หากคุณกำลังมองหามุมสงบที่ยังคงกลิ่นอายของอดีตท่ามกลางเมืองที่ไม่เคยหลับใหล “ถนนพระอาทิตย์” อาจเป็นคำตอบที่คุณกำลังหาอยู่ ที่นี่เต็มไปด้วยเสน่ห์และเรื่องราวน่าค้นหา ไม่ว่าจะเป็นสายลมเย็นริมแม่น้ำ ร้านกาแฟเล็ก ๆ และกลิ่นอายประวัติศาสตร์ ไม่ว่าคุณจะอยากเดินเล่น พักผ่อน มาเดทกับคนรัก หรือซึมซับประวัติศาสตร์ ที่นี่ก็ตอบโจทย์ แล้วจะเดินทางมายังไงดี? มาดูกันเลย! เส้นทางสู่ถนนพระอาทิตย์: เดินทางง่าย ๆ ได้ทุกวิธี ถนนพระอาทิตย์ ตั้งอยู่ในเขตพระนครและใกล้กับป้อมพระสุเมรุ ที่นี่สามารถเข้าถึงได้ง่าย เพราะมีวิธีการเดินทางที่หลากหลายให้เลือก ไม่ว่าจะเป็นรถสาธารณะ รถส่วนตัว หรือทางเรือ สำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางด้วยรถประจำทาง มีสายรถที่ผ่านถนนพระอาทิตย์ ได้แก่ 3, 6, 9, 15, 30, 32, 33, 46, 53, 64, 65, 82, 524, A4 และ S1 ซึ่งสามารถลงที่ป้ายใกล้จุดหมายแล้วเดินต่อไปอีกเพียงเล็กน้อย สำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางด้วยเรือด่วนเจ้าพระยา ก็สามารถนั่งเรือธงส้มและลงที่ท่าพระอาทิตย์ได้ โดยเรือให้บริการตั้งแต่ 06.00-18.30 น. สำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สามารถเลือกลงที่สถานีสนามไชย, สามยอด หรือบางยี่ขัน แล้วต่อรถแท็กซี่หรือรถโดยสารสาธารณะไปยังถนนพระอาทิตย์ได้เลย จุดเช็กอินสุดคูลที่ไม่ควรพลาด เมื่อคุณเดินทางมาถึงถนนพระอาทิตย์แล้ว ก็ถึงเวลาสำรวจเสน่ห์ของที่นี่ให้เต็มที่ ที่นี่มีมุมเด็ด ๆ ให้ได้เช็กอินกันเพียบ แล้วสถานที่ที่ไม่ควรพลาดมีที่ไหนบ้าง ไปดูกันเลย! ท่าพระอาทิตย์ จุดเช็กอินแรก นั่นคือ ท่าพระอาทิตย์ เป็นท่าเรือริมแม่น้ำเจ้าพระยา ที่นี่เป็นจุดเชื่อมต่อสำคัญสำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางด้วยเรือด่วนเจ้าพระยา นักท่องเที่ยวและคนทำงานมักใช้ท่าเรือแห่งนี้เพื่อเดินทางเข้าสู่ใจกลางเมือง อีกทั้งบริเวณทางเข้าท่าเรือก็ยังมีร้านค้าและของฝากมากมายให้เลือกซื้อ ไม่ว่าจะเป็นกางเกงช้าง เครื่องประดับ รูปปั้นต่างๆ ซึ่งเป็นที่นิยมของคนไทยและต่างชาติอีกด้วย พิพิธบางลำพู จุดเช็กอินถัดไปที่ไม่ควรพลาดคือ พิพิธบางลำพู เป็นพิพิธภัณฑ์ที่นำเสนอประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของย่านบางลำพู ที่นี่มีการจัดแสดงข้าวของเครื่องใช้และเรื่องราวเกี่ยวกับชุมชนบางลำพูในอดีต บรรยากาศภายในพิพิธภัณฑ์ให้ความรู้สึกเงียบสงบ สบายๆ เหมือนคุณเดินอยู่ในบ้านยายที่เต็มไปด้วยเรื่องราวในอดีตที่น่าค้นหา หากคุณสนใจประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมไทย พิพิธบางลำพูก็เป็นสถานที่ที่ไม่ควรพลาด คุณสามารถเข้าชมชั้น 1 ได้ฟรี แต่หากต้องการขึ้นไปชั้น 2 จะมีค่าเข้าชม 30 บาทต่อคน สวนสันติชัยปราการและป้อมพระสุเมรุ จุดเช็กอินถัดไป นั่นคือ สวนสันติชัยปราการ เป็นสวนสาธารณะที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา และอยู่ใกล้กับ ป้อมพระสุเมรุ ซึ่งเป็นป้อมปราการเก่าแก่ที่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 1 ที่นี่เป็นสถานที่พักผ่อนที่เงียบสงบ ใกล้ชิดธรรมชาติและริมแม่น้ำเจ้าพระยา มองเห็นวิวสะพานพระรามแปดอีกด้วย ที่นี่เหมาะกับการมาปิกนิก อ่านหนังสือชิลๆ หรือชมวิวพระอาทิตย์ตก และให้ความรู้สึกถึงเรื่องราวประวัติศาสตร์ในอดีต หอศิลป์ ณ บ้านเจ้าพระยา จุดเช็กอินสุดท้ายที่ไม่ควรพลาดเลย นั่นคือ หอศิลป์ ณ บ้านเจ้าพระยา เป็นสถานที่จัดแสดงผลงานศิลปะ หลากหลายรูปแบบ ทั้งภาพวาด ประติมากรรม และงานศิลป์ร่วมสมัยของศิลปินไทยและต่างประเทศ หอศิลป์นี้ตั้งอยู่ในบ้านเก่าที่มีอายุกว่า 100 ปี ภายในหอศิลป์ คุณจะได้สัมผัสบรรยากาศที่ผสมผสานระหว่างความเก่าแก่และความทันสมัย ที่ให้คุณรู้สึกดื่มด่ำไปกับผลงานศิลปะเหล่านั้น หากคุณเป็นคนรักศิลปะก็ไม่ควรพลาดสถานที่แห่งนี้เลยทีเดียว ร้านเด็ดต้องไปตำ หลังจากที่เราเก็บจุดเช็คอินกันจนเต็มที่แล้ว ก็ถึงเวลาหาอะไรอร่อยๆ ทานกันบ้าง ย่านนี้มีร้านอาหารและคาเฟ่หลากหลายไม่แพ้ย่านอื่นเลย ทั้งริมถนนและซอยเล็กๆ ข้างทาง เต็มไปด้วยร้านเด็ดที่ต้องไปลอง ไม่ต้องห่วงเรื่องการหาของอร่อยทาน เพราะที่นี่มีให้เลือกเพียบ ถ้าอยากรู้ว่าร้านไหนเด็ดบ้าง ไปดูกันเลย! คุณแดงก๋วยจั๊บญวน ร้านแรกที่ไม่ไปไม่ได้เลย นั่นคือ คุณแดงก๋วยจั๊บญวน เป็นร้านที่ขึ้นชื่อในเรื่องก๋วยจั๊บญวน เส้นก๋วยจั๊บเหนียวนุ่ม น้ำซุปหอม รสชาติเข้มข้น กลมกล่อม ตอบโจทย์คนที่ชอบทานอาหารเส้น นอกจากนี้ที่นี่ก็ยังมีของทานเล่นที่น่าสนใจอย่าง ปอเปี๊ยะทอด และเมนูหมูยออีกด้วย และสำหรับใครที่เป็นสายซีรี่ย์อย่างเรื่อง " King the land " ต้องไม่ควรพลาดที่จะมาตามรอยเด็ดขาด!! ก๋วยเตี๋ยวเนื้อนายโส่ย ร้านถัดไป คือ ก๋วยเตี๋ยวเนื้อนายโส่ย เป็นร้านก๋วยเตี๋ยวที่ขึ้นชื่อในเรื่องของเนื้อคุณภาพดีและน้ำซุปที่เข้มข้น กลมกล่อม ตัวเนื้อที่ใช้มีทั้งเนื้อลาย เนื้อสด และลูกชิ้น ที่ต้มจนเปื่อยได้ที่ ร้านนี้เป็นที่รู้จักในหมู่คนรักก๋วยเตี๋ยวเนื้อด้วยรสชาติที่ลงตัวและราคาที่ไม่สูงเกินไป พัวกี่ อีกร้านที่ขอแนะนำเลย คือ พัวกี่ เป็นร้านเย็นตาโฟเก่าแก่กว่า 70 ปี ที่โดดเด่นด้วยน้ำซุปสูตรเฉพาะของร้านที่ทำเอง เย็นตาโฟร้านนี้มีความพิเศษตรงที่ใส่งางามเพิ่มความหอมและใช้เครื่องก๋วยเตี๋ยวที่คัดสรรมาอย่างดีจากเยาวราช นอกจากนี้ ที่นี่ยังมีเมนูอื่นๆ อีกมากมายที่น่าลอง ทั้งลูกชิ้นปลา ลูกชิ้นกุ้ง และเกี๊ยวกุ้ง ราคาก็ถือว่าไม่แพง สามารถจับต้องได้ อีกทั้งบรรยากาศภายในร้านก็ตกแต่งด้วยของโบราณ ดูสวยคลาสสิกสุดๆ จบของคาวแล้ว ก็ไปต่อกันที่ของหวาน ในย่านนี้มีร้านของหวานและคาเฟ่สุดฮิต ที่มีมุมถ่ายรูปเก๋ๆ คูลๆ เพียบ Coconut Culture ร้านแรกที่อยากแนะนำเลย นั่นคือ Coconut Culture เป็นร้านไอศกรีมกะทิหลากหลายรสชาติ พร้อมกับท็อปปิ้งสไตล์ไทยๆ ที่ทำให้เรานึกถึงอดีต ไม่ว่าจะเป็น วาฟเฟิลทองม้วน ข้าวเหนียวมูนและอื่นๆอีกมากมาย บรรยากาศที่นี่เต็มไปด้วยสีสันแต่ยังคงความคลาสสิกเอาไว้ ทำให้รู้สึกย้อนยุคเหมือนกลับไปในวันวาน ชวนให้นึกถึงความสนุกในวัยเด็กและความหวานของไอศกรีมกะทิที่เป็นของหวานยุคเก่า แม้ที่นี่จะมีการตกแต่งที่ทันสมัยแต่ก็ยังคงความเป็นอดีตในแบบที่อบอุ่นและเต็มไปด้วยความทรงจำ Pulse Phra Arthit ร้านถัดไปที่ไม่ควรพลาดนี้ อยู่ด้านบนชั้น 2 ของร้านที่กล่าวไปเมื่อครู่ นั่นคือ Pulse Phra Arthit เป็นคาเฟ่ดีไซน์สวยบนตึกเก่า บรรยากาศภายในร้านตกแต่งได้เก๋และคลาสสิกมากๆ จนกลายเป็นซิกเนเจอร์ของร้าน ให้ความรู้สึกอบอุ่น โฮมมี่ ผ่อนคลายเหมาะสำหรับการมาจิบเครื่องดื่มเบาๆ ฟังเพลงแบบชิลๆ ปล่อยตัวปล่อยใจ ดื่มด่ำไปกับบรรยากาศของร้าน H Cafe อีกหนึ่งร้านที่มีมุมถ่ายรูปสวยและติดท็อปบนโซเชียลคือ H Cafe Phra Athit Road คาเฟ่สุดเก๋ที่ตั้งอยู่ตรงข้ามป้อมพระสุเมรุ ซึ่งเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว บรรยากาศของที่นี่เป็นเอกลักษณ์มาก โดยเฉพาะวิวหน้าร้านที่สามารถมองเห็นป้อมพระสุเมรุได้อย่างใกล้ชิด ไม่ว่าคุณจะถ่ายรูปมุมไหนก็ได้ภาพสวยๆ แน่นอน อีกทั้งที่นี่ยังมีเมนูอาหารทั้งคาวและหวานให้เลือกทานครบครัน จึงถือว่าเป็นร้านที่มาครบจบได้ในที่เดียว ปิดท้ายสาระน่ารู้ กับ “ถนนพระอาทิตย์” ถนนพระอาทิตย์ เป็นหนึ่งในถนนเก่าแก่ของกรุงเทพฯ ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ ถนนนี้เริ่มก่อตั้งขึ้นในช่วงต้นรัตนโกสินทร์ โดยเป็นเส้นทางการค้าสำคัญระหว่างกรุงเทพฯ และอยุธยา สำหรับสภาพแวดล้อม ถนนพระอาทิตย์ ตั้งอยู่ในเขตพระนคร และเชื่อมต่อกับแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ เช่น ป้อมพระสุเมรุและแม่น้ำเจ้าพระยา สภาพแวดล้อมของถนนนี้เต็มไปด้วยคาเฟ่ ร้านอาหาร และสถานที่ทางประวัติศาสตร์ จุดเด่นของถนนพระอาทิตย์ คือ การผสมผสานระหว่างความเก่าแก่และความทันสมัย ที่นี่มีทั้งร้านคาเฟ่เก๋ๆ ร้านอาหารท้องถิ่น และสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ นอกจากนี้ที่นี่ยังเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของนักท่องเที่ยวและผู้คนในย่านนี้อีกด้วย ภาพประกอบทั้งหมดถ่ายโดย ผู้เขียน อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !