รีเซต

กพท. ไฟเขียว สายการบินโลว์คอสขึ้นค่าตั๋วได้ 100% ผู้โดยสารห้ามถอดหน้ากาก

กพท. ไฟเขียว สายการบินโลว์คอสขึ้นค่าตั๋วได้ 100% ผู้โดยสารห้ามถอดหน้ากาก
Muzika
24 เมษายน 2563 ( 16:50 )
1.2K
1

     สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) เปิดเผยภายหลังหารือร่วมกับตัวแทนสายการบินสัญชาติไทย และสายการบินต่างชาติ กว่า 20 สายการบินมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรการควบคุมโรค เพื่อให้เกิดความความพร้อมในการกลับมาเปิดให้บริการในวันที่ 1 พฤษภาคม 2563 หลังจากที่ก่อนหน้านี้สายการบินส่วนใหญ่ได้ประกาศหยุดให้บริการชั่วคราว เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรค โควิด-19 COVID-19

 

 

     ทั้งนี้ เป็นการหารือเพื่อนำมาตรการสาธารณสุขเข้ามาบังคับใช้กับสายการบินที่จะทำเริ่มทำการบินเที่ยวบินในประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. นี้ ซึ่งประกอบด้วย 2 สายการบินคือ แอร์เอเชีย และไทยไลอ้อนแอร์ โดยกพท.เตรียมที่จะออกประกาศมาตรการสาธารณะสุขเพื่อใช้ในการทำการบินกับสายการบิน โดยจะมีการกำหนดมาตรการ ดังนี้

 

  1. กำหนดให้สายการบินที่มีเครื่องขนาดใหญ่ ต้องขายตั๋วโดยสารในลักษณะที่นั่งเว้นที่นั่ง เพื่อรักษาระยะห่างตามมาตรฐานการป้องกันการแพร่ระบาด ส่วนสายการบินที่มีเครื่องบินขนาดเล็กหรือเครื่องใบพัด กำหนดให้ขายตั๋วโดยสารได้เพียง 70% ของที่นั่งที่มีอยู่จริง

    ทั้งนี้ ยอมรับว่าการปรับลดจำนวนที่นั่งบนเที่ยวบินทำให้ต้นทุนการขนส่งของสายการบินเพิ่มขึ้น ดังนั้นหากสายการบินจะมีการปรับขึ้นราคาบัตรโดยสารก็สามารถทำได้ แต่ปรับได้สูงสุดไม่เกิน 9.40 บาท/กิโลเมตร ซึ่งโลว์คอสส่วนใหญ่จำหน่ายบัตรโดยสารราคาต่ำ เพียง4-5บาท/กิโลเมตรเท่านั้น หมายถึง สามารถปรับขึ้นราคาได้ 100% หรือไม่เกินเพดาน 9.40 บาท แต่เชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อผู้โดยสารมากนัก เนื่องจากปัจจุบันมีปริมาณการเดินทางไม่มาก คนที่อาจะได้รับผลกระทบจะเป็นเฉพาะกลุ่มผู้โดยสารที่มีความจำเป็นต้องเดินทางเท่านั้น

  2. ให้มีการจัดระเบียบการรักษาระยะห่างของผู้โดยสาร ตั้งแต่เดินทางเข้ามาภายในสนามบินไปจนถึงการขึ้นเครื่องบิน โดยเตรียมประสานไปยังสนามบินให้จัดระเบียบการรักษาระยะห่าง ตั้งแต่ขั้นตอนการต่อคิวซื้อตั๋ว ออกบัตร โดยสาร ยืนรอการตรวจค้น การใช้สะพานเทียบเครื่องบินรอขึ้นเครื่อง การใช้บัสเกตขึ้นรถต่อไปขึ้นเครื่องบินภายในรถต้องมีการจัดที่นั่งแบบเว้นระยะห่างกันอย่างน้อย 1 เมตรด้วย ซึ่งสนามบินอาจจะตองมีการจัดรถเข้ามาเสริมมากขึ้น

  3. งดการให้บริการอาหาร และเครื่องดื่มบนเที่ยวบิน เพราะการบริโภคต้องมีการเปิดหน้ากากอนามัยอาจ ทำให้เกิดการแพร่เชื้อได้ รวมทั้งจะไม่มีบริการจำหน่ายอาหารบนเครื่องบิน และไม่อนุญาตให้ผู้โดยสารนำอาหารและเครื่องดื่มขึ้นมาบริโภคบนเครื่องบิน กรณีที่ผู้โดยสารต้องการใช้น้ำ เช่นการกินยานั้นจะต้องแจ้งลูกเรือเป็นกรณีพิเศษ ลูกเรือจะมีการจัดพื้นที่พิเศษไว้บริเวณท้ายเครื่องบินเพื่อให้ผู้โดยสารกินน้ำ ทั้งนี้เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาด

  4. กำหนดให้ลูกเรือต้องสวมใส่หน้ากากอนามัย ถุงมือ และ Face shield ส่วนผู้โดยสารต้องรับผิดชอบสวมใส่หน้ากากอนามัยมาเองและใส่ตลอดเวลาการเดินทาง

  5. กำหนดให้ผู้โดยสารจะต้องสวมหน้ากากอนามัยเริ่มตั้งแต่เข้าสู่สนามบินจนถึงตลอดการเดินทาง หากพบผู้โดยสารไม่สวมหน้าหากอนามัยสายการบินสามารถปฏิเสธการออกบัตรโดยสาร หรือห้ามไม่ให้ขึ้นเครื่องบินได้ รวมทั้งมีอำนาจในการบังคับให้สวมหน้ากากอนามัยด้วย

  6. สำหรับสายการบินที่มีเส้นทางการบินที่มีระยะเวลาการบินเกินกว่า 90 นาที สายการบินจะต้องกันที่นั่งแถวหลังไว้พิเศษสำหรับแยกผู้โดยสารที่มีอาการน่าสงสัยระหว่างเที่ยวบิน ด้วย

 

     สำหรับเที่ยวบินระหว่างประเทศนั้น ขณะนี้ยังไม่มีสายการบินไหนแจ้งขอเปิดทำการบิน เนื่องจากปัจจุบันรัฐบาลมีการออกพ.ร.ก.ฉุกเฉินห้ามเที่ยวบินระหว่างประเทศเข้าไทยจนถึงวันที่ 30 เม.ย. ซึ่งก็ต้องรอดูการประเมินของรัฐบาลหากรัฐมีการขยายเวลา พ.ร.ก.ฉุกเฉินออกไปอีก กพท.ก็อาจจะต้องขยายระยะเวลาห้ามบินเข้า-ออกไปอีก

===============