สวัสดีทุกคนนะคะ เมื่อสามปีก่อนเราได้มีโอกาสไปเที่ยวที่ประเทศโปแลนด์ ที่ตั้งอยู่ใจกลางยุโรปค่ะ (เพื่อนชาวโปลิชบอกมาอย่างนี้) บางคนอาจจะบอกว่าเป็นยุโรปตะวันออกก็แล้วแต่วิจารณญาณการมองแผนที่ของแต่ละคนแล้วกันนะคะ โปแลนด์เป็นประเทศที่เที่ยวง่าย ผู้คนใจดี ยิ้มแย้มแจ่มใส และน่ารักมาก ๆ โดยเฉพาะคุณตาคุณยายสูงวัยที่จะชอบมาเดินเล่นตามสวนสาธารณะในวันที่อากาศดี ๆ แถมประเทศนี้ยังค่อนข้างปลอดภัยสำหรับชาวต่างชาติค่ะ ตอนเราเดินในเมืองจะไม่ค่อยมีคน homeless เท่าไหร่ ลองถามเพื่อนดูถึงได้รู้ว่าประเทศนี้ไม่ได้รับผู้อพยพเข้าประเทศค่ะ ส่วนเรื่องภาษาคนโปมีภาษาของตัวเองคือโปลิช (Polish) ซึ่งมีรากภาษาอยู่ในกลุ่มเดียวกับภาษารัสเซียซึ่งไม่มีอะไรเหมือนภาษาอังกฤษเลยค่า T_T แต่ตัวเขียนเหมือนภาษาอังกฤษนะคะ ^^ คนรุ่นใหม่ก็เริ่มพูดภาษาอังกฤษกันได้บ้างแล้วก็สบายหายห่วงไปเปลาะหนึ่งค่ะ เงินของที่นี่ใช้เป็นสกุล Zloty บางร้านรับยูโร แต่บางร้านก็ไม่รับ สำหรับเราแนะนำว่าใช้พวกเครดิตการ์ดจะดีที่สุดค่ะ เริ่มต้นการเดินทางกันเลย ที่มา: ภาพโดยผู้เขียน เราเดินทางจาก สนามบินสุวรรณภูมิไปลงแฟรงเฟิร์ต แล้วบินอีกทีมาลงที่ warsaw โปแลนด์ค่า สนามบินชื่อ Warsaw Frederic Chopin Airport ซึ่งเป็นสนามบินขนาดไม่ใหญ่ไม่เล็ก ก็ยังพอมีอะไรให้ช็อปในดิวตี้ฟรีเสียดายไม่ได้ถ่ายตอนกลับให้ดู แต่ถ่ายรูปเครื่องบินมาให้แทน จากนั้นเราก็เรียกแท็กซี่ไปลงที่สถานีรถไฟในเมืองค่ะ สถานีรถไฟในยุโรปเป็นอะไรที่ดีมาก เพราะมันมักจะตั้งอยู่กับช้อปปิ้งมอลล์ ซึ่งเราว่ามันดีมากจริง ๆ ในระหว่างที่รอรถไฟก็สามารถเดินเล่นชิลล์ ๆ ได้ แต่ระวังเรื่องเวลาด้วยนะคะ ที่มา: ภาพโดยผู้เขียน เราได้นั่งรถไฟแบบเป็นห้องค่ะ เหมือนในแฮรี่ พอตเตอร์ แต่เป็นแบบอินเตอร์กว่านิดหน่อย ไม่ได้คลาสสิกแบบในหนัง หลังจากนั่งหลับ ๆ ตื่น ๆ ในรถไฟมาสักพัก และแล้วเราก็มาถึง Poznan จุดหมายของเราแล้วค่า สารภาพเลยว่าตอนแรกคิดว่าจะเป็นเมืองแนวลูกทุ่งชนบท แต่เปล่าเลยค่ะ คิดผิดมาก มันเป็นเมืองใหญ่เมืองหนึ่่งทางเหนือของโปแลนด์เลยทีเดียว เมือง Poznan เป็นเมืองแห่งการศึกษา เพราะมีมหาวิทยาลัยอยู่หลายแห่ง มีคณะต่าง ๆ เยอะแยะให้เลือกเรียนรวมถึงคณะแพทย์ด้วย แต่ได้ยินมาว่าโหดใช่เล่น เมืองในยุโรปถ้าจะดูว่าใหญ่หรือเล็ก มีคนอยู่เยอะหรือน้อย ดูที่ยานพาหนะค่ะ ถ้าเป็นเมืองใหญ่ เมืองนั้นจะมีรถราง และบัส บริการ ซึ่ง Poznan มีครบมาก การเดินทางก็จะสะดวกสบายค่ะ ที่มา: ภาพโดยผู้เขียน นี่คือตารางรถรางค่ะ ดูง่ายมาก ๆ เพราะจะบอกสถานี และเวลาชัดเจน แถมรถรางจะตรงเวลามาก เพราะไม่มีไฟแดงไฟเขียว และไม่มีรถติด ค่าโดยสารก็ไม่แพง เราเลยใช้รถรางนี่แหละค่ะเดินทางไปที่พัก แล้วก็ลากกระเป๋าไปอีกนิดหนึ่งก็ถึงแล้ว ประหยัดค่าใช้จ่ายเรียก Grab เรียกแท็กซี่ไปมากโขเลย (เก็บไว้กินดีกว่า) เช้าวันที่ 2 เราก็เริ่มเดินเล่นในเมืองเลย ท้องฟ้าเป็นใจมาก ๆ เราไปช่วงฤดูใบไม้ผลิ ก็คือช่วง มีนาคม - พฤษภาคม ที่มา: ภาพโดยผู้เขียน ที่มา: ภาพโดยผู้เขียน ใครว่าทิวลิปมีแค่เนเธอร์แลนด์ ที่โปแลนด์ก็ดอกใหญ่ไม่แพ้กันจ้า ตื่นเช้ามาเราก็จัดน้ำผลไม้เลยค่ะ ร้านนี้ชื่อ Juice Drinker ร้านจะเปิดเพลงเสียงดังนิดหนึ่ง แต่น้ำผลไม้สั่งแล้วอร่อยมาก ไม่รู้ว่าผสมน้ำตาลเพิ่มรึเปล่า แต่รสชาติคือดีต่อใจมาก ก.ไก่ล้านตัว ร้านจะมีหลากเมนูให้เลือก แต่ที่แปลกคือน้ำผลไม้แบบร้อนค่า เฮ้ย มีแบบนี้ด้วยรึ สงสัยมาก ... เขาบอกว่าขายดีมากช่วงหน้าหนาว แต่เราก็ลองชิมดูก็อร่อยเหมือนกันค่ะ เปิดมิติใหม่การดื่มน้ำผลไม้ ที่มา: ภาพโดยผู้เขียน ที่มา: ภาพโดยผู้เขียน ต่อไปก็อาหารเช้าเบา ๆ เราเลือกเป็นแฮมเบอเกอร์ เครื่องเคียงเป็นมันฝรั่งทอดค่ะ ส่วนเพื่อนอีกคนเลือกเป็นเป็ดอบราดซอส ได้ตัวใหญ่มาก แต่อย่าคิดว่าจะกินไม่หมดนะคะ เป็ดเกลี้ยง เหลือแต่เครื่องเคียงที่เป็นผักดองสีม่วง ๆ ค่ะ ให้เยอะมากจริง ๆ เป็ดเนื้อนุ่มมาก ขอโทษที่จำชื่อร้านไม่ได้ แต่อยู่ใกล้ ๆ city hall ค่ะ ที่มา: ภาพโดยผู้เขียน มื้อเที่ยงเราไปกินของขึ้นชื่อของ Poznan ค่ะ ชื่อร้านว่า Manekin สิ่งที่ขายก็คือแพนเค้ก หรือในภาษาโปลิชเรียกว่า Nalesniki แพนเค้กของที่นี่จะเป็นแผ่นแป้งบาง ๆ ที่ด้านในมีไส้ตามสั่ง ซึ่งเขาจะมีในเมนูมาให้อยู่แล้ว เช่น ไส้แฮมชีส บาร์บีคิว ด้านข้างเป็นซอส ซึ่งสามารถเลือกได้หลากหลายแบบเช่นกันค่ะ ดูหน้าตาธรรมดาแต่อร่อยมาก พอใช้มีดหั่นลงไปชีสก็จะเยิ้ม ๆ ออกมา แผ่นใหญ่ กินคนเดียวจุก ๆ ต้องนั่งย่อยซักพักก่อนออกจากร้าน ที่มา: ภาพโดยผู้เขียน ช่วงบ่ายเราลงกิจกรรม ทำขนม Rogal ไว้ค่ะ หน้าตาเหมือนครัวซองต์ แต่สอดไส้ถั่วหวาน ๆ ผสมลูกเกด เคลือบน้ำตาลขาว ๆ ด้านหน้า สรุปคือหวานมาก เราก็ได้เข้าไปนั่งดูเชฟทำ มีเด็กน้อยเข้าไปลองทำด้วย เชฟก็เลยเรียกให้ไปปั้นแป้งสาธิต เชฟบอกว่าถ้าใครจะทำขายต้องมีใบอนุญาตด้วยนะคะ เพราะเป็นขนมเก่าสูตรดั้งเดิม ที่มา: ภาพโดยผู้เขียน พอทำขนมแล้ว ก็ต้องมาจบด้วยกาแฟเบา ๆ ยามบ่าย ร้านชื่อ Davinci เป็นร้านที่ตกแต่งได้สวยมาก ๆ สะดุดตาเราจนต้องเข้ามา อาหารก็จะราคาแพงนิดหนึ่งค่ะ ไม่เกิน 200 บาท กาแฟดี โกโก้ดี คนนั่งก็ดี ร้านนี้เหมือนรวมผลงานของดาวินชีไว้ค่ะ โดยดูจากผนังร้าน ของประดับตกแต่งต่าง ๆ ในร้าน สวยงามแปลกตาสไตล์นักประดิษฐ์มาก พอมาถึงร้านนี้เราก็นั่งยาวมองผู้คนในร้าน คนเดินผ่านหน้าร้านไปมาจนถึงเย็น แล้วก็กลับที่พักเป็นอันจบ 1 วันใน Poznan ค่า ที่มา: ภาพโดยผู้เขียน สนนราคาของวันนี้ ค่าน้ำผลไม้ ประมาณ 120 บาท (1 zloty ประมาณ 10 บาท) ชุดแฮมเบอเกอร์ ประมาณ 300 บาท ค่าแพนเค้ก 200 บาท ค่าชากาแฟ 100 กว่าบาท ถือว่าไม่แพงค่ะ ใครที่วางแผนไปเที่ยวโปแลนด์ก็ลองมอง Poznan เป็นตัวเลือกหนึ่งได้นะคะ ที่นี่ถ้าเดินทางมาจาก Berlin ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง มาลองเปิดประสบการณ์เมืองเก่าอาหารอร่อยในยุโรปกันนะคะ