หากผู้อ่านมีโอกาสเยือนจังหวัดยะลา ตลาดท่าสาป เป็นอีกสถานหนึ่งที่ไม่ควรพลาด เพราะเมื่อไปถึงแล้วคุณจะได้พบกับบรรยากาศอบอุ่นถ้อยทีถ้อยอาศัยของแม่ค้าพ่อขายทั้งพุทธและมุสลิม ได้พบนักท่องเที่ยวที่ใบหน้าเปื้อนยิ้มอยู่ตลอดเวลา ตลาดท่าสาปนอกจากเป็นแหล่งพบปะของผู้คน และบรรยากาศสบายๆ ริมแม่น้ำปัตตานีแล้ว ยังปกคลุมไปด้วยเรื่องราวประวัติศาสตร์ ที่จะทำให้คุณรู้จักและเข้าใจจังหวัดยะลา และวิถีชีวิตผู้คนมากขึ้น เรียกได้ว่ามาที่นี่ได้ทั้งอิ่มท้องและอิ่มความรู้เลยทีเดียว ส่วนของตลาดท่าสาป ตลาดท่าสาป มีชื่อเต็มว่า “ตลาดต้องชม ท่าแพ ท่าสาป” มีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของเมืองยะลาให้คึกคัก ภายใต้คอนเซ็ปต์ "เดินฟิน กินเพลิน ตลาดท่าแพ ท่าสาป" ฉะนั้นเมื่อนักท่องเที่ยวไปยลเที่ยวชมจึงจะพบกับอาหารพื้นบ้าน และขนมหาทานยาก อร่อยตั้งแต่หน้าตายันรสชาติ ชนิดที่ว่าต้องอุดหนุนทุกร้านเลยเชียว ส่วนบรรยากาศก็จะฟินเพลินไปกับสายน้ำ ลมเอื่อย และแสงไฟประดับบนสะพานอย่างลงตัว ตลาดท่าสาป เปิดทุกวันเสาร์ เวลา 10.00 น. – 20.00 น. นอกจากบรรยากาศแสนฟิน ร้านค้าอาหารรสเลิศหลากหลายแล้ว ยังมีเวทีการแสดงถึง 2 จุด เลือกชมได้อย่างจุใจ เต็มตา ล้วนเป็นการแสดงวัฒนธรรมพื้นบ้านที่สวยงาม อีกจุดประสงค์หนึ่งของตลาดท่าสาป นายมะสดี หะยีปิ นายกเทศมนตรีตำบลท่าสาป บอกว่า เนื่องจากเกิดเหตุการณ์ไม่สงบในพื้นที่บ่อยครั้งทั้งไทยพุทธและไทยมุสลิมต่างถูกลอบยิง จนทำให้สองศาสนาเกิดความหวาดระแวงต่อกัน ตลาดท่าสาปจึงเป็นไอเดียที่ทำให้สองวัฒนธรรมกลับมาหันหน้าและยิ้มให้กันอีกครั้ง ซึ่งก็สำเร็จตามความมุ่งหมาย หากคุณผู้อ่านมีโอกาสมาเยือน จะพบว่า บรรยากาศที่นี่มากไปด้วยความเป็นกันเองยิ้มแย้มแจ่มใสจริงๆ ส่วนประวัติศาสตร์ บริเวณท่าสาป เคยเป็นเมืองยะลามาก่อน เพราะอยู่ติดแม่น้ำปัตตานีที่ไหลมาจากเบตง สู่เมืองปัตตานี เป็นจุดขนถ่ายสินค้าจากพ่อค้าชาวอินเดีย เป็นเมืองท่าที่รุ่งเรือง เมืองจึงเกิดขึ้น ณ ที่แห่งนี้ กระทั่งยุคสมัยเปลี่ยน การคมนาคม เปลี่ยนจากเรือเป็นถนนทางบก เมืองยะลาจึงถูกย้ายไปอยู่ ณ ที่ปัจจุบัน ท่าสาปจึงกลายเป็นเมืองเก่า มีสถานะเป็น ตำบลท่าสาป อำเภอเมือง จังหวัดยะลา สาเหตุที่เรียกว่าท่าสาป เพราะสายน้ำจุดนี้มีหินใหญ่ก้อนหนึ่งมีลักษณะคล้ายหญิงสาวเปลือยกายนั่งถ่างขา เวลาน้ำไหลมากระทบจะเกิดเสียงดังมาก ยิ่งช่วงหน้าน้ำหลากยิ่งดัง มีความเชื่อกันว่า หากคนเล่นของมีคาถาอาคมมาอาบน้ำบริเวณนั้นคาถาจะเสื่อม จึงเป็นที่มาของคำว่า “ท่าสาป” อีกตำนานหนึ่งบอกว่า ณ จุดนี้ภาษามลายูเรียกว่า “กัมปงเซอะมะ” หรือ “กัมปงมูซับ” (Kampong Kusap) คำว่า กัมปง แปลว่า หมู่บ้าน ส่วนคำหลังแปลว่า น้ำซับหรือน้ำซึม หมายถึง หมู่บ้าที่มีน้ำเอ่อนองตลอดเวลา ซึ่งคำว่า “ซัป” กับ “สาป” ก็ออกเสียงคล้ายกัน อาจแผลงเป็นคำว่า “ท่าสาป” ในที่สุด จะอย่างไรก็ช่าง ที่แน่นอน คือ ท่าสาป เคยรุ่งเรืองและเป็นเมืองสำคัญของ จ.ยะลา เป็นเมืองท่าที่พ่อค้าอินเดียมาแวะขนถ่ายสินของ และพักเหนื่อย ถือเป็นเส้นเลือดที่เลี้ยงผู้คนในภูมิภาค แม้จะถูกเหตุการณ์ความไม่สงบกลบความน่าอยู่ลงไปบ้าง แต่ท่าสาปก็ไม่เสื่อมคลาย ยังคงฟื้นฟูกลับมาเหมือนเดิม และพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวทุกผู้คนให้มาสัมผัสอยู่เสมอ ร้านค้าขนมจีน และละซอ (ขนมจีนมลายู) ขนมรังผึ้ง ขนมโบราณหาทานยาก ที่ตั้ง ตลาดต้องชมท่าแพ ท่าสาป ตั้งอยู่ ต.ท่าสาป อ.เมือง จ.ยะลา ตีนสะพานท่าสาป ริมแม่น้ำปัตตานี หากมาจากตัวเมือง จ.ยะลา ให้มุ่งหน้ามาทางเรือนจำกลางจังหวัดยะลา เลยเรือนจำไปหน่อย ก็จะถึงแล้ว เปิดบริการทุกวันเสาร์ เวลา 10.00 น. – 20.00 น.