ทำไงดีล่ะ? พาสปอร์ตเก่าหมดอายุ ไม่ได้หยิบพาสปอร์ตขึ้นมาดูเลยตั้งแต่โควิด เผลอแค่ไม่นานพาสปอร์ตก็หมดอายุซะแล้ว จะไปยื่นขอวีซ่า เลยต้องรีบค้นหาข้อมูลการต่อพาสปอร์ตที่ง่าย ไวและเร็ว แล้วก็เจอ "วิธีทำพาสปอร์ตด้วยเครื่อง KIOSK ที่ MBK"สำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว ปทุมวัน (MBK Center ชั้น 5 โซน A) เปิดให้บริการทุกวันวันจันทร์-เสาร์ เวลา ตั้งแต่ 10.00-18.00 น. ผู้ที่สนใจสามารถวอล์คอินเข้าทำพาสปอร์ตในวันเสาร์ ได้ 1,000 คนต่อวัน มีทั้งแบบบริการปกติ และแบบบริการด้วยตู้ทำพาสปอร์ตอัตโนมัติ (Kiosk) ซึ่งเป็นแห่งแรกและแห่งเดียวเท่านั้น ที่เปิดให้บริการวันเสาร์ และเน้นบริการด้วยเครื่อง Kiosk ตรงจุดนี้แหละที่เยี่ยมมากสำหรับพนักงานประจำ ที่ไม่ต้องลางานก็สามารถมาต่อพาสปอร์ตได้ ปรบมือรัวๆพอได้สถานที่ ก็ต้องมาดูว่าต้องมีคุณสมบัติและเตรียมเอกสารอะไรกันบ้าง ถ้าเราจะต่อพาสปอร์ตด้วยเครื่อง KIOSK 1. อายุ 20 ปี ขึ้นไป (ข้อนี้ผ่านแบบเกินเยอะด้วย ฮิๆ) 2. บัตรประชาชนตัวจริง3. หนังสือเดินทางหรือพาสปอร์ตเล่มเดิม ในส่วนของค่าธรรมเนียมการออกพาสปอร์ต- พาสปอร์ตแบบ 10 ปี ค่าธรรมเนียม 1,500 บาท ค่าส่งไปรษณีย์ 40 บาท รวม 1,540 บาท- พาสปอร์ตแบบ 5 ปี ค่าธรรมเนียม 1,000 บาท ค่าส่งไปรษณีย์ 40 บาท รวม 1,040 บาทต่อพาสปอร์ตคราวนี้เราคงจะเลือกทำแบบ 10 ปี ไปเลย จะได้เที่ยวยาวๆไป โอเค เตรียมเอกสารพร้อม เราก็มาลุยกันเลย สถานที่คือ สำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว ปทุมวัน ที่ MBK Center ซึ่งมีทางเลือกให้เดินทางหลายเส้นทาง ไม่ว่าจะเดินทางด้วยรถส่วนตัว, รถไฟฟ้า BTS, MRT หรือ รถเมล์ เพราะอยู่ใจกลางเมือง ส่วนเราไม่มีรถส่วนตัว เลยเลือกเดินทางด้วยรถไฟฟ้า BTS ไปลงสถานี สนามกีฬาแห่งชาติ แล้วเดินไปตามสกายวอล์ก เข้าศูนย์การค้า MBK Center ขึ้นลิฟต์ไปที่ชั้น 5 และเดินไปที่โซน A ถึงแล้วค่ะ เราเดินไปถามเจ้าหน้าที่ด้านในว่าจะทำพาสปอร์ตผ่านเครื่อง KIOSK ต้องทำยังไงบ้าง เจ้าหน้าที่ก็แนะนำให้ไปติดต่อที่ช่องด้านข้าง ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่คอยให้คำแนะนำและตรวจสอบเอกสารก่อนการเดินเข้าไปรับบัตรคิวด้วยตัวเองที่เครื่องด้านใน เครื่องนี้เลยค่ะจากนั้นไปนั่งรอเรียกตามคิวที่ปรากฎที่หน้าจอ ถึงคิวแล้วจ้า เรามาดูหน้าตา เครื่อง KIOSK กันเลย ขั้นตอนหลังจากเข้าไปที่จุดที่เครื่องตั้งอยู่ เราพอรู้ขั้นตอนมาแล้วบ้าง แต่ก็ยังอยากพิสูจน์ว่ายากง่ายแค่ไหน มาลองดูกัน1. เจ้าหน้าที่จะเข้ามาตรวจเอกสารพาสปอร์ตกับบัตรประชาชนอีกครั้ง แล้วเอาบัตรประชาชนเสียบไปที่เครื่องให้ เครื่องจะเริ่มอ่านข้อมูลจากบัตร หน้าจอจะขึ้นข้อความ กดเลือกเมนูที่หน้าจอ ต่อพาสสปอร์ต เจ้าหน้าที่จะสอบถามว่าเราจะต่อพาสปอร์ตแบบกี่ปี 5 ปี หรือ 10 ปี 2. เจ้าหน้าที่จะแนะนำให้อ่านคำชี้แจงและข้อกำหนดต่างๆ ที่ปรากฎบนหน้าจอ แล้วบอกว่าถ้าโอเค ก็กด"ยอมรับ" ตรวจสอบข้อมูลส่วนตัว ถ้าเป็นการต่อพาสปอร์ต จะมีข้อมูลส่วนตัวเดิมขึ้นมา กรอกข้อมูลผู้ติดต่อได้กรณีฉุกเฉิน ชื่อ-นามสกุล คนที่ 1 คนที่ 2 และกรอกหมายเลขโทรศัพท์ สำหรับคนที่ 2 เราจะกรอกหรือไม่กรอกก็ได้ 3. พอกรอกเสร็จ เครื่องจะแจ้งที่หน้าจอว่ากำลังเข้าสู่ขั้นตอนการถ่ายภาพบุคคลเราก็ไปยืนตรงที่พื้นมีสติกเกอร์รูปเท้า เครื่องจะทำการถ่ายรูป ที่กล้องจะมีไฟโชว์ และถ่ายรูปอัตโนมัติ แล้วรูปเราก็จะปรากฎที่หน้าจอพร้อมข้อความ ว่ารูปไม่ผ่านเพราะสาเหตุอะไร ของเราจะเป็น ตาไม่มองตรงมาที่กล้อง คุณภาพรูปไม่ชัด คืออาจจะเกิดจากการที่เราไม่ยืนให้นิ่งตอนกล้องจะกดถ่ายรูป ทำให้ต้องถ่ายรูปอยู่หลายรอบ กว่าคุณภาพรูปจะได้และรูปสวยตามที่เราต้องการ เรารู้สึกสนุกตรงเลือกรูปที่เราคิดว่าดูดีที่สุดได้ ถ้าได้รูปที่ต้องการแล้ว อย่าพึ่งกด"ตกลง" นะค่ะ ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ก่อน 4. เจ้าหน้าที่ก็เอาครีมอะไรสักอย่างมาให้เราทาทั้ง 5 นิ้วทั้งขวาและซ้าย เพื่อสแกนลายนิ้วมือ การสแกนลายนิ้วมือ เจ้าหน้าที่จะให้เราเริ่มจากวางนิ้วมือ 4 นิ้วด้านขวาที่เครื่องสแกนและกดเล็กน้อย รอสักครู่ หน้าจอจะขึ้นรูปลายนิ้วมือของเรา ถ้าไม่ชัดเจนไม่ได้คุณภาพ เจ้าหน้าที่จะใช้ผ้าเช็ดที่ช่องสแกนลายนิ้วมือ ให้เราสแกนใหม่อีกครั้ง พอครบ 4 นิ้วทั้ง 2 ข้าง ก็สแกนลายนิ้วหัวแม่มือทั้ง 2 ข้างพร้อมกัน 5. เจ้าหน้าที่จะถามว่า ใส่คอนเทคเลนส์มาหรือเปล่าถ้าใส่ให้ถอดออกก่อน เพื่อสแกนม่านตา เจ้าหน้าที่จะแนะนำให้เอาช่วงหน้าก้มไปใกล้กับช่องสแกนม่านตา มองไฟสีน้ำเงินในช่อง ขยับเข้าไปใกล้เครื่องจนมองเห็นไฟสีเขียว สแกนผ่านจะมีเสียงสัญญาณดังขึ้น พร้อมไฟสีแดง 6. เซ็นลายเซ็นที่หน้าจอ จะมีปากกาอยู่ข้างกับช่องสแกนม่านตา 7. หน้าจอจะขึ้น ให้เลือกอายุพาสปอร์ตว่าจะต่อแบบกี่ปี 5 ปี หรือ 10 ปี แล้วให้กรอกที่อยู่ในการจัดส่ง พอกรอกเสร็จ หน้าจอจะขึ้นข้อมูลส่วนตัวของเรา ชื่อ-นามสกุล ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ วันเดือนปีเกิด เลขหนังสือเดินทาง อายุพาสปอร์ตที่ทำ ที่อยู่ในการจัดส่ง ราคาค่าบริการ และจะขึ้นรายละเอียดเงื่อนไขคำร้องขอออกหนังสือเดินทาง หนังสือให้ความยินยอมในการจัดเก็บ การใช้ และการเปิดเผยข้อมูล โดยจะมีลายเซ็นที่เราเซ็นเมื่อสักครู่ขึ้นในเอกสาร ให้เราตรวจสอบความถูกต้องอีกครั้ง เพื่อยืนยันการเก็บข้อมูล8. พอเรากดยืนยัน จะมีใบคำร้องพิมพ์ออกมาจากเครื่องยาวๆแบบนี้ ในใบคำร้องจะระบุข้อมูลส่วนตัวเหมือนกับที่หน้าจอเมื่อสักครู่9.นำใบคำร้องไปชำระเงินที่ช่องชำระเงิน โดยการชำระเงิน สามารถทำได้ทั้งสแกน QR Code, บัตร VISA DEBIT, ROCAL DEBIT CARD และบัตรเครดิตทุกธนาคาร โดยเสียค่าธรรมเนียม 0.9% ของยอดชำระ เราเลือกชำระผ่านบัตรเครดิต ยอดชำระ 1,513.50 บาท และเดินมาอีกช่อง ชำระค่าจัดส่งทางไปรษณีย์ไทย 40 บาท ต้องชำระเป็นเงินสดเท่านั้นเสร็จทุกอย่างตามขั้นตอน ใช้เวลาประมาณ 20 นาที ไวมาก เราเคยทำพาสปอร์ตแบบปกติ ช่วงช้าสุดคือรอคิว เข้าไปคุยกับเจ้าหน้าที่ด้านใน ก็ประมาณ 30-45 นาทีค่ะ ส่วนตัวคิดว่าชอบวิธีทำด้วยตัวเองที่เครื่อง KIOSK ตรงเวลาถ่ายรูปนี่แหละ กว่าจะได้รูปที่ดูดีที่สุด ถ้าคนที่รอคิวไม่เยอะมาก มีหวังคงได้ใช้เวลาถ่ายรูปนานอีกนิด และอีกอย่างก็สดวก รวดเร็ว ตอนนี้ก็กลับไปรอรับเอกสารที่จัดส่งให้ถึงบ้าน ประมาณ 3-5 วัน มาถึงที่นี้ก่อนกลับยังสามารถแวะเดินหาของอร่อยๆ ทานได้อีกด้วยนะค่ะ ถ้าจะต้องทำพาสปอร์ตลองมาทำผ่านเครื่อง KIOSK กันดูนะค่ะ เครดิตรูปภาพ ผู้เขียน*STAR COVER"อย่ามัวแต่ดูมาดังกัน"*ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ขอชวนทุกคนมาสนุกโคฟเวอร์ พร้อมลุ้นรับเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า 7,000 บาท (5 รางวัล) โคฟคนที่ใช่ ไลค์คนที่ชอบ`ร่วมสนุกได้ที่ ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ห้อง cover บนแอปทรูไอดี`คลิกเลย >> https://ttid.co/UAnK/7y9jfqkqอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://bit.ly/3O1cmUQร่วมสนุกตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนายน 2565 - วันที่ 11 สิงหาคม 2565