เบื่ออะ อยากไปเที่ยว!! ประโยคนึงที่พุดขึ้นมากลางวงกินข้าวในตอนเย็น กับเพื่อนสามคนในตอนนั้น ใครเคยเป็นบ้าง? เราเชื่อว่าหลายคนเลยละที่มักจะพูดกันแต่จะมีใครบ้าง ที่ตกลงไปกันในทันที!! แต่กุมีเงินแค่500 นะ... ได้!!! มีเท่าไหร่ก็ไปเท่านั้นเราจึงตกลงที่ทริปนี้มีกองกลางคนละ500 บาท แต่จะไปที่ไหนละ เป็นคำถามที่มีคำตอบอยู่แล้ว นั่นคือ น้ำตกเอราวัณ ข้อมูลที่มีอยู่ในหัวเกี่ยวกับสถานที่นี้มีน้อยมากๆ เรื่องเวลาการเดินทางต่างๆเอาไว้ก่อนค่อยคิด. ขอแค่ได้ไปเที่ยวก็สบายใจแล้ว แน่นอน.... ทริปนี้เริ่มขึ้นในเช้าวัน เริ่มต้นกันที่วินรถตู้มีนบุรี-อนุสาวรีย์ ในเวลาเกือบๆเจ็ดโมง เรานั่งรถไปถึงอนุสาวรีย์ เราถึงอนุสาวรีย์ แปดโมงโดยประมาณ จึงรีบเร่งเดินไปที่วินรถตู้กาญจนบุรี ซื้อตั๋ว3 ใบ พร้อมกระโดดขึ้นรถใช้เวลาไม่นานรถก็ออกจากกทม เข้าการเดินทางในวันนี้ ความตื่นเต้นพุ่งกระฉูด55555 ผ่านไปสามชั่วโมงกว่าๆก็มาถึงแล้วกาญจนบุรีที่รอคอย เดินลงจากรถตู้แบบงงๆ แต่ก็ไม่นักกับการหารถไปต่อ. เราเลยเดินไปถามลุงแถวนั้นกันว่าจะไปน้ำตกเอราวัณได้ยังไง ลุงจึงชี้ไปที่วินรถหวานเย็น นั้นไงถึงน้ำตกเลย แต่รอบต่อไปคือ12.30 ใช่ค่ะเรามีเวลาเหลือเลยเดินหาของกิน ตุนกันเรื่อยๆก็ได้เวลาขึ้นรถหวานเย็นแล้ว เป็นครั้งแรกเลยที่เจอฝนั่งเยอะขนาดนี้ บนรถมีคนไทยแค่5 คนเท่านั่น. ใช้เวลาเดินชั่วโมงกว่าเราก็มาถึงแล้วค่ะ. น้ำตกเอราวัณ ถือว่าเป็นการเดินทางที่ค่อนข้างจะสะดวกมากๆ เราเดินเข้ามาด้านใน มีทั้งรถกอล์ฟคอยให้บริการ แต่เรางก555 จึงเลือกที่จะเดินเข้าไป เดินไปเรื่อยๆ ใช่ค่ะ คนไทยแทบจะไม่มีเลย เราเดินมาถึงที่ชั้น1 ถึงกับต้องร้องว๊าวเพราะว่าสวยมากๆ น้ำสีฟ้า ตัดกับสีเขียวของต้นไม้ มันสวยและธรรมชาติมากๆ แต่ในน้ำนั่นก็มีปลาเยอะเหมือนกันเราแวะถ่ายที่ชั้นนี้แปปเดียวเพราะเป้าหมายเราคือชั้น7 ก่อนที่จะเดินขึ้นไปที่2-7 นั้นจะต้องมีการลงทะเบียนขวดน้ำอละมีค่ามีดจำขวดน้ำที่นำติดตัวไปด้วย พวกเราจ่ายเงินเรียบร้อยก็ออกเดินทางไปเรื่อยๆ. ข้างทางนั่นมีทั้งทางที่สบายและทางชัน และน่ากลัวโดยเฉพาะ เดินผ่านชุดไทยที่ไว้ตรงข้างต้นไม้ เราเดินสลับกับการนั่งพัก จนต้องตัดสินใจกัน ว่าจะหยุดอยู่แค่ชั้นเพราะเวลาเหลือน้อยแล้ว รถเที่ยวสุดท้าย 16.00 น เราสามคนตั้งใจจะมาเล่นน้ำตก แต่ก็ต้องอดเพราะสู้พลังของปลาพลวงหินไม่ไหว 555555 น้องกัดไม่เจ็บแต่ตกใจมากกว่าเลยเลือกที่จะนั่งเล่นเท้าแช่น้ำก็พอ. พอน้องมาตอดก็ตกใจ พวกเรานั้งเล่นคุยกันสักพักก็นึกขึ้นได้ว่า จะเลยเวลาที่จะกลับแล้ว เลยรีบเดินลงมาอย่างไว. แวะอาบน้ำล้างเหงื่อให้สบายใจ. เดินเล่น อีกเส้นทางของอุทยานมาเรื่อยๆ. ใช่ค่ะเราตกรถกลับสถานนีขนส่ง !!! เรายื่นงง กันอยู่สักพักนึง ในหัวนั่นไม่มีอะไรเลย. ไม่ได้วางแผนเรื่องนี้ไว้เลย ทำยังไงดี เราสามคนสลับกันพูดขึ้นมา. แต่จู่ๆก็ได้ยินเสียงเรียก เธอๆ. ตกรถหวานเย็นใช่ไหม เรามารถคันเดียวกันไง เรา :: อ่อ........ เธอ :: เราว่านะ เราลองถามคนที่กำลังจะกลับออกไปไหม. ขอติดรถออกไป. กัน เรา :: ได้แต่ทำหน้าอึน. เพราะในชีวิตไม่เคยอยู่ในสถานะการณ์แบบนี้เลย เธอ :: ผู้กล้า. เดินตรงไปยังลานจอดรถ เรา :: ลุกตามให้ไว เธอ :: พี่ค่ะๆ. พี่ผ่านตัวเมืองไหมค่ะ พวกหนูตกรถ ไม่มีรถกลับ มีกัน5 คน. พี่ผู้ใจดี :: ได้ครับ พี่ผ่านอยู่แล้ว พี่จะกลับราชบุรี พวกเรา 5 คนกระโดด ขึ้นหลังกระบะรถ อย่างไว เรา5 คนแนะนำตัวกันเสร็จสรรพพร้อมกับแลกเฟสบุ๊คกันไว้ ทั้งห้าคนไม่มีใครคิดถึงเรื่องรถหมดเลย เพราะเส้นทางในน้ำตกเอราวัณนั่นทั้งสวย เย็นสบาย ทำให้พวกเราเพลิดเพลินจนลืมเรื่องเวลาไป. เวลาผ่านไปเร็วพี่ผู้ใจดี. พาพวกเรามาส่งถึงที่สถานีขนส่งกาญจนบุรี. พวกเราห้าคนไม่ลืมที่จะขอบคุณพี่ผู้ใจดีท่านนี้. เธอกับอีกคน ขอตัวแยกย้ายไปเที่ยวในตัวเมืองต่อเหลือเราสามคนเท่าเดิมเลยเดินไปนลาดแวะเติมพลังสุดท้ายก็กลับกทม เป็นอีกหนึ่งทริปที่ในชีวิตนี้จะไม่ลืมเลย มิตรภาพที่เกิดขึ้นระหว่างทาง น้ำใจที่คนไทยที่หาได้ไม่ยากนัก ความสุขใจที่ได้เดินทางกับเพื่อน ธรรมชาติที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอแต่ความมีเสน่ห์นั้นก็ยากที่จะลืมคงต้องแวะกลับเติมมันอีก โควิดจบเมื่อไหร่คงได้มีทริปแบบนี้เกิดขึ้นอีกแน่ๆ