชร์กันใช้ ช่วยประหยัดค่าเดินทาง ค่าขนมในร้านสะดวกซื้อ และค่าของฝากได้เยอะมากกกภาษา- ที่นี่ใช้ภาษาจีนเป็นหลัก แต่มีป้ายบอกทางภาษาอังกฤษชัดเจน (หลายๆอย่างมีภาษาไทยด้วยซ้ำ) ไม่ต้องกลัวหลงเลย ถึงเราจะสื่อสารไม่ได้ แต่คนไต้หวันใจดีมากๆ เขาจะใช้ภาษากายแทน คอยช่วยเหลือนักท่องเที่ยวเต็มที่ แล้วคนไทยในไต้หวันเยอะมาก ยังไงก็รอดอาหาร- สำหรับเราไม่ค่อยปลื้มเท่าไหร่ ทุกอย่างออกแนวมีรสเดียวแล้วไปสุดเลย แต่ๆๆๆเต้าหู้เหม็นอร่อยมากกกกกกกกการเดินทางระหว่างไทเปและสนามบินนานาชาติเถาหยวน- ขาไป : นั่ง Taoyuan Airport Line ไป A1 Taipei MST (สีม่วง) ต่อ MRT จาก Beimen St [G13] ลง Ximen St [G12]- ขากลับ : นั่ง MRT จาก Ximen St [BL11] ไป Taipei MST [BL12] หา A1 Taipei MSTอยากให้เผื่อเวลาในการกลับไปสนามบินดีๆ เพราะอะไรก็เกิดขึ้นได้ แอบกระซิบว่า Mos ฺ Burger ที่อยู่ก่อนเข้าตม.ขาออกอร่อยและบริการดีมากกก น่ารักตั้งแต่พนักงาน ป้าแม่บ้าน ยันลุงช่างซ่อมไฟ เรานึกว่าลืม Passport ไว้ เลยขอความช่วยเหลือตอนเขาปิดร้าน ซึ่งก็ได้รับความร่วมมืออย่างเต็มที่ สรุปอยู่ในกระเป๋าเสื้อหนาวตัวเอง...การเดินทางในไต้หวัน- Easy Card ใบเดียวไปไหนก็ได้ของจริง ระบบนี้ดีมาก เงินในบัตรหมดก็เติมที่ตู้สถานีหรือร้านสะดวกซื้อเอา- MRT เป็นการเดินทางที่ดีที่สุด เร็ว ตรงเวลา ป้ายชัดเจน เส้นทางไม่งง คนไม่เบียดเป็นปลากระป๋อง ถ้าขึ้นของบ้านเราได้ บ้านเขาคือหลับตาเดินเลย- รกบัสข้ามเมือง เป็นการเดินทางที่หวาดเสียว เพราะไต่เขาเยอะมาก ตรงเวลาสุดๆ ถึงจะมีผู้โดยสารไม่เกิน 5 คน แต่หมดรอบก็จะปิดประตูทันที กริ่งมีให้ทุกที่นั่ง (เป็นเสียง 7-11 บ้านเรา 555) และเสียงประกาศป้ายสถานีชัดเจน- รถบัสทั่วไป มาตรงตามจอบอกเวลาที่ป้ายรถเมล์เป๊ะๆ ส่วนที่เลื่องลือว่าคนขับรถซิ่งไม่ไหว อยากแก้ตัวให้ลุงๆว่าเขาขับเร็วก็จริง แต่ปลอดภัยนะ เรียกขับไม่ดีแบบบ้านเราไม่ได้ บอกเลยคนไทยไปขึ้นยังไงก็รอด 555 Day 1 เริ่มต้นเส้นทางหลากสีสันด้วยท้องฟ้าอันสดใสแพลนที่วางไว้ : Zhongshan Linear Park --- Beitou Hot Spring --- Taipei 101 --- Shilin Night Marketสิ่งที่ได้ : Zhongshan Linear Park --- Taipei 101 --- Beitou Hot Spring --- Ximending Night Marketวันแรกถูกวางให้เป็นวันที่เดินทางง่ายๆ ด้วย MRT ทั้งหมด แถมอากาศทั้งวันแจ่มใสไม่ไหว เป็นใจเกิน จนห่วงวันที่เหลือเลย 555Zhongshan Linear Parkเราไปถึงตอน 11.00 น. ปรากฏว่าร้านยังไม่เปิด (เคยมีคนบอกว่าคนไต้หวันตื่นสาย 555) พอลองถามดู เขาบอกว่าเปิดช่วงบ่าย แต่วันที่ไปมี Event รองเท้าแบรนด์ดังและเซเลบคนดังมาร่วมงาน เลยได้ไปแจมนิดหน่อย 555 จากนั้นก็เดินเล่นเอา ฟีลไปเรื่อยๆเราขอแนะนำคนที่อยากถ่ายรูปสวยๆให้มาที่นี่แหละ รถ บ้าน เหมือนหลุดออกมาจากซีรีส์ไต้หวันยุค 2000s ตัดกับถนนตรงกลางที่สร้างแบบ Modern เอาเป็นว่าเก ร๋เกินวิธีการเดินทาง : นั่ง MRT จาก Ximen St [G12] ลง Zhongshan St [G14] Exit 4 เดินชิลๆไปยัน Shuanglian St [R12]Taipei 101ขอสลับตารางกับ Beitou Hot Spring เพราะที่นี่ใกล้กว่า (ตอนแรกจะไปบ่อน้ำพุร้อนช่วงเที่ยงๆ เพราะน่าจะได้ฟีลมากกว่า แต่แผนมีไว้แก้เสมอ) เรามาถึงก็เดินหาร้านดัง ปรากฎว่าทัวร์ลงหนักมาก เลยเอา IPASS ไปซื้อของใน Family Mart มานั่งกินที่ Si Si Nan Village ก็เริ่ดไปอีกแบบ เห็นวิว Taipei 101 ชัดเจน โดยละแวกนั้นจะเป็นตึกสูงกับห้างซะส่วนใหญ่ แต่โชคดีที่อากาศเป็นใจ แสงแดดกับองค์ประกอบทั้งหมดเข้ากันสุดๆวิธีการเดินทาง : นั่ง MRT จาก Zhongshan St [G14] ไป Taipei 101 St [R03]Beitou Hot Springเราอยากมาที่นี่มากกก ส่วนตัวคิดว่ามันเป็นสถานที่เที่ยวจริงๆไม่ใช่แค่ Land Mark พอไปถึงบอกได้คำเดียวว่านี่แหละๆๆๆ อยากให้ทุกคนมาจริงๆนะ เพราะเกินคำว่าสวยไปมาก (แต่ทำใจกับ MRT สายสีชมพูอ่อน Xinbeitou นิดนึง น้องจะไปแบบกระดึ๊บๆ) อากงอาม่าที่นี่น่ารักสุดๆ เห็นใครยกกล้อง เขาก็จะเดินมาถามว่ามาจากไหน พอบอกมาจากไทย เขาก็ยินดีมากๆ ร้องว้าวๆๆ และถามว่าให้ช่วยถ่ายรูปมั้ย เขาก็จะถ่ายให้จนกว่ารูปจะสวยถูกใจ(เขา) 555 แต่ที่นี่ต้องเตรียมใจไว้ว่าได้เดินฉ่ำแน่ เพราะมีจุดให้เที่ยวทุกก้าวเลยเพื่อนเราประทับใจบ่อน้ำพุร้อนสีเขียวที่ Thermal Valley มาก ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในสำนักกำลังภายใน 555 (แต่อย่าเดินไปใกล้และสูดดมนาน เพราะบ่อน้ำร้อนมี Sulfur และแก๊สต่างๆเป็นส่วนประกอบ)วิธีการเดินทาง : นั่ง MRT จาก Taipei 101 St [R03] ลง Beitou St [R22] ต่อ Xinbeitou St [R22A]Ximending Night Marketเราเปลี่ยนไป Ximending Night Market แทน เพราะดูแล้วของกินเหมือนกัน และกลัวว่าพรุ่งนี้จะกลับจาก Jiufen ไม่ทัน วันที่เราไปคนไม่เยอะ ร้านก็ไม่ค่อยเปิดกัน เป็นการเดินตลาดนัดกลางคืนที่เหงามาก แต่ไม่เป็นไร อย่างน้อยก็มีลาบูบู้ตรง Pop Mart คอยอยู่เป็นเพื่อนเสมอ 555วิธีการเดินทาง : นั่ง MRT จาก Beitou St [R22] ลง NTU St [R09] เดินลัด 288 Park Day 2 ตะลุยข้ามเมืองด้วยรถบัสสุดซิ่งและตรงดิ่งสู่หมู่บ้าน Spirited Awayแพลนที่วางไว้ : Yehliu Geopark --- Zhengbin Port Color Houses --- Heping Island Park --- Houtong Cat Village --- Jiufen Old Street --- Ximending Night Marketสิ่งที่ได้ : Yehliu Geopark --- Zhengbin Port Color Houses --- Jiufen Old Street --- Ximending Night Marketและก็ใช่จริง ถ้าวันแรกมันเริ่ด วันต่อมาจะ 555 วันนี้อากาศครึ้มๆ แดดไม่ค่อยมี ฝนตกเปาะแปะ แต่เดินทางไกลด้วยรถบัสทั้งหมด โชคดีที่การคมนาคมบ้านเขาถูกจัดวางมาอย่างว้าว เลยเหมาะกับการท่องเที่ยวมากๆ ทำให้ได้ไปเกือบครบYehliu Geoparkบอกเลยว่าโคตรตื่นเต้นกับที่นี่ เพราะอยากเห็นฟอสซิลมากกกกกกก แต่พอไปถึงสถานที่จริงก็ขอไม่พูดอะไรเยอะ ถ้าย้อนเวลาได้จะไปที่อื่นแทน ทุกอย่างผิดจากที่คาดไว้ หินมีอยู่กระจุกๆเดียว อันไม่ใหญ่ แถมเจอทัวร์ประมาณ 10 เจ้า ยิ่งไปกว่านั้นคือเราถามเพื่อนว่าฟอสซิลอยู่ไหน? สรุปเหยียบอยู่ใต้ teen ร้องไห้ แต่อย่างไรก็อยากให้ไปดูด้วยตาตัวเอง เพราะคนเรามีความคิดไม่เหมือนกันวิธีการเดินทาง : นั่ง MRT จาก Ximen St [BL11] ไป Taipei MST [BL12] ขึ้น Bus 1815(A) ที่ Kuo-kuang Bus Terminal (Taipei MST Exit M2) ลงป้าย Yehliu เดินตามทางสีเขียวจนเจอป้ายอุทยานZhengbin Port Color Housesสถานที่จริงเป็นแบบในรูปเลย น้ำสีเขียวเข้มสวยๆ บ้านสีสันสดใสไม่จืดแดด ขนาดไปวันที่แสงไม่สวยยังถ่ายออกมาให้ดูดีได้ ที่นี่เหมือนเป็นแหล่งรวมคนไทย ไปไหนก็เจอคนไทย ขนาดข้ามถนนไปอีกฝั่งยังเจอร้านขายชาไทย แต่อาหารตรงฝั่งบ้านสีๆค่อนข้างแพง เราเลยเดินไปกินอาหารทะเลที่ Heping Dao 35 Huo Seafood Restaurant (เดินเข้าให้ถูกรร้านนะ) ซาซิมิสดเกินบรรยาย ปลาน่าจะเพิ่งสละชีวิตเมื่อกี้ แถมให้เยอะจนกินแล้วเลิกอยากปลาดิบได้ไปเป็นเดือนๆ 555วิธีการเดินทาง : นั่ง Bus 1815(A) ลงป้าย Chang Gung Memorial Hospital ต่อ Bus 101 ลงป้าย Zhongzheng Rd. Zhengbin Rd. IntersectionJiufen Old Streetประทับใจความสวย แถมสงบมาก โคมไฟสีแดงช่วยสร้างบรรยากาศได้เยอะ แถมตอนไปอากาศเย็นๆกำลังดี จะบอกว่ารถบัสขาไปไต่ขึ้นเขาสนุกไม่ไหว นักท่องเที่ยวกรีดร้องกันสุดเสียง แต่ลุงคนขับก็ไม่มีความปรานีทั้งนั้น 555 วันที่ไปร้านเปิดไม่ครบ มีโซนเหงาๆบ้าง ใครเป็นแฟนการ์ตูน Ghibli ไม่ควรพลาดโซนโรงน้ำชาที่เป็นมุมซิกเนเจอร์คนเยอะไม่ไหว เลยลองเดินไปมุมข้างๆก็สวยไม่แพ้กันนะ เราขอแนะนำให้ไปที่ทางเดินข้างหลังตลาดที่เป็นทางลงเขา เพราะ Vibe ดีสุดๆวิธีการเดินทาง : นั่ง Bus 791 ลงป้าย Resident Square ต่อ Bus 1062 ลงป้าย Jiufen Old StreetXimending Night Marketวันนี้พ่อลง ร้านรถเข็นกระจุยยิ่งกว่าคดีเด็ด เพื่อนเราซื้อเต้าหู้เหม็นยังไม่ทันได้เหม็น ร้านหายไปกับตา 555 เราเลยไปเดินหาของฝากก็เจอเข้ากับร้านที่รับ IPASS (จุกๆเลยงานนี้) ใครอยากซื้อขนมแนะนำมากๆ เราจำชื่อร้านไม่ได้ แต่อยู่แถวโซน ABCD เอกลักษณ์คือเจ้าของเป็นคุณป้าและพี่สาวคนสวยที่คอยเอาขนมมาให้ลูกค้าชิมตลอดการเลือกซื้อ 555 เราช่วยคุณป้าเจ้าของร้านแพ็คของ เขาก็ใจดีแถมขนมมาให้ห่อใหญ่ เริ่ดเกิน แถมฝากของได้ด้วยนะ ใช่แล้ว ซิกเนเจอร์ของคนไทยคือการฝากของ เลยไม่แปลกที่จะเจอแต่ตัวอักษรไทยบนถุง 555วิธีการเดินทาง : นั่ง Bus 965 ยาวๆมาลงป้าย Ximen St (มีแท็กซี่ด้วยนะ แต่แพงกว่าเท่าตัว ถ้ารอ Bus ได้ก็ดีกว่า)เราไม่ได้ไป Heping Island Park กับ Houtong Cat Village เพราะไม่ทันเวลาที่วางไว้ แถมรถบัสไม่มี และแต่ละที่ใช้เวลาเดินทางค่อนชั่วโมง เสียดายมากจริงๆ วันหลังต้องทำการบ้านให้ดีกว่านี้ซะแล้ว Day 3 ไต้หวันโบกมือลากันด้วยสายฝน...มันจะฉ่ำเกินอะดิแพลนที่วางไว้ : C.K.S. Memorial Hall --- Lungshan Temple --- Bopiliao Historical Block --- The Red House --- Rainbow Six --- 7-ELEVEN X SANRIO --- Wuchang Road (American Street)สิ่งที่ได้ : C.K.S. Memorial Hall --- Lungshan Temple --- Bopiliao Historical Block (ผ่านๆ) --- The Red House (ผ่านๆ) --- Rainbow Six --- 7-ELEVEN X SANRIOวันส่งท้ายก็ได้สัมผัสความเป็นไต้หวัน เพราะฝนตกหนักมากกก ตกทั้งวัน แถมเม็ดใหญ่เกิน ท้องฟ้าไม่เหมาะกับการถ่ายรูปสักนิด แถมยังต้องเปลี่ยนแผนกะทันหัน เพราะวันนี้เน้นเดินเป็นหลัก ทำให้สู้กับความเปียกชื้นไม่ไหว เราเลยได้เข้าไปในสถานที่จริงๆไม่ครบ (ที่เหลือเดินผ่านแล้วมองๆเอา 555)C.K.S. Memorial Hallสวยเหมือนกับรูปภาพในรีวิวต่างๆ ถ่ายมุมไหนก็ดูดีไปหมด ถึงท้องฟ้าจะไม่มีแดด แต่ก็ไม่อ่อมเลย แถมข้างในมีนิทรรศการด้วยนะ ส่วนตัวคิดว่าที่นี่ถือเป็นจุดเช็คอินว่ามาถึงที่แล้วนะ แบบถ้ามาไต้หวันก็ต้องถ่ายรูปกกับซุ้มประตูสีขาว คนถึงจะเชื่อว่ามาจริงวิธีการเดินทาง : นั่ง MRT จาก Beimen [G13] ไป C.K.S. Memorial Hall St [G10]Lungshan Templeตอนไปฝนตกเลยได้ไหว้เจ้ากลางสายฝน เราเดินไหว้วนตามที่หาข้อมูลมากเลย ที่สำคัญเวลาเข้าวัดต้องเข้าทางประตูมังกรและออกทางประตูเสือนะ ถ้าเดินผิดทางเขาจะไม่ให้เราออก 555ใครอยากซื้อของฝากแล้วต้องการให้ใส่ถุงแยก แนะนำให้ไปจ่ายกันคนละรอบนะ เจ่เจ๊ในวัดเขาไม่ให้ถุงเพิ่ม ละอย่าไปขออะไรเยอะ (ถึงจะไม่ได้ขอ) เขาก็วีนใส่ 555 ซื้อเสร็จอย่าลืมเอาเครื่องรางไป Activate ที่กระถางธูปสีทองหน้าวัดด้วย โดยแบบถุงๆจะอยู่ได้ 1 ปีเท่านั้นวิธีการเดินทาง : นั่ง MRT กลับมา Ximen St [G12]Rainbow Sixเดินผ่านทุกวัน แต่ไม่ค่อยเจอคนมาถ่ายรูปด้วยเท่าไหร่ น่าจะเป็นเพราะตอนเราไปสีน้องค่อนข้างหมอง แถมฝนตกเลยอดถ่ายรูปมาอวดเลยวิธีการเดินทาง : เดินมาตามเส้นทางจากวัดหลงซานไปที่ Ximending Night Market7-ELEVEN X SANRIOน่ารักมากกกกก น่ารักทั้งร้าน คาวาอี้เดสก๊ะสุดๆ ใครอยากได้ของ Sanrio มาเลย ถึงวัยรุ่นสูงอายุจะนั่งเม้าท์กันเต็มร้าน แต่เราสามารถเข้าไปถ่ายรูปได้แบบที่ไม่มีใครว่าและไม่มีใครมามองว่าเราทำอะไร อย่าลืมเช็คอินกับยัย Hello Kitty ยักษ์หน้าร้านนะวิธีการเดินทาง : เดินไปตามทาง Ximending Night Market จนเข้าซอยตึก TW Hostel เป็นอย่างไรกับ " เที่ยวไต้หวัน 3 วัน 2 คืนกับเพื่อนซี้ครั้งแรก ด้วยงบของ First-Jobber ? แจกแพลน วิธีการเดินทาง และชวนเม้าท์ระหว่างทริป " อ่านจบแล้วอยากไปเที่ยวไต้หวันเลยไหมคะ 555ถ้ามีคะแนนเต็ม 10 เราให้ไต้หวัน 9.5 เลย เพราะเป็นประเทศที่มีความ Nostalgia มากๆค่ะ เครดิต :รูปภาพและบทความทั้งหมดเป็นของ Creator เองHello Kitty Face จาก https://www.klipartz.com/th/sticker-png-kbttw หวังว่าจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยนะคะ สามารถตามไปส่องแพลนแบบละเอียดยิบๆๆๆยิ่งกว่าได้ใน Link ด้านล่างเลยน้าhttps://www.facebook.com/groups/taiwan2gether/permalink/26222012604112353/สุดท้ายนี้ก็ขอให้ชาว First-Jobber ทุกคนที่เข้ามาร่วมแบ่งปันประสบการณ์กับเราได้ท่องเที่ยวในแบบฉบับตัวเองอย่างมีความสุขและกลับบ้านอย่างปลอดภัยค่ะ อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !