บาห์เรนเป็นประเทศเมืองแขกที่อาจจะไม่ได้เป็นที่นิยมสำหรับคนไทยมากเท่าไหร่นัก แต่เมื่อได้มีโอกาสมาเปลี่ยนเครื่องที่ประเทศบาห์เรนโดยมีเวลาต่อเครื่องถึง 7 ชั่วโมง จึงได้ลองเข้าไปชมเมืองแขกดูซักหน่อยว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง ภาพจากผู้เขียน บาห์เรนเป็นประเทศที่คนไทยไม่ต้องขอวีซ่า ดังนั้นจึงสามารถผ่านจุดตรวจคนเข้าเมืองแล้วหารถสาธารณะเข้าไปชมเมือง Manama ที่เป็นเมืองหลวงของประเทศนี้ได้เลย แต่ถ้าไม่มีหลักฐานการเดินทาง ไม่มีหลักฐานการจองโรงแรม หรือดูน่าสงสัยสำหรับเจ้าหน้าที่ก็มีสิทธิ์ที่จะไม่ผ่านจุดตรวจคนเข้าเมืองได้เหมือนกัน ในช่วงเดือนกรกฎาคม อากาศภายในเมืองนี้จะร้อนมาก ช่วงที่ไปถึงเป็นเวลาประมาณบ่ายสามตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งถือว่าน่าจะเป็นช่วงเวลาที่ร้อนที่สุดของวัน เมื่อเดินผ่านประตูสนามบินออกไปแล้วก็จะสัมผัสได้ถึงไอความร้อนในทันที ด้วยอุณหภูมิ 42 องศาเซลเซียส ภาพจากผู้เขียน ภายในเมืองก็ดูสะอาดสะอ้าน แต่ในช่วงตอนกลางวันจะเห็นผู้คนออกมาตามท้องถนนกันน้อยมาก เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนจัด จึงทำให้ผู้คนที่นี่เลือกที่จะพักผ่อนในช่วงกลางวันแล้วมาใช้ชีวิตในช่วงกลางคืนแทน แต่ในเมื่อเรามีเวลาแค่ 7 ชั่วโมงสำหรับชมเมือง จึงต้องเที่ยวกันแบบร้อน ๆ แต่ข้อดีฟ้าใสและถ่ายรูปออกมาได้สวยมาก ถึงแม้จะมีเวลาไม่นานแต่ก็ได้แวะไปบริเวณที่เป็นจุดเด่นของเมืองมานามา โดยจุดแรกที่ไปคือ บริเวณหลังตึก Bahrain Financial Harbour จะเป็นท่าเรือสำหรับขนของ ตอนที่ไปถึงเป็นช่วงพระอาทิตย์กำลังจะตกดินพอดี ทำให้ได้รูปย้อนแสงแบบสวย ๆ กลับมา ภาพจากผู้เขียน จุดเด่นของเมืองนี้คือตึก Bahrain World Trade Center ซึ่งถือเป็นแลนด์มาร์คสำคัญของประเทศนี้เลยทีเดียว ลักษณะของตึกคือเป็นรูปทรงเรือใบที่มีความสวยงามโดดเด่น และนอกจากนั้นตรงกลางของตึกจะมีกังหันลมขนาดใหญ่ ซึ่งสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าจากแรงลมได้ด้วย ภาพจากผู้เขียน จากนั้นก็ไปเดินตลาด Manama Souq ซึ่งเป็นตลาดโบราณที่มีความโดดเด่นด้วยซุ้มประตูบริเวณทางเข้า ภายในตลาดจะมีของขายมากมาย ทั้งของกิน ของใช้ รวมไปถึงของฝากต่าง ๆ แต่ที่สะดุดตามากที่สุดคือโคมไฟที่มีสีสันและลวดลายที่สวยงามและแปลกตามาก ภาพจากผู้เขียน ภายในเมืองก็จะมีอาคารต่าง ๆ ที่สวยงาม มีรูปร่างที่ดูแปลกตาและเป็นเอกลักษณ์มาก ทำให้ได้เห็นความแปลกใหม่ รวมไปถึงนวัตกรรมทางด้านสถาปัตยกรรมและการก่อสร้างที่ทันสมัยด้วย ภาพจากผู้เขียน หากใครมีโอกาสได้แวะมาต่อเครื่องที่บาห์เรนก็แนะนำให้เผื่อเวลาสำหรับเที่ยวในเมืองซักเล็กน้อยก็จะได้เห็นสิ่งใหม่ ๆ ที่ไม่มีในประเทศของเราอย่างแน่นอน