สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ทุกคน! วันนี้ขอพาทุกคนมาทำความรู้จักกับนิทรรศการสุดพิเศษที่กำลังเป็นที่พูดถึงอยู่ในโลกโซเชียลตอนนี้กันนะคะ กับ "พาใจกลับบ้าน HOMECOMING" นิทรรศการที่ออกแบบมาเพื่อให้เราได้ไปฮีลใจโดยเฉพาะ สำหรับเพื่อนๆ คนไหนที่รู้สึกเหนื่อยล้าหรือเครียดจากชีวิตประจำวัน ที่นี่คือพื้นที่ที่เพื่อนๆ จะได้พาใจของตัวเองกลับมาสงบและผ่อนคลายอีกครั้งค่ะ บรรยากาศภายในนิทรรศการถูกออกแบบให้เราได้เชื่อมต่อกับความรู้สึกภายในอย่างลึกซึ้ง ถ้าเพื่อนๆ กำลังมองหาสถานที่ที่จะเติมพลังใจให้ตัวเอง HOMECOMING อาจเป็นคำตอบที่เพื่อนๆไม่ควรพลาดเลยค่ะ รีวิว "พาใจกลับบ้าน HOMECOMING" นิทรรศการฮีลใจที่คุณต้องไปสัมผัส เมื่อเดินทางมาถึง ซีคอนสแควร์ ศรีนครินทร์ ก็ให้ขึ้นไปที่ชั้น 2 ได้เลยนะคะ จะมีจุดลงทะเบียนให้เราได้เช็คอินก่อนเข้างานค่ะ ถ้าเพื่อนๆ คนไหนยังไม่มีบัตรเข้างานก็สามารถซื้อได้ที่หน้างานในราคา 200 บาท หรือจะซื้อผ่านเว็บไซต์ eventpop ก็ได้เช่นกันค่ะ สะดวกมากๆ นิทรรศการจะเปิดให้เข้าชมตั้งแต่เวลา 11.00 น. - 20.00 น. ถ้าให้แนะนำจริงๆ มาชมในวันธรรมดาจะดีกว่าค่ะ เพราะคนจะน้อยกว่า MiddleKlin ไปชมในช่วงเย็นๆ ของวันธรรมดา บรรยากาศค่อนข้างเงียบสงบ ทำให้เราสามารถซึมซับผลงานในนิทรรศการได้อย่างเต็มที่มากขึ้นค่ะ หลังจากลงทะเบียนเสร็จเรียบร้อยแล้ว พี่ๆเจ้าหน้าที่จะมอบกุญแจล็อกเกอร์ให้เรา 1 ดอกนะคะ ไว้สำหรับเก็บของใช้ส่วนตัวของเราในตู้ล็อกเกอร์ เนื่องจากภายในงานจะไม่อนุญาตให้นำอาหารหรือเครื่องดื่มเข้าไป รวมถึงกระเป๋าใบใหญ่ๆ เพื่อป้องกันการหล่นหายของสิ่งของมีค่าค่ะ แต่อนุญาตให้นำโทรศัพท์มือถือเข้าไปถ่ายภาพบรรยากาศภายในงานได้นะคะแต่ต้องปิดแฟลชป้องกันการรบกวนผู้ร่วมงานคนอื่นในนิทรรศการค่ะ มาเริ่มกันที่ห้องแรกเลยค่ะกับห้อง "วางสัมภาระ" ห้องนี้จะเป็นห้องเดี๋ยวกันกับห้องที่มีล็อกเกอร์ค่ะ จะมีจุดให้เราล้างเท้าก่อนเข้างานด้วยนะคะบอกเลยว่าทำดีมากๆ ล้างเท้าแบบฟินสุดๆนั่งล้างเท้าไปก็มีเพลงเปิดคลอเบาๆ ให้บรรยากาศผ่อนคลายสุดๆ แถมน้ำที่ใช้ล้างยังเย็นฉ่ำทำให้สดชื่นสุดๆ ที่ต้องล้างเท้าก่อน เพราะในงานนี้เราจะต้องเดินเท้าเปล่าตลอดทั้งงานเลยค่ะ มันให้ความรู้สึกแปลกใหม่ไปอีกแบบเป็นประสบการณ์ที่แตกต่างมากๆ ที่ได้เดินเท้าเปล่าและสัมผัสงานนิทรรศการแบบนี้ เมื่อเดินเข้ามาจะมีห้อง "ยินดีต้อนรับ" ที่ฉายข้อความต่างๆ บนกำแพงซึ่งบอกเลยว่าพออ่านแล้วมันช่างทัชใจเรามากๆ เลยค่ะ ทุกข้อความเหมือนเข้าถึงความรู้สึกของเราได้จริงๆ แค่ได้อยู่ในห้องนี้ก็เหมือนกับเราได้ใช้เวลาทบทวนตัวเองแล้วค่ะ เหมือนเป็นพื้นที่ให้เราได้หยุดคิดและไตร่ตรองเกี่ยวกับชีวิตและความรู้สึกของตัวเราเองในตอนนี้ด้วยค่ะ จากนั้นก็มาที่ห้อง "สำรวจ" กันต่อเลยค่ะห้องนี้น่าสนใจมากๆ เพราะเป็นพื้นที่ที่ให้เราได้ลองมองย้อนกลับมาสำรวจตัวตนและอารมณ์ของเราเอง ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในใจเรามาจากอะไรบ้างภายในห้องจะมีแบบทดสอบให้เราได้ลองทำ เพื่อให้เราสแกนตัวเองอย่างลึกซึ้ง รู้สึกเหมือนกับว่าเราได้เปิดโอกาสให้ตัวเองทำความเข้าใจความรู้สึกและตัวตนของเราในแบบที่ไม่เคยทำมาก่อนเลยค่ะ มาต่อกันที่ห้องที่ 4 กับห้อง "โอบรับ" ห้องนี้ให้ความรู้สึกเหมือนเราหลุดเข้ามาในอีกโลกหนึ่งเลยค่ะ เสียงเพลงที่เปิดคลอเบาๆ ทำให้บรรยากาศรอบตัวเราชวนให้นึกถึงการเดินอยู่ในป่าจริงๆ ภายในห้องจะมีเปลผ้าให้เราได้นั่งด้วยนะคะ พอได้นั่งเปลแล้วรู้สึกอบอุ่นและผ่อนคลายมาก บรรยากาศรอบตัวตอนนั้นทำให้เรารู้สึกเหมือนตัวเราเล็กลงไปเลย เหมือนมีอะไรบางอย่างคอยห่อหุ้มเราไว้ให้ความรู้สึกที่ปลอดภัยเป็นความอบอุ่นที่อธิบายไม่ถูกเลยค่ะ นอกจากนี้ต้นไม้ทุกต้นในห้องเรายังสามารถเข้าไปโอบกอดได้นะคะฟินสุดๆ ห้อง "เฝ้าดู" นี่บอกเลยค่ะว่าเป็นห้องที่ให้ความรู้สึกย้อนวัยสุดๆ เหมือนเราได้กลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง ทั้งความสนุกและความสงบถูกผสมผสานกันอยู่ในห้องเดียวได้อย่างลงตัวเลยค่ะ ภายในห้องจะมีบ่อลูกบอลพลาสติกสีขาวปนกับลูกบอลสีน้ำเงินที่แต่ละลูกจะมีข้อความซึ้งๆ ให้เราได้ค้นหาและอ่านตามความรู้สึกและการตีความของแต่ละคนแตกต่างกันออกไปค่ะ สำหรับเราห้องนี้กินเวลาพอสมควรเลยเพราะเราทั้งนั่งเล่น นอนเล่น แล้วก็อ่านข้อความบนลูกบอลไปเรื่อยๆ ยิ่งตอนนอนฟังเสียงน้ำไหลในบรรยากาศสงบๆ แล้วแทบอยากจะนอนอยู่ในนั้นไปนานๆ เลยค่ะ 555 แล้วก็มาถึงห้องที่เรารู้สึกชอบที่สุดและใช้เวลาอยู่นานที่สุดนั่นก็คือห้อง "ข้ามผ่าน" ค่ะ ตอนแรกที่มองผ่านๆ ห้องนี้ไม่ได้ดูว้าวเท่ากับห้องอื่นๆ ที่ผ่านมา บรรยากาศเหมือนเราได้นั่งล้อมรอบกองไฟในคืนที่เงียบสงบ ก่อนเข้าห้องเค้าจะมีหูฟังให้เราสวมใส่ด้วยนะคะกิมมิคของห้องนี้อยู่ตรงนี้เลยค่ะ พอใส่หูฟังแล้วมันทำให้เรารู้สึกเหมือนมีคนมานั่งล้อมวงรอบเราแล้วเล่าเรื่องราวต่างๆ ให้เราฟัง แต่ละเรื่องคือทัชใจมากๆ บางเรื่องตรงกับชีวิตเรา บางเรื่องก็ทำให้รู้สึกสงสารคนที่เล่ามากๆ มันเป็นช่วงเวลาที่เราทบทวนตัวเองและรู้สึกภูมิใจที่เราผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากมาได้ ถ้าเพื่อนๆ คนไหนเป็นโรคซึมเศร้าไม่แนะนำให้นั่งฟังคนเดียวนะคะ แต่ถ้าใครพร้อมจะฟังขอแนะนำให้ฟังทุกเรื่องราวเพราะมันจะเปิดมุมมองใหม่ๆ ให้กับเราแถมเพลงที่เปิดคลอในห้องก็ซึ้งกินใจสุดๆ ค่ะ มาถึงห้องสุดท้ายกันแล้วค่ะกับห้อง "ตกผลึก" ห้องนี้เป็นพื้นที่ที่เพื่อนๆ จะได้มีโอกาสแชร์ความรู้สึกและความคิดเห็นของตัวเองลงไปในกระบะทรายหรือหินก้อนน้อยๆที่สามารถเขียนข้อความก็ได้ค่ะ เพื่อฝากเรื่องราวและความคิดของเราไว้ให้คนอื่นๆ ที่มาเยี่ยมชมนิทรรศการได้เห็น ต่อให้ไม่ได้เห็นหน้ากันแต่เราสามารถส่งผ่านความรู้สึกถึงกันได้ค่ะ เป็นการปิดท้ายการเดินทางของเราภายในนิทรรศการนี้ด้วยความรู้สึกที่อิ่มเอม และเชื่อมต่อกับผู้อื่นผ่านความคิดและอารมณ์ที่เราได้ถ่ายทอดลงบนทรายกับหินค่ะ จบกันไปแล้วนะคะกับการรีวิว 7 ห้องจากนิทรรศการ "พาใจกลับบ้าน HOMECOMING" ที่ต้องบอกเพื่อนๆ เลยว่าไปเถอะค่ะไปลองสัมผัสได้ด้วยตัวเองมันดีมากจริงๆ แต่ละห้องมีบรรยากาศเฉพาะตัวและกระดานให้เราได้แชร์ความรู้สึกของเราลงไปเป็นพื้นที่ที่อบอุ่นและสะท้อนใจของเราสุดๆ ใครจะคิดว่าการเดินในนิทรรศการเพียง 7 ห้องจะกินเวลานานขนาดนี้ แต่ MiddleKlin ใช้เวลาไปกว่า 2 ชั่วโมงกว่าๆเลยค่ะ นอกจากนี้ที่หน้างานยังมีตู้กาชาปองให้เพื่อนๆ ได้สะสมเข็มกลัดของนิทรรศการกันในราคาแค่ 60 บาทเท่านั้นเองด้วยนะคะน่ารักสุดๆ อย่าลืมแวะไปกันเยอะๆ นร้า งานนี้จัดยาวข้ามปีถึงวันที่ 30 ก.ค. 2568 เลยค่ะ สำหรับวันนี้ MiddleKlin ต้องขอลาไปก่อน ไว้เจอกันใหม่ในบทความหน้านะคะ บ๊ายบาย... ❤️❤️❤️ เครดิต รูปภาพและเนื้อหาโดย MiddleKlin เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !