สำหรับงานสะพานข้ามแม่น้ำแคว จังหวัดกาญจนบุรีก็ได้ผ่านพ้นไปอีกปี โดยจะจัดในช่วงเดือนธันวาคมของทุกๆ ปี ปีนี้ตรงกับวันที่ 8-17 ธันวาคมที่ผ่านมา ก็ยังได้รับความนิยมเช่นเคยนอกจากงานสะพานประจำปีที่ว่าเป็นงานที่จัดขึ้นบริเวณสะพานข้ามแม่น้ำแคว ซึ่งเป็นสะพานทางประวัติศาสตร์ตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 สะพานนี้มีความสำคัญมาก ได้สร้างเสร็จเรียบร้อยนานแล้ว และยังใช้งานได้อยู่ยังมีงานสะพานข้ามแม่น้ำรันตี สายน้ำหลักของหมู่บ้านแห่งนี้ ที่ยังสร้างไม่เสร็จ ที่ชาวบ้านบ้านกองม่องทะ ในจังหวัดกาญจนบุรีที่ต้องมาช่วยกันทำในทุกๆ ปี เพื่อใช้สัญจรไปไร่ นา สวนของชาวบ้าน ซึ่งชาวบ้านจะใช้วันหยุดทางศาสนา คือ วันพระในการมานัดหมายช่วยกันทำให้เสร็จภายในวันเดียวในจุดที่กำหนดจะทำ ถือเป็นงานสะพานประจำปีของชาวบ้าน เพราะเนื่องจากถึงช่วงฤดูฝน แม่น้ำรันตีก็จะมีน้ำหลากทำให้สะพานที่ช่วยกันทำชำรุดและถูกน้ำป่าพัดไป พอน้ำเริ่มลดแล้ว ชาวบ้านก็ได้มาช่วยกันทำใหม่เพื่อใช้งานได้อีกครั้ง เป็นสะพานจากภูมิปัญญาท้องถิ่น ตามบริบทชุมชน มีขั้นตอนดังนี้1. สานตะกร้าทรงกระบอกขนาดใหญ่ หัวเปิด ท้ายเปิด เพื่อทำเป็นเสาที่สามารถนำก้อนหินไปใส่ได้ 2. นำก้อนหินในแม่น้ำ มาส่งต่อมือต่อมือมาใส่ในวงสานไม้ไผ่ตะกร้าทรงกระบอก ไปวางในจุดที่จะใช้เป็นเสาสะพาน เพื่อให้เกิดน้ำหนักและอยู่ด้วยกันได้ ตอกปลายไม้ไผ่เผื่อให้ยึดกับหินใต้น้ำอีกชั้น 3. หาท่อนไม้แห้งตามริมน้ำมาใช้ให้เกิดประโยชน์วางบนก้อนหินซ้อนกันเหมือนแท่นเสาในตะกร้าสาน 3. ตัดไม้ไผ่มาหลายๆ ลำ เพื่อมาพาด ขัดกัน มัดให้แน่นจนสามารถที่จะเป็นพื้นสะพานได้ อย่างแข็งแรง สามารถรองรับน้ำหนักรถจักรยานยนต์ได้อย่างสบายๆ ไม่ทำระดับให้ชัน และขับขี่รถจักรยานยนต์ได้แค่ขนาดคันเดียว ค่อยๆไปได้ มีที่รองเท้าทั้ง 2 ข้างเพิ่มความปลอดภัยเวลาขับขี่รถจักรยานยนต์ เมื่อสะพานเสร็จเรียบร้อยก็ทำให้ชาวบ้านที่เดินเท้าหรือขับขี่รถจักรยานยนต์ไม่ต้องเดินข้ามน้ำอีกต่อไปได้ ส่วนอาหารการกินตอนพักเที่ยงก็มาจากการช่วยเหลือกันในชุมชน ระดมทุนจากผู้มีศรัทธา อยากมีส่วนร่วมกันเอง หรือใครจะเสริมอะไรก็สามารถมาร่วมสมทบได้ ทำให้เกิดภาพแห่งความสามัคคีของชุมชนในชนบทที่ยังอาศัยแรงมาช่วยงานชุมชนได้ ความเหน็ดเหนื่อย ความร้อน ในระหว่างการทำงาน สามารถลบล้างได้ด้วยน้ำใจจากผู้ที่มาช่วยกัน น้ำใส น้ำเย็นของแม่น้ำ หยาดเหงื่อที่กลายเป็นความภาคภูมิใจที่ได้มีส่วนร่วม เป็นส่วนหนึ่งของสะพานทำจากมือของชาวบ้านนี้ ความหิวถูกแทนด้วยดับข้าวอร่อยๆ จากน้ำใจคนในชุมชนเอง เมื่อยังมีภาพที่งดงามทั้งกิจกรรมและบรรยากาศแบบนี้ ชุมชนนั้นก็ยังคงน่าอยู่อยู่เสมอ เพราะความงดงามที่เกิดขึ้นมาจากใจของทุกคน ที่จะเป็นเหมือนสะพานคอยเชื่อมต่อกัน ได้ช่วยเหลือกัน ส่งเสริมกันเพื่อให้เกิดสิ่งดีๆ ต่อกันไปเรื่อยๆ งานสะพานประจำปีในตัวเมือง มีแสงสี ร้านค้า การแสดง รวมทั้งผู้คนไปร่วมงานมากมาย แต่งานสะพานประจำปีในป่าแห่งนี้ มีแต่ธรรมชาติ หยาดเหงื่อแห่งความสุข สายลม เสียงน้ำไหล การหยิบยื่น และน้ำใจที่ยิ่งใหญ่ แม้ผู้คนจะไม่มาก แต่มากด้วยพลังจริงๆ สามารถมาเที่ยว มาใช้ มาชมสะพานข้ามแม่น้ำรันตีแห่งนี้ได้ด้วยเช่นกันทุกภาพประกอบ โดยผู้เขียนขอบคุณ Canva ใช้ตกแต่งปก อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !