วัดหงษ์ทอง เป็นวัดที่มีความโดดเด่นและสวยงาม เดิมทีนั้นเป็นเพียงสำนักสงฆ์โดยมี หลวงปู่ปานวัดคลองด่าน ได้เริ่มก่อตั้งเป็นสำนักสงฆ์เมื่อปี พ.ศ. 2510 ต่อมามีบริษัทเอกชนได้ซื้อที่ดินแห่งนี้ไป แต่ด้วยความพยายามของ "นายปราชญ์ ศรนิล" ซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้านในขณะนั้น รวมถึงชาวบ้าน ได้เจรจาขอซื้อที่ดินคืนจากบริษัทเอกชน พัฒนาและก่อสร้างร่วมกันจนได้กลายเป็น "วัดหงษ์ทอง" ถึงทุกวันนี้ แรกเริ่มนั้นวัดแห่งนี้มีชื่อว่า "วัดพระปฐมหลวงปู่ปานอุปถัมภ์" แต่ได้มีการเปลี่ยนชื่อภายหลังเป็น วัดหงษ์ทอง เพื่อให้สอดคล้องกับชื่อคลองในละแวกนั้นก็คือ "คลองวัดหงษ์ทอง" วัดหงษ์ทองมี พระครูปรีชาประภากร พระอธิการปราชญ์ ปภากโร" เป็นเจ้าอาวาสวัดตั้งแต่ประมาณปี พ.ศ. 2534 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งเจ้าอาวาสองค์ปัจจุบันนี้ก็คือ นายปราชญ์ ศรนิล ในอดีต ซึ่งท่านได้อุปสมบทตั้งแต่ปี พ.ศ. 2526 เป็นผู้ที่มีส่วนสำคัญในการก่อสร้างและพัฒนาวัดหงษ์ทองแห่งนี้ วัดหงษ์ทองยังไม่เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวและศาสนิกชนเท่าไหร่นักในช่วงแรกของการพัฒนาวัด พึ่งจะเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวก็ตอนที่สร้างพระเจดีย์เสร็จนี่เอง ด้วยลักษณะที่โดดเด่นทำให้มีนักท่องเที่ยวนั้นให้ความสนใจและไปเที่ยวชม โดยพระเจดีย์นั้นมีชื่อว่า " พระธาตุคงคามหาเจดีย์ ปรีชาประภากร ปราชญ์ ศรนิล อนุสรณ์" สร้างเสร็จเมื่อประมาณ พ.ศ. 2542 ลักษณะเด่นก็คือ เป็นเจดีย์ที่สร้างยื่นออกไปกลางทะเล ทำให้มองเห็นวิวทิวทัศน์ของทะเลและป่าชายเลนรอบบริเวณนั้น เป็นบริเวณที่ถ่ายรูปออกมาแล้วสวยงามมาก พระเจดีย์แห่งนี้ถือได้ว่าเป็นซิกเนเจอร์ของวัดหงษ์ทองเลยก็ว่าได้ เพราะถ้าหากพูดถึงวัดหงษ์ทองแล้วละก็หลายคนก็จะนึกถึงพระเจดีย์กลางทะเลแห่งนี้ ติดกับพระเจดีย์ก็จะเป็นโบสถ์ นักท่องเที่ยวและศาสนิกชนสามารถเข้าไปกราบสักการะพระพุทธรูปด้านไหนได้ พระธาตุคงคามหาเจดีย์ มีด้วยกัน 3 ชั้น ชั้นล่างสุด จะเป็นที่ประดิษฐานหลวงพ่อพุทธโสธรจำลอง สำหรับให้ศาสนิกชนได้สักการะ กราบไหว้ ชั้นที่สอง จะมีหุ่นขี้ผึ้งรูปเหมือนจริงของพระเกจิชื่อดัง พระแก้วมรกตจำลอง และยังมีภาพวาดของพระมหากษัตริย์ไทยในแต่ละรัชกาล ที่ชั้นสองนี้จะเป็นจุดที่ถ่ายรูปออกมาแล้วสวยมากถ้าหากว่าถ่ายในวันที่น้ำขึ้นจะรู้สึกเหมือนเจดีย์ลอยอยู่กลางน้ำ ต่อมาจะเป็นชั้นที่สาม ชั้นนี้จะมีพระบรมสารีริกธาตุอยู่ภายในมีโดมของเจดีย์ครอบไว้ และ จะเห็นเจดีย์สีเหลืองอร่าม งดงาม เมื่อออกมาเดินชมอยู่ด้านรอบนอก นอกจากพระธาตุคงคามหาเจดีย์และโบสถ์กลางทะเลแล้ว ก็ยังมี "ศูนย์พัฒนาจิต ศาลาปฏิบัติธรรมกรรมฐาน ศรนิล อนุสรณ์" เดินออกมาอีกนิดหน่อย ก็จะเจอศาลาซึ่งสามารถถวายสังฆทาน ณ บริเวณนี้ได้ นอกจากนี้ทางวัดก็ยังก่อสร้างตึกใหม่ขึ้นมาเพิ่ม ชื่อว่า "อาคารกตัญญู" ซึ่งตึกนี้จะใช้ สำหรับปฏิบัติธรรม ประดิษฐานพระพุทธรูป และ บรรจุอัฐิ โดยอาคารนั้นจะมีความสูงถึง 15 ชั้นเลยทีเดียว สำหรับใครที่ไม่เคยไปเที่ยวก็หาเวลาว่างไปเที่ยว สักการะ ชมบรรยากาศ และทำบุญได้เลย รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอนกับวิวทิวทัศน์ บรรยากาศของวัดหงษ์ทองแห่งนี้ พิกัด : วัดหงษ์ทอง หมู่ที่ 9 ถนนสุขุมวิทสายเก่า ตำบลสองคลอง อำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม เบอร์โทรศัพท์ : 038-090099 , 083-294337 ภาพถ่ายปกและภาพถ่ายในบทความโดยผู้เขียน