ห้าโมงเย็นวันพฤหัสฯ แดนเริ่มอ่อนแสง ลานจอดปรับพื้นด้วยหินคลุก มีรถจอดไม่เกินสิบคัน รถเข้าลานจอด พนักงานต้อนรับสวมเสื้อยืดสีส้มกางเกงยินส์มาจัดแจงที่จอด บอกให้จอดชิดด้านในสุด เพราะวันนี้จะมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการมากกว่าปกติมองสำรวจพื้นที่จากลานจอด มุมขวามือสุดมีโบกี้รถไฟเก่า เรียกความสนใจผมได้ดีมากทีเดียว ถัดมาเป็นกำแพงสีขาว สูงไม่น้อยกว่าสองเมตรห้าสิบ ทำหน้าที่เป็นฉากบังพื้นที่ภายในร้าน เหนือแพงเป็นชั้นลอยสองชั้นผนังเป็นกระจกทั้งสี่ด้านหลังหนึ่งอยู่ด้านในตัวอาคารขนานแนวแม่น้ำบางปะกง อีกหลังอีกอยู่ปีกซ้ายของร้าน ตัวอาคารทำมุมกับแม่น้ำ มีป้ายบงบอกสถานที่ติดด้านข้างอาคารหลังนี้ ป้ายวงกลมพื้นขาวตัวอักษรแบบตัวเขียนสีน้ำตาลเข้ม เขียนว่า “แพเคียงน้ำ”ทางเข้าอยู่ตรงกลางระหว่างอาคารสองหลัง ตรงหน้ามองเห็นส่วนตอนรับ ตกแต่งด้วยอารมย์คล้ายๆ สุ่มหาปลามาต่อกัน มีส่วนขอหัวเรือโชว์อยู่เหนือโต๊ะต้อนรับก้าวเข้าประตูทางเข้ามานิดเดียว ทางซ้ายมือมีห้องจัดแสดงรูปภาพ เก้าอี้ และของใช้บางอย่างไว้อย่างดีและพิเศษ รูปภาพนั้นเป็นรูปสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เมื่อครั้งเสด็จมาเสวยพระกระยาหารที่แพเคียงน้ำตู้โชว์หลังเคาเตอร์ต้อนรับน่าสนใจมาก ผมยืนสำรวจอยู่หลายนาที ด้านหนึ่งโชว์โมเดลการ์ตูนและของเล่น อีกด้านหนึ่งโชว์สิ่งที่จรรโลงโลกใบนี้ให้สวยงามขึ้น นั่นคือ ขวดเหล้าหลากยี่ห้อ ขนาดขวดก็ไล่ตั้งแต่เล็กมือเดียวกำได้ ยันขนาดคนดื่มต้องโอบต้องกอดตอนรินกันเลยเชียว (เริ่มเปรี้ยวปาก) พื้นที่ตรงนี้แบ่งเป็นสามส่วน โซนริมน้ำ โซนด้านใน และพื้นที่เด็กเล่น เดินตัดพื้นที่ของเล่นไปยืนอยู่ริมแม่น้ำ ซ้ายมือจะมีท่าเรือและเรือล่องแม่น้ำจอดเทียบท่าอยู่หนึ่งลำ เดาว่าเป็นบริการหนึ่งของร้าน สำหรับลูกค้าที่ต้องการบรรยากาศทานอาหารไปพลางล่องเรือชมแม่น้ำไปพลางมองข้ามแม่น้ำขึ้นไปทางซ้ายมือ มองเห็น “สะพานเทพหัสดิน” และทางด่วนบูรพาวิถีทอดตัวข้ามแม่น้ำบางปะกง ท้องฟ้าเหนือสะพานเริ่มปกคลุ่มด้วยม่านฝน ในมุมเดียวกันยังมองเห็นตึกสูงเดาว่าเป็นโรงแรมตั้งเด่นอยู่ริมน้ำ มีฉากหลังเป็นท้องฟ้าสีทองจางๆ ของเวลาพลบค่ำไล่สายตาตามแม่น้ำไปทางขวามือ จะมองเห็นท้องน้ำแผ่กว้างออกไปจนสุดตา ท้องน้ำเย็นนี้มีผักตับชวาลอยเป็นแพ ตรงโค้งน้ำสุดสายตามองเห็นอาคารสีฟ้าสลับขาวตั้งเด่นอยู่ริมน้ำ นั่นคือ โรงงานไฟฟ้าทดแทนบางปะกง ท้องฟ้าเหนือโรงงานยังมีเมฆสีหม่นๆ และไม่มีวี่แววของฝนห่าใหญ่บรรยากาศภายในร้าน หลายโต๊ะลูกค้าเริ่มเข้าจับจองกันแล้ว ผมเดินขึ้นชั้นสองของอาคาร ชั้นบนแบ่งออกเป็นสามห้อง ห้องใหญ่สุดจะขนานตัวไปกับแนวแม่น้ำ ห้องที่สองทำมุมฉากกับแนวแม่น้ำ ห้องที่สามอยู่ตรงข้ามกับห้องที่สองได้มุมวิวลานจอดรถไฮต์ไลท์อยู่ตรงจุดชมวิวบนชั้นสองนี่แหละ ยืนมุมนี้จะมองแม่น้ำและวิวต่างๆ ได้สวยงามมาก หรือจะยืนจิบเครื่องดื่มเย็นๆ รับลมก็เหมาะไม่น้อย น่าเสียดายยืนรับลมได้แป๊ปเดียว ฝนห่าใหญ่ก็เทลงมาไล่ต้อนให้ผมเข้าห้องวิวลานจอด ไปนั่งรวมอยู่กับเพื่อนๆ จนได้เมนูบนโต๊ะถูกจัดแจงไว้หมดแล้ว ผมมีหน้าที่ทานอย่างเดียวเท่านั้น เบื้องหน้านอกจากแก้วน้ำสีอัมพันแล้วก็มี ปลากะพงนึ่งมะนาว ปลากะพงทอดน้ำปลา ยำไข่ปลาเรียวเซียว กุ้งแม่น้ำลุยสวน และบลาๆ มื้อนี้แต่ละคนไม่สนใจข้าวในโถกันเลย กับข้าวกับปลาก็กลายเป็นกับแกล้มเสียส่วนใหญ่เพลินกันจนถึงสามทุ่มครึ่ง เราก็แยกย้ายกันกลับ รถเคลื่อนตัวช้าๆ ออกจากลานจอด ฟ้าฝนก็ยังเทกระหน่ำไม่หยุด รถแล่นห่างออกไป ทิ้งลานจอดและร้านแพเคียงน้ำอยู่ใต้ม่านฝนและแสงจากฟ้าที่แลบแปลบปลาบไว้เบื้องหลัง เครดิตภาพโดยผู้เขียน เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !