ความประทับใจที่เกิดขึ้นนี้ขอเขียน เพื่อบอกต่อว่า คุณต้องไป หมู่บ้านที่มีชื่อเสียงเรื่อง ใบชา เเละเป็นหมู่บ้านสีส้มๆ ตัวผมเองเเทบไม่เชื่อในสายตาที่ได้มองเเละสัมผัสอากาศเย็นๆ อ๋อ !! เดี๋ยวครับขอเริ่มจากการเดินทางก่อนเลยนะครับ ผมเดินทางโดยการขับรถไป มีการเช่ารถ Honda City เช่าเเบบเหมาจ่ายเเละตอนส่งรถคืนต้องเติมน้ำมันเต็มถังเเบบเดิมครับ เส้นทางของการขับรถไปนั้น 1,864 โค้ง ซึ่งบอกได้เลยมี ใบประกาศนียบัตร มอบให้ด้วยเราต้องไปทำเรื่องเเละรับจากอำเภอครับ การเดินทางนี้คือทางขึ้นเขาล้วนเเล้วเเต่มีความชัน เเละก็ชันสูงขึ้นเรื่อยๆ เเละขับยากขึ้นเรื่อยๆ บวกกับการมีโค้งหักศอก !! ใช่ครับหักชนิดที่ว่า ศอกยัง อาย เมื่อถึงจุดสูงสุดในรูปภาพก็ต้องขอถ่ายภาพนี้เก็บไว้เป็นที่ระลึกกันสักหน่อยครับ เป็นจุดชมวิวเเละจุดพักรถเเละจุดเข้าห้องน้ำ เพื่อที่จะไปต่อในทางข้างหน้าสู่หมู่บ้าน ลีไวน์รักไทย อันที่จริงเเล้วไม่เคยคิดเลยว่าจะต้องขับรถมาไกลเเละหักโค้ง เยอะเเยะมากมายหลากหลายเทคนิค ในการขึ้นเขาบอกเลย Skill Up เยอะมากในการเดินทางครั้งนี้ครับ ผมมีผู้ติดตามนั่งมาด้วย 4 คน เป็นครั้งเเรกที่ผู้ติดตามไม่สามารถนอนหลับได้ทั้ง 4 เรียกได้ว่านั่งดูเส้นทาง เเละลุ้นไปพร้อมกันตลอดทุกๆ โค้ง จริงๆครับ เเละทันทีที่ถึงบนหมู่บ้าน ภาพที่เคยดูเคยชมทาง Internet ลอยขั้นมาว่านี่ เรามาถึงเเล้ว มาถึงเเล้วจริงๆ สีเขียวๆของต้นชา มีเนินภูเขาพร้อมด้วยบ้าน ทรงเเบบคล้ายๆ บ้านในหนังจีนที่เราเคยดูเเละชมในโทรทัศน์เเละยังเเปลกตรงที่มีการปลูกต้นชา ไว้เป็นชั้นทีละชั้นเเบบขั้นบันได ถูกตัดเเละดัดไว้เป็นพุ่มไม้สวยงาม เเละมีป้ายบอกว่าบ้านเเต่ละหลังไปทางไหนอีกด้วย มันสวยกว่ารูปที่เคยเห็นอีก เเถมอากาศสดชื่นมาก อากาศเย็นๆ เเถมใกล้จะมืดพระอาทิตย์จะตกดินเเล้ว เราขอเก็บภาพถ่ายไว้สักหน่อย จุดนี้เป็นจุดที่หลายท่านมาถ่ายเก็บไว้ เพื่อบ่งบอกว่ามาถึงเเล้วนะเเละเมื่อมาถึงการเดินทางโดยรวมใช้เวลาประมาณ 8 ชั่วโมงที่ขับรถมาจาก ลำปาง-เเม่ฮ่องสอนนี้ เรียกได้ว่า คุ้มค่ามาก ผมได้พักที่บ้านชามะลิ เเละสมาชิก ผู้ติดตามก็เเยกย้ายกันไปเก็บของยังที่พัก เมื่อเรามาถึงจะพบร้านค้า หนึ่งร้านเเละมีคนที่เค้าดูเเล ห้องพักจะช่วยเรายกของทั้งหมดของเราเข้าห้องพักด้วยความเต็มใจเเละดีใจเป็นอย่างมาก ความชำนาญของการขับรถมอเตอร์ไซด์ ขึ้นเขามาช่วยเรา ถือว่าเทพมากครับ ขับมือเดียว อีกมือถือของ เเละขับขึ้นเขามา ผมจำภาพนี้ติดตาเลยครับ ขับรถขึ้นเขามือเดียว หลังจากนั้น เราก็เเยกกันพักผ่อนเเละถ่ายรูปตามสะดวกครับ มีร้านอาหารเเละเป็นอาหารที่ขึ้นชื่อมากๆ อยู่ด้านล่างครับ จะเป็นอาหารจีนยูนาน เมนูที่ผมจำได้จะเป็น เมนูที่ ขึ้นชื่อเลยครับ ขาหมูยูนาน เรียกว่าตุ๋นได้นุ่มลิ้น อร่อยละลายในปากเลยครับ เเละอีกหลาก เมนูเพื่อนๆ ต้องไปครับเเละไปทานอาหารที่นี่ครับอร่อยสมกับที่เขียนรีวิวไว้จริงๆ เเละราคาไม่สูงด้วย เเถมเค้ามีเเค่มื้อเย็นนะครับ ใครหวังจะรับประทานในช่วงเช้าหรือตลอดทั้งวัน ต้องสั่งพิเศษกับร้านนะครับ เป็นประสบการณ์ที่ผมจำได้ว่าเวลาไปที่เที่ยวเเห่งนี้จะต้องมีการเเต่งตัวให้เข้ากับบรรยากาศของชาวเหนือในระหว่างทางผมเองก็ได้สนับสนุนซื้อเสื้อผ้าที่ชาวเขา ถัก ทอ ขึ้นมาเอง ในราคาไม่สูงมาก เรียกว่า งานดีมากครับ ในการขายของของชาวเขาหรือชาวบ้านที่นี่ ไม่มีอะไรที่รู้สึกว่าเขาจะคิดราคาสูงทั้งๆที่เป็นของที่ทำจากมือล้วนๆ เเละวิธีการทำยากเเละพิถีพิถันมากเเต่ตรงกันข้ามเวลาขายราคาเค้าไม่ได้อะไรจากตรงนี้มากมาย เเต่เขาบอกว่านี่คือกำไรของเขาเเล้วคือการที่มีคนซื้อเเละนำไปใส่จริง ถือว่าประสบความสำเร็จมากสำหรับตัวเขา เเน่นอนสุดท้ายของสุดท้ายคือการมาให้ถึง นั่นคือ สวนชา ใบชา ที่เราถ่ายรูปเเละชาวบ้านปลูกไว้ เขามีกระบวนการในการทำชาที่เเตกต่างจากที่อื่นๆเล็กน้อยเเต่เหลือไว้ซึ่งคุณภาพที่จดจำไม่มีวันลืมเลือนเเน่นอน ผมได้มีโอกาสเข้าไป ชงชาเอง เเละทำเองทุกขั้นทุกตอน ตั้งเเต่ต้มน้ำจนถึงขั้นตอนสำคันคือการ ชงชา ที่นี่ เค้าให้ความสำคัญมากครับกับขั้นตอนนี้ครับ เรียกว่า ต้องมาทำเองถึงจะทราบในสิ่งที่ผมได้เขียนไปครับ เเน่นอนว่าไม่มีวันลืมเเน่นอนครับ ประทับใจทักอย่างเเละจะมาเที่ยวอีกเเน่นอน ในความประทับใจมีอยู่สูง ตั้งเเต่การเดินทาง การใส่เสื้อผ้า อาหารการกิน ไหนจะบรรยากาศที่สุดจะบรรยาย ที่เดียวที่ให้คุณจดจำเเละทำให้คุณอยากไปอีก ลีไวน์รักไทย เเม่ฮ่องสอน