บรัสเซลส์ เมืองหลวงของประเทศเบลเยี่ยม เป็นอีกเมืองที่เราไปครั้งแรกแล้วไม่ประทับใจ เราไม่ค่อยชอบเที่ยวเมืองใหญ่ ๆ เพราะเป็นเมืองที่วุ่นวายเดินเล่นไม่ค่อยสนุก ต้องคอยระวังพวกมิจฉาชีพ ครั้งแรกที่เราไปบรัสเซลส์ คือปี 2008 และเราได้ไปบรัสเซลส์อีกครั้งสิบปีหลังจากนั้น คือในเดือนมกราคม ปี 2018 ทริปนี้เราเดินทางจากเมืองอัมสเตอร์ดัมไปเมืองบรัสเซลส์ทางรถไฟ เมื่อรถไฟเดินทางใกล้จะเข้าเขตประเทศเบลเยี่ยม จะมีประกาศจากพนักงานบนรถไฟให้ผู้โดยสารดูแลทรัพย์สินส่วนตัวให้ดี และระวังพวกมิจฉาชีพ ซึ่งมีเยอะมาก แม้กระทั่งตำรวจก็ไม่สามารถดูแลได้ทั้งหมด เมื่อเราเดินออกจากสถานีรถไฟก็จะเห็นขอทานนั่งอยู่สองข้างทางบริเวณหน้าสถานี เมืองบรัสเซลส์ เป็นเมืองที่สำคัญเมืองหนึ่งของยุโรป เป็นศูนย์การทางการเมืองของยุโรป เพราะเป็นที่ตั้งของสหภาพยุโรป หรือ EU ที่ตั้งของศูนย์บัญชานาโต้ และองค์กรระดับโลกอีกหลายองค์กร บรัสเซลล์เป็นแหล่งรวมศิลปะ วัฒนธรรมของยุโรป มีมิวเซียม มากกว่า 90 แห่ง ถ้าจะเที่ยวบรัสเซลส์เราแนะนำว่าให้เริ่มเที่ยวแต่เช้า เพราะจะไม่มีนักท่องเที่ยวมากเราออกมาเดินเล่นตั้งแต่แปดโมง แต่หน้าหนาวฟ้าสว่างช้าแสงที่เห็นเลยดูเหมือนเป็นเวลาเย็น Grand Place เป็นจตุรัสกลางเมืองบรัสเซลส์ เป็นที่ท่องเที่ยวสำคัญของเมืองและได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกโลกตั้งแต่ปี1998 ทุกอาคารในบริเวณจตุรัสนี้มีประวัติศาสตร์ยาวนาน เช่น ศาลาว่าการเมืองบรัสเซลส์ Town Hall ที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 15th ในสไลต์เกอธิค Mont des Arts เป็นที่ตั้งของมิวเซียมหลายมิวเซียม ชื่อของที่นี่แปลตรงตัวว่า ภูเขาของงานศิลป์ ตั้งอยู่บนเนินเขา ไม่ไกลจากสถานีรถไฟกลางของบรัสเซลส์ ด้านหน้าเป็นสวน มองจากที่นี่ลงไปจะเห็นหอของศาลาว่าการเมือง St Michael and St Gudula Cathedral เป็นโบสถ์คาธอลิค อยู่ไม่ไกลจาก Grand Place เป็นสถานที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองบรัสเซลส์ ใช้เป็นที่ประกอบพิธีสำคัญของราชวงศ์ สร้างขึ้นระหว่างศตวรรษที่ 11 และ 15 เป็นโบสถ์สไตล์โกธิค ใช้เวลาก่อสร้างนานกว่า 300 ปี ด้านในตกแต่งในสไตล์บาร้อค ออร์แกนของโบสถ์นี้มีไปป์ถึง 4,000 อัน The Place Royale เป็นเขตพระราชฐานที่ประทับของราชวงศ์ สร้างขึ้นระหว่างปี 1775 ถึง ปี 1782 ด้านหน้าเป็นที่ตั้งของโบสถ์ St. James The Palace of Charles of Lorraine เป็นวังเก่าที่เคยเป็นที่ประทับของ Charles Alexander of Lorraine ในปี 1744 ถึง ปี 1780 ปัจจุบันเป็นมิวเซียม Peeing Boy / Manneken Pis รูปปั้นเด็กฉี่ ทำจากทองสัมฤทธิ์ เป็นสัญลักษณ์ของเมืองบรัสเซลล์ เดินไปจากแกรนด์เพลส ไม่ไกลประมาณ 5 นาที มีป้ายบอกทางหาไม่ยาก เห็นครั้งแรกเรารู้สึกผิดหวัง เพราะเป็นรูปปั้นขนาดเล็กมาก อยู่มุมตึกบริเวณนั้นไม่มีตึกสวย ๆ ตัวรูปปั้นเองก็ดูธรรมดามาก ไม่มีอะไรพิเศษเลยนอกจากเวลามีงานเทศกาล หรืองานสำคัญของประเทศ รวมถึงทั่วโลก เขาก็จะแต่งตัวให้กับรูปปั้นให้เข้ากับงานหรือเทศกาลนั้น ชุดที่เคยใส่มีเกือบหนึ่งพันชุดแล้ว Atomium เป็นที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงอีกแห่งของบรัสเซลล์ อยู่ออกมานอกเมือง เดิมทีสร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นสถานที่จัดงาน World Expo 1958 หลังจากที่จบงานแล้วก็กลายมาเป็นที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ ขึ้นมาด้านบนแล้วสามารถเห็นวิวของเมืองบรัสเซลส์ ด้านล่างของ Atomium จะมีเมืองจำลองของยุโรป ที่รวบรวมสิ่งปลูกสร้างและ อนุเสาวรีย์ที่มีชื่อเสียงของยุโรปไว้ เช่น หอไอเฟล หอเอนเมืองปิซ่า แกรนด์เพลส เป็นต้น มินิยุโรปหรือเมืองจำลอง มองลงมาจากมโตเมี่ยม มาบรัสเซลส์พลาดไม่ได้ที่จะลองทานวาเฟเฟิลที่มีขายอยู่ทั่วไปโดยเฉพาะตามแหล่งท่องเที่ยว ส่วนของฝากที่น่าซื้อก็คือชอคโกแลต เช่น Godiva ที่ผลิตในเบลเยียม @ภาพประกอบทั้งหมดโดยผู้เขียน