จังหวัดอุบลราชธานีเป็นเมืองรองที่หลายคนมักมาเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวอันโดดเด่นอย่างสามพันโบกและอุทยานแห่งชาติผาแต้ม แต่จริง ๆ แล้วจังหวัดนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ ที่น่าสนใจมากกว่านั้นอีก แถมแต่ละสถานที่นั้นก็ยังมีความสวยงามแตกต่างกันไป วันนี้เราเลยรวบรวมสถานที่ท่องเที่ยวจังหวัดอุบลราชธานีที่ต้องเที่ยวชมทั้งหมด 12 แห่งมาฝากกัน ถ้าพร้อมแล้วก็เตรียมปักหมุดแผนที่ในมือถือได้เลยค่ะ! ^^1. วัดพระธาตุหนองบัว “วัดพระธาตุหนองบัว” เป็นวัดสำคัญที่สวยงามมากแห่งหนึ่งในจังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งชาวเมืองอุบลฯ ร่วมกันสร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นศาสนสถานหรือศูนย์รวมจิตใจที่สำคัญค่ะ โดยภายในวัดประดิษฐาน “พระธาตุเจดีย์ศรีมหาโพธิ์” เจดีย์องค์ใหญ่ที่จำลองแบบจากเจดีย์พุทธคยาในประเทศอินเดีย สร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นสัญลักษณ์การครบรอบ 25 ศตวรรษของพระพุทธศาสนา เมื่อเข้าไปภายในพระธาตุก็จะพบกับพระพุทธรูป, พระบรมสารีริกธาตุ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองอุบลฯ ประดิษฐานอยู่ค่ะ นอกจากมีพระธาตุเจดีย์ศรีมหาโพธิ์ที่เป็นจุดเด่นของวัดแล้ว ยังมีรูปปั้นพญานาคราช “ท่านปู่กริชกรกต” กับ “ท่านย่ามณีเกตุ” ประดิษฐานไว้ 2 องค์คู่กัน ซึ่งพญานาคราชทั้ง 2 องค์เป็นพญานาคตระกูลฉัพยาปุตตะหรือพญานาคสีรุ้ง หนึ่งในสี่ของตระกูลพญานาค โดยสร้างขึ้นตามดำริของท่านเจ้าอาวาสที่นิมิตเห็นงูใหญ่สีรุ้งมาอาศัยอยู่บริเวณวัดพระธาตุหนองบัวแห่งนี้นั่นเองค่ะ📍 ปักหมุดได้ที่: ถนนธรรมวิถี ต.ในเมือง อ.เมืองอุบลราชธานี จ.อุบลราชธานี🚘 GPS: https://goo.gl/maps/GUvxPMETDXb3UFqr6📞 โทร. 083-125-8295🏡 เปิด: ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.00 - 18.00 น. 2. พิพิธภัณฑ์ชุมชนวัดภูถ้ำพระศิลาทอง “พิพิธภัณฑ์ชุมชนวัดภูถ้ำพระศิลาทอง” ตั้งอยู่ในพื้นที่วัดภูถ้ำพระศิลาทอง อำเภอเขมราฐ ซึ่งชาวบ้านนาหนองเชือกกับชาวตำบลเจียดและกรมศิลปากรร่วมมือร่วมใจกันสร้างพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ขึ้นเพื่อใช้สำหรับอนุรักษ์วัตถุโบราณหรือหลักฐานทางโบราณคดีที่สำคัญ โดยวัตถุโบราณเหล่านี้มีอายุมานานนับพันปี นอกจากนั้นยังมีข้าวของเครื่องใช้ในสมัยโบราณที่ชาวบ้านบริจาคมาจัดแสดงภายในอาคารพิพิธภัณฑ์แห่งนี้อีกด้วยค่ะ📍 ปักหมุดได้ที่: วัดภูถ้ำพระศิลาทอง หมู่ 3 บ้านนาหนองเชือก ต.เจียด อ.เขมราฐ จ.อุบลราชธานี 34170🚘 GPS: https://goo.gl/maps/rF2u9ow8wzBD3YCW7📞 โทร. 04-524-4531🏡 เปิด: เฉพาะผู้ที่ติดต่อมาเท่านั้น และเปิดรับจองล่วงหน้าสำหรับการเข้าชมเป็นหมู่คณะ3. วัดบุ่งขี้เหล็ก “วัดบุ่งขี้เหล็ก” เป็นวัดเก่าแก่ในอำเภอเขมราฐ แต่เดิมมีชื่อว่า “วัดสังวรวนาราม” ภายหลังหลวงปู่จันทร์หอม สุภาทโร (พระครูสุนทรพัฒโนดม) ที่เป็นเจ้าอาวาสในขณะนั้นได้สร้างและบูรณะวัดแห่งนี้ขึ้นใหม่ รวมถึงยังเปลี่ยนชื่อวัดใหม่เป็น “วัดบุ่งขี้เหล็ก” ต่อมาในปี พ.ศ.2550 วัดบุ่งขี้เหล็กได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา และด้วยความที่วัดแห่งนี้มีความสะอาดดีมากจึงได้รับเกียรติบัตรรางวัลของโครงการ “อุบลเมืองสะอาด ราชธานีอีสาน” เมื่อปี พ.ศ.2553 ค่ะ วัดบุ่งขี้เหล็กมีจุดเด่นสำคัญที่น่าสนใจคือ “เจดีย์พระศรีอริยเมตตรัย” ซึ่งเป็นเจดีย์ที่มีรูปทรงแปลกตาจากเจดีย์ทั่วไปคือ ผนังด้านนอกทาด้วยสีทองสูง 7 ชั้นตั้งโดดเด่นอยู่กลางวัด และด้วยความที่ชาวบ้านเลื่อมใสศรัทธาหลวงปู่จันทร์หอม ทำให้เจดีย์สร้างเสร็จภายในระยะเวลาเพียง 1 ปี 4 เดือนเท่านั้นค่ะ นอกจากนั้นทางด้านหลังวัดยังมีพระพุทธรูปปางมารวิชัยสีขาวจำนวน 56 องค์ที่ชาวบ้านและผู้เลื่อมใสศรัทธาได้ร่วมแรงร่วมใจกันสร้างขึ้นนั้นตั้งวางเรียงรายอย่างเป็นระเบียบสวยงาม📍 ปักหมุดได้ที่: 139 หมู่ 4 วัดบุ่งขี้เหล็ก ต.นาแวง อ.เขมราฐ จ.อุบลราชธานี 34170🚘 GPS: https://goo.gl/maps/cu2PbTdEVBwTex2J6 📞 โทร: 090-454-1954🏡 เปิด: ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30 - 18.00 น.4. หาดทรายสูง “หาดทรายสูง” อยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขงในบริเวณบ้านลาดเจริญ ตำบลนาแวง อำเภอเขมราฐ ซึ่งหาดทรายนี้เป็นชายหาดที่ทอดตัวยาวหลายร้อยเมตรที่เกิดจากกระแสน้ำในแม่น้ำโขงไหลพัดพาดินทรายมาสะสมในช่วงน้ำขึ้น ทำให้กลายเป็นชายหาดในช่วงน้ำลง อีกทั้งกระแสลมยังพัดพาตะกอนทรายขาวเนียนมากองทับถมกันไว้จนเกิดเป็นเนินสันทรายสูง ทำให้กลายเป็นทะเลทรายขนาดย่อมนั่นเองค่ะ เมื่อเดินไปด้านล่างก็จะพบแอ่งน้ำไหลและแนวโขดหินที่ช่วยให้ชายหาดสวยงามมากยิ่งขึ้นค่ะ หากต้องการมาเที่ยวหาดทรายสูง ควรมาท่องเที่ยวในช่วงหน้าแล้งหรือตอนที่น้ำลดลง คือ ช่วงเดือนมกราคมจนถึงเดือนพฤษภาคมค่ะ เพราะนอกจากจะได้ถ่ายรูปหรือเดินเล่นรับลมชมวิวริมฝั่งโขงบริเวณแก่งหินที่สวยงามแล้วยังมีร้านค้าคอยให้บริการในราคาถูกอีกด้วยค่ะ แต่ถ้าต้องการทำกิจกรรมสนุก ๆ อย่างเช่น การเล่นสไลเดอร์บนเนินทราย, การขี่เจ็ทสกี และบานาน่าโบ๊ท ก็สามารถทำได้เช่นกันค่ะ📍 ปักหมุดได้ที่: หาดทรายสูง บ้านลาดเจริญ หมู่ 10 ต.นาแวง อ.เขมราฐ จ.อุบลราชธานี 34170🚘 GPS: https://goo.gl/maps/sUPp3ck7YnmsbBZH9📞 โทร: 089-945-7689🏡 เปิด: ไม่มีกำหนดวันและเวลาเปิด-ปิด แต่ช่วงเดือนธันวาคมจนถึงเดือนพฤษภาคมเป็นช่วงที่หาดทรายโผล่พ้นแม่น้ำโขง5. แก่งชมดาว (หาดชมดาว) “แก่งชมดาว (หาดชมดาว)” ตั้งอยู่ที่บ้านโนนตาล ตำบลนาตาล อำเภอนาตาล ห่างจากหาดทรายสูงไม่มากนัก ซึ่งมีลักษณะเป็นแนวหาดหินหรือแก่งหินอันกว้างใหญ่ทอดตัวยาวหลายร้อยเมตรที่เกิดจากการกัดเซาะของกระแสน้ำ คล้ายกับสามพันโบกตรงที่มีหินรูปร่างประหลาดปรากฏในช่วงฤดูน้ำลด เพียงแต่ว่าที่นี่จะมีแอ่งน้ำใหญ่กว่าและมากกว่า ด้วยความที่มีทั้งแก่งหิน, แอ่งน้ำน้อยใหญ่ และลานหินกว้างสลับกันไป จึงทำให้ได้รับการขนานนามว่าเป็น “มินิแกรนด์แคนยอนเมืองไทย” แก่งชมดาวมีจุดเด่นที่น่าสนใจหลายจุดด้วยกัน แต่จุดไฮไลต์ที่โดดเด่นเลยก็มี “หินชมนภา” หินประหลาดรูปทรงแปลกตาสวยงาม สามารถมองเห็นท้องฟ้ายามพระอาทิตย์ขึ้นในตอนเช้าและดวงดาวสุกสกาวในยามค่ำคืนได้งดงามที่สุด, “บิ๊กโบก” ที่เป็นโบกหินขนาดใหญ่ และ “ถ้ำตาอ้วน” หินที่มีลักษณะเป็นเพิงผาคล้ายถ้ำ ส่วนจุดอื่น ๆ ก็สวยงามไม่แพ้กัน เช่น แกรนด์แคนยอนนาตาล, ประติมากรรมลำน้ำโขง, ถ้ำตามา, ก้อนสามเส้า, ช่องสาวโศก, ช่องเบียดสาว และแอ่งม้าคอย เป็นต้น📍 ปักหมุดได้ที่: หาดชมดาว หมู่ 10 บ้านโนนตาล ต.นาตาล อ.นาตาล จ.อุบลราชธานี 34170🚘 GPS: https://goo.gl/maps/MKFxeoDRHbuMX2mA7📞 โทร: องค์การบริหารส่วนตำบลนาตาล 04-530-5086, 089-844-4681🏡 เปิด: ทุกวัน ตั้งแต่ 05.00 - 18.00 น.6. ถนนคนเดินเขมราษฎร์ธานี (ถนนคนเดินเขมราฐ) “ถนนคนเดินเขมราษฎร์ธานี (ถนนคนเดินเขมราฐ)” ตั้งอยู่บนถนนวิศิษฐ์ศรีในอำเภอเขมราฐ ซึ่งถนนเส้นนี้ตลอดแนวเป็นชุมชนบ้านไม้เก่าแก่มีอายุกว่า 200 ปี แสดงให้เห็นถึงศิลปวัฒนธรรมและวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านเขมราฐ ด้วยเหตุนี้เองทำให้เทศบาลตำบลกำหนดให้บริเวณนี้เป็นถนนคนเดิน โดยจัดถนนคนเดินขึ้นครั้งแรกในวันที่ 12 เมษายน พ.ศ.2556 เนื่องจากต้องการให้คนรุ่นใหม่สัมผัสบรรยากาศย้อนยุคที่อบอุ่นและมีชีวิตชีวานั่นเองค่ะ หากต้องการมาเดินช้อป ชิม ชิลล์ที่ถนนคนเดิน แนะนำว่าให้มาเดินช่วงวันเสาร์ตั้งแต่ตอน 4 โมงเย็นเป็นต้นไป เพราะนอกจากจะคึกคักไปด้วยร้านค้าต่าง ๆ มากมายแล้ว ยังมีการจัดแสดงทั้งศิลปะ, ดนตรี, นิทรรศการภาพถ่ายเก่าแก่ของชุมชนเขมราฐในอดีต และการแสดงชุดพื้นบ้านหรือขบวนฟ้อนรำของชาวเขมราฐที่ออกมาฟ้อนรำอย่างสวยงาม ชวนให้รู้สึกถึงกลิ่นอายทางวัฒนธรรมท้องถิ่นและครึกครื้นสนุกสนานมากขึ้น แต่ถ้าต้องการไปฟ้อนรำด้วยหรือถ่ายรูปกับนางรำก็สามารถทำได้ค่ะ📍 ปักหมุดได้ที่: ถนนคนเดินเขมราษฎร์ธานี ถ.วิศิษฐ์ศรี ต.เขมราฐ อ.เขมราฐ จ.อุบลราชธานี 34170🚘 GPS: https://goo.gl/maps/uP9hc8HV6yMMtApw8📞 โทร: ททท.อุบลราชธานี 04-524-3770, 04-525-0714🏡 เปิด: ทุกวันเสาร์ เวลา 16.00 - 21.00 น.7. สามพันโบก “สามพันโบก” ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่บ้านโป่งเป้าและบ้านคอน ตำบลเหล่างาม อำเภอโพธิ์ไทร ซึ่งที่นี่เปรียบเสมือนแกรนด์แคนยอนเมืองไทยที่เป็นแลนด์มาร์กสำคัญของจังหวัดนี้เลยก็ว่าได้ เนื่องจากเป็นความงดงามอันน่ามหัศจรรย์ของแก่งหินและแอ่งน้ำที่ธรรมชาติได้สร้างสรรค์ขึ้นอย่างอลังการกลางแม่น้ำโขง โดยแก่งหินจะปรากฏตัวให้ยลโฉมเฉพาะในช่วงน้ำลดเท่านั้น และแก่งหินเหล่านี้มีโบกหรือแอ่งน้ำน้อยใหญ่ที่เกิดจากการกัดเซาะของกระแสน้ำหรือแรงน้ำวนมากกว่า 3,000 แอ่งค่ะ สามพันโบกมีจุดเด่นที่น่าสนใจคือแอ่งน้ำและแก่งหินต่าง ๆ ที่ถูกน้ำกัดเซาะจนกลายเป็นรูปร่างสวยงามแปลกตา เช่น รูปมิกกี้เมาส์, รูปหัวใจ, รูปหัวฮิปโป, รูปหัวสุนัข เป็นต้น แต่จุดไฮไลต์ที่โดดเด่นสุดอยู่ตรงที่ “บุ่งน้ำใส” หรือ “สระมรกต” ซึ่งเป็นสระน้ำธรรมชาติขนาดใหญ่ที่น้ำในสระเป็นสีเขียวมรกตตั้งอยู่กลางลานหิน โดยช่วงเดือนธันวาคมจะเป็นช่วงที่น้ำใสที่สุด ส่วนที่ทำให้น่าอัศจรรย์เลยก็คือ ไม่ว่าระดับน้ำในแม่น้ำโขงจะเพิ่มหรือลด ระดับน้ำในสระมรกตก็ยังคงที่และเต็มโบกอยู่เสมอค่ะ📍 ปักหมุดได้ที่: บ้านโป่งเป้า ต.เหล่างาม อ.โพธิ์ไทร จ.อุบลราชธานี🚘 GPS: https://goo.gl/maps/i7s1M4pnRugCWxXH6📞 โทร: อบต.สองคอน อ.โพธิ์ไทร โทร.04-533-8057, 04-533-8015 / ททท.อุบลราชธานี 04-524-3770🏡 เปิด: ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.00 - 18.00 น.8. เสาเฉลียง “เสาเฉลียง” ตั้งอยู่ภายในพื้นที่อุทยานแห่งชาติผาแต้ม ตำบลห้วยไผ่ อำเภอโขงเจียม ซึ่งเสาเฉลียงเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เกิดจากการกัดเซาะและผุกร่อนของน้ำกับลมอย่างต่อเนื่องยาวนานเป็นเวลากว่าร้อยล้านปี โดยมีลักษณะเป็นแท่งเสาหินทรายขนาดใหญ่ตั้งขึ้นทั้งหมด 3 แท่ง และมีแผ่นหินวางอยู่ด้านบนโดยไม่ติดกัน ทำให้มองดูคล้ายดอกเห็ดบานขนาดยักษ์ค่ะ นอกจากเสาเฉลียงจะมีจุดเด่นที่น่าสนใจอย่างเสาหินเห็ดยักษ์แล้ว ที่นี่ยังมีจุดเด่นที่น่าสนใจอีกจุดหนึ่งตั้งอยู่ถัดจากเสาเฉลียงขึ้นไปทางเนินเขา นั่นก็คือ “ลานหินแตก” ค่ะ ซึ่งลานหินแตกเกิดจากการยกตัวของเปลือกโลก ทำให้ชั้นหินโก่งงอและเกิดรอยเลื่อนหรือรอยแตก โดยมีลักษณะเป็นแนวหรือเป็นร่องของแผ่นหิน ทำให้ดูคล้ายกับแผ่นหินแยกตัวออกจากกัน มีความลึกประมาณ 4 เมตร ยาวประมาณ 66 เมตร และกว้างประมาณ 0.5 เมตรค่ะ📍 ปักหมุดได้ที่: เสาเฉลียง ต.ห้วยไผ่ อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี 34220🚘 GPS: https://goo.gl/maps/T1S3KebGvcPBLk8EA 📞 โทร: 04-525-2581🏡 เปิด: ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30 - 18.00 น.💸 เสียค่าเข้าชม: คนไทย >> เด็ก (อายุ 6 - 14 ปี) ราคา 20 บาท / ผู้ใหญ่ ราคา 40 บาท ชาวต่างชาติ >> เด็ก ราคา 200 บาท / ผู้ใหญ่ ราคา 400 บาท9. อุทยานแห่งชาติผาแต้ม “อุทยานแห่งชาติผาแต้ม” ตั้งอยู่ในอำเภอโขงเจียม ซึ่งมีพื้นที่ครอบคลุมถึง 3 อำเภอด้วยกันคือ อำเภอโขงเจียม, อำเภอศรีเมืองใหม่ และอำเภอโพธิ์ไทร เรียกได้ว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันโดดเด่นและสวยงามของจังหวัดนี้เลยก็ว่าได้ค่ะ เพราะนอกจากจะเป็นอุทยานแห่งชาติแห่งแรกในประเทศไทยที่มีแม่น้ำโขงกั้นพรมแดนไทย-ลาว ทำให้มองเห็นวิวทิวทัศน์สวยงามแล้ว ที่นี่ยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นและตกที่สวยงามเป็นที่แรกของประเทศไทยอีกด้วยค่ะ อุทยานแห่งชาติผาแต้มมีจุดเด่นที่น่าสนใจและห้ามพลาดชมเลยคือภาพเขียนสีสมัยก่อนประวัติศาสตร์อายุประมาณ 3,000 - 4,000 ปี กระจายอยู่ตามแนวเพิงผา ซึ่งภาพเขียนที่ยาวและหลากหลายที่สุดคือที่ผาแต้ม เพราะมีความยาวประมาณ 180 เมตร และมีไม่ต่ำกว่า 300 ภาพค่ะ โดยภาพเขียนสีที่เด่น ๆ ได้แก่ ภาพช้าง, ภาพปลาบึก, ภาพสัตว์ป่า และภาพฝ่ามือ เป็นต้น ทั้งนี้เราสามารถเดินลงไปเที่ยวชมบริเวณใต้ผาแต้มด้านล่างได้อย่างเต็มที่ค่ะ นอกจากนั้นภายในอุทยานยังมีจุดเด่นอื่น ๆ ที่สวยงามมากมาย เช่น “น้ำตกสร้อยสวรรค์” น้ำตกขนาดใหญ่ที่ดูคล้ายสายสร้อย, “ภูผาขาม / ภูเขาหินทราย” หน้าผาสูงที่มีภาพเขียนสีสมัยก่อนประวัติศาสตร์, “น้ำตกแสงจันทร์ / น้ำตกลงรู” น้ำตกที่ตกจากช่องโพรงของเพิงผา, “น้ำตกทุ่งนาเมือง” น้ำตกที่ตกจากหน้าผาไหลหายไปจากซอกหิน, “ภูนาทาม” ป่าดงนาทาม, “ถ้ำปาฏิหาริย์ / ถ้ำมืด” ถ้ำของภูเขาหินทรายที่ยาวมากแบ่งเป็นห้อง และ “ทุ่งดอกไม้ป่า / ทุ่งดอกไม้งาม” เป็นต้น📍 ปักหมุดได้ที่: อุทยานแห่งชาติผาแต้ม ต.ห้วยไผ่ อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี 34220🚘 GPS: https://goo.gl/maps/wvnxreMpimVVSXyV6📞 โทร: 04-525-2581🏡 เปิด: ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30 - 18.00 น.💸 เสียค่าเข้าชม: คนไทย >> เด็ก (อายุ 6 - 14 ปี) ราคา 20 บาท / ผู้ใหญ่ ราคา 40 บาท ชาวต่างชาติ >> เด็ก ราคา 200 บาท / ผู้ใหญ่ ราคา 400 บาท10. แม่น้ำสองสี “แม่น้ำสองสี” เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่แม่น้ำโขงและแม่น้ำมูลไหลมาบรรจบกันบริเวณปากมูลหรือดอนด่าน ซึ่งเป็นเกาะแก่งหินที่ยื่นลงไปในแม่น้ำ ทำให้สีของแม่น้ำในบริเวณนั้นแตกต่างกันอย่างชัดเจนและผสมกลมกลืนเป็นสีเดียวกันก่อนไหลลงสู่แม่น้ำโขงค่ะ โดยน้ำในแม่น้ำมูลใสคล้ายสีคราม ส่วนน้ำในแม่น้ำโขงมีสีขุ่น ๆ หรือเข้มคล้ายสีปูน เนื่องจากมีฝุ่นตกตะกอนและสะสมอยู่มาก หรือเรียกกันอย่างง่าย ๆ ว่า “โขงสีปูน มูลสีคราม” นั่นเองค่ะ จุดชมแม่น้ำสองสีที่ชัดเจนที่สุดอยู่ที่บริเวณริมตลิ่งหน้าวัดโขงเจียมและหมู่บ้านห้วยหมาก หากมาถูกจังหวะก็จะเห็นความแตกต่างของสีในแม่น้ำทั้งสองสายได้อย่างชัดเจนที่สุด บ้างก็ว่าช่วงเดือนเมษายน หรือเดือนตุลาคมจนถึงเดือนมกราคม บ้างก็ว่าในช่วงฤดูฝน และนอกจากจะได้ชมแม่น้ำสองสีแล้วยังสามารถล่องเรือชมทัศนียภาพและวิถีชีวิตของผู้คนริมฝั่งแม่น้ำโขงกับแม่น้ำมูลอีกด้วยค่ะ📍 ปักหมุดได้ที่: แม่น้ำสองสี ต.โขงเจียม อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี 34220🚘 GPS: https://goo.gl/maps/hgNujbntsHJVbUtx6📞 โทร: วัดโขงเจียม 04-538-1087🏡 เปิด: เที่ยวชมได้ตลอดทั้งวัน11. เขื่อนสิรินธร “เขื่อนสิรินธร” ตั้งอยู่ที่ตำบลนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย อำเภอสิรินธร ซึ่งเขื่อนสิรินธรเป็นเขื่อนหินถมแกนดินเหนียว จัดได้ว่าเป็นเขื่อนอเนกประสงค์ที่สร้างขึ้นมาเพื่อให้ประชาชนในภูมิภาคนี้ใช้ประโยชน์ต่อการดำรงชีวิตได้อย่างหลากหลาย เช่น การผลิตพลังงานไฟฟ้า, การกักเก็บน้ำไว้ใช้ในช่วงฤดูแล้ง, ใช้ป้องกันน้ำท่วม, ใช้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ปลาน้ำจืดขนาดใหญ่, ใช้เป็นเส้นทางเดินเรือในการติดต่อค้าขาย และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีจุดเด่นน่าสนใจอย่างสวนสิรินธรและพัทยาน้อยนั่นเองค่ะ สวนสิรินธร ตั้งอยู่บริเวณอ่างเก็บน้ำฝั่งซ้ายของสันเขื่อนสิรินธร ซึ่งภายในสวนสิรินธรประกอบด้วยต้นไม้น้อยใหญ่, สวนน้ำพุ, ศาลาพักผ่อน และพันธุ์ไม้ดอกโทนสีม่วงประดับไว้โดยรอบพร้อมตัดแต่งเป็นตัวอักษร “สธ” ทำให้บรรยากาศภายในสวนร่มรื่น เหมาะแก่การพักผ่อนหย่อนใจ ทั้งนี้สิ่งที่น่าสนใจภายในสวนแห่งนี้ ได้แก่ ประติมากรรมรูปช้างหล่อจำนวน 3 เชือกกำลังเล่นดนตรีไทยทั้ง 3 ชนิด คือ ตีระนาด, สีซอ และเป่าขลุ่ยค่ะ พัทยาน้อย หรือ “ทะเลอีสานใต้” ตั้งอยู่ภายในพื้นที่อ่างเก็บน้ำของเขื่อนสิรินธร ซึ่งพัทยาน้อยเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ใช้สำหรับพักผ่อนหย่อนใจ, กินอาหาร และเล่นน้ำ โดยมีร้านอาหารแบบเรือนแพเรียงรายเยอะแยะมากมาย แถมบางแพมีเครื่องเล่นน้ำแบบสวนน้ำอีกด้วย แต่ถ้าต้องการพักค้างคืน ที่พัทยาน้อยยังมีบ้านพักรับรองไว้สำหรับบริการนักท่องเที่ยวอีกด้วยค่ะ แนะนำว่าให้มาพักในช่วงฤดูหนาว เพราะอากาศจะเย็นสบายและได้มองวิวทิวทัศน์สวย ๆ แบบไม่ต้องหลบแดดหลบฝนเลยค่ะ📍 ปักหมุดได้ที่: เขื่อนสิรินธร 30 หมู่ที่ 11 ต.นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย อ.สิรินธร จ.อุบลราชธานี 34350🚘 GPS: https://goo.gl/maps/2fQGAoXPU7wLLNZ58📞 โทร: 04-536-6081🏡 เปิด: ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 - 18.00 น.12. วัดสิรินธรวรารามภูพร้าว “วัดสิรินธรวรารามภูพร้าว” ตั้งอยู่บนเนินเขาสูง อำเภอสิรินธร อุบลราชธานี ที่จำลองสภาพแวดล้อมของเขาไกรลาสหรือวัดป่าหิมพานต์ ซึ่งจุดเด่นของวัดแห่งนี้คือการได้ชมต้นไม้เรืองแสงสีเขียวบนฝาผนังด้านหลังพระอุโบสถในยามค่ำคืน โดยต้นไม้เรืองแสงที่ว่านี้เป็นลวดลายจิตรกรรมต้นกัลปพฤกษ์ทาสารฟลูออเรสเซนต์หรือสารเรืองแสงไว้รอบ ๆ ต้น ทำให้สามารถเห็นต้นไม้เรืองแสงสีเขียวสวยงามได้เฉพาะในเวลากลางคืน หลังพระอาทิตย์ลาลับขอบฟ้าไปแล้วเท่านั้นค่ะ นอกจากนั้นภายในพระอุโบสถสีปัดทองยังมีพระประธานตั้งอยู่ตรงกลางอีกด้วย ซึ่งพระประธานมีลักษณะคล้ายกับพระพุทธชินราชในจังหวัดพิษณุโลก เพียงแต่จะนำส่วนรัศมีออกเพื่อให้ดูกลมกลืนกันมากยิ่งขึ้น โดยฉากหลังของพระประธานทำเป็นต้นโพธิ์และติดด้วยแผ่นพระทองไว้ตรงเบื้องบนค่ะ หากต้องการมาเที่ยวชม ควรมาชมในช่วงเดือนมืดและช่วงเช้าเวลา 06.00 น. กับช่วงเย็นเวลา 19.30 น. ส่วนคนที่ชื่นชอบการถ่ายภาพ แนะนำว่าให้นำกล้องถ่ายรูปมาดีกว่าค่ะ📍 ปักหมุดได้ที่: วัดสิรินธรวราราม 99 ต.ช่องเม็ก อ.สิรินธร จ.อุบลราชธานี 34350 🚘 GPS: https://goo.gl/maps/AYDaaohpXZisbeJV7📞 โทร: ททท.อุบลราชธานี 04-524-3770🏡 เปิด: ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.00 - 21.00 น. เห็นมั้ยคะว่า... จังหวัดอุบลราชธานีมีสถานที่ท่องเที่ยวที่ต้องเที่ยวชมตั้งหลายแห่ง หากใครมาทำธุระที่จังหวัดนี้แล้วมีโอกาสหรือมีเวลามากพอก็อย่าลืมแวะไปเที่ยวชมกันได้นะคะ รับรองว่าเพื่อน ๆ จะประทับใจไม่รู้ลืมเลยล่ะค่ะ 😊😊😊 Credit ภาพหน้าปก, ภาพประกอบบทความโดย: Canva, Windy_55 (ผู้เขียน)วันลาเหลือใช่ไหม อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !