คาเฟ่ที่ความบังเอิญและความหลงทางนำพาเรามาพบเจอเธอ Tew Lay Barคือเราได้ไปไร่เลย์ โดยการเสี่ยงดวง ใจของเราอยากจะไปมากๆแต่เราก็กลัวพายุ ลมฝน นานา ที่มีโอกาสจะเกิดได้ในช่วงนี้ แต่อีกใจคือ ถ้าไม่ไปเราจะเสียดายไหมวันนี้ท้องฟ้าโปร่งโล่งและสวยมาก เลยตัดสินใจขึ้นเรือที่จะไปยังหาดไร่เลย์ โดยจุดมุ่งหมายคือหาดถ้ำพระนาง ในการไปครั้งนี้ไม่ได้ดูรีวิวแต่อย่างใดด้วยเวลาและไม่ได้เตรียมตัวฮ่าฮ่าฮ่าค่าเรือคนละ 200 บาท ทั้งไปและกลับ ไปกับคนขับเรือทีมเสื้อสีไหนต้องกลับกับทีมเสื้อสีนั้น แฮะๆจำง่ายดี สามารถขึ้นได้หลายจุดทั้งอ่าวนาง หาดนพรัตน์ธารา หาดน้ำเมา เราขึ้นที่อ่าวนาง แบบซื้อข้าวเซเว่นนั่งกินริมหาดอ่าวนาง ซื้อขนมซื้อน้ำตุนไว้ รอคนพร้อมแล้วขึ้นเรือเลย แต่ขอแนะนำสำหรับคนที่จะนำขนมไปกิน ควรจะนำกลับมาทิ้งที่ฝั่งนะ เราขนไปขนกลับไม่ลำบากหรอก อย่าให้เป็นขยะปลิวลอยไปเป็นอาหารสัตว์ทะเลเลยน้าาเมื่อถึงหาดเราก็บอกคนเรือว่าเราลงฝั่งถ้ำพระนางได้เลย ทะเลอันดามันคือสวยมากๆ น้ำก็ใสสีเขียว แบบคือดีอ่ะ เป็นการเที่ยวทะเลที่ Happyมาก อะไรที่ไม่ได้เตรียมตัวมากมายมันก็ฟินไปอีกแบบนะ จริงๆ พอเราเล่นน้ำที่หาด หน้าถ้ำพระนางและสักการะแม่พระนางเสร็จแล้ว เราก็พากันเดินโดยพกความมั่นใจมาจากไหนมิรู้ว่า ทางกลับไปขึ้นเรือคือทางนี้ เราก็เดินไปๆ ไกลมากๆจนหิวและหิว แต่ด้วยบรรยากาศช่วยชะโลมจิตใจ 555 เราก็เดินจนได้คำตอบจากพนักงานในรีสอร์ทแห่งหนึ่งว่าสุดขอบเกาะแล้วครับ เดินย้อนสิคะ ช้าอยู่ใย เดินจนหันมาสะดุดตากับวิวนี้ ซึ่งขาไปเดินผ่านนะแต่มองแต่วิวกว้างๆไม่ได้โฟกัส เอาไงละ แวะสิ วิวสวยขนาดนี้แอบดูรีวิวเบาๆ เพราะเราชอบเที่ยวนะ แต่เราก็จำกัดงบประมาณ เราเที่ยวอย่างสบายกายสบายใจ เดินไปชมเมนูซะหน่อย นี่คือชื่อร้านนะทุกคนนน Tew Lay Bar ป้ายร้านจะเทห์ไปไหนดูด้วยความรวดเร็วก็จัด เมนูน้ำมาก่อนเลย ฮาเซนัทลาเต้เย็นๆ 120 บาท กับมอคค่าแก้วใหญ่ๆ100 บาท ราคาก็สมเหตุสมผล แก้วใหญ่ชื่นใจ รสชาติอร่อยเลยละ ระหว่างรอเมนูต่อไปเราก็ รีบหามุมถ่ายรูป เพราะมันสวยๆมากๆ อาหารหลักร้อย วิวหลักล้านอย่างที่เขาเรียกกันเป็นแบบนี้เองมุมนี้คือเด็ดมาก ทั้งสวยสุดๆเสียวสุดๆ เราต้องเดินไปให้สุดปลายไม้ที่ยื่นออกไปในทะเลแล้วมันโยกจร้าแค่ขยับก็หวั่นไหวชาลีเองก็ต้องจับไม้เอาไว้ เพราะมันหวิวๆแต่มันสวยจริงๆ รูปที่ได้มามืดไปหน่อยต้องปรับสีกันเยอะเลย แฮะๆ น้องมาแล้ว 1 จาน สปาเก็ตตี้คาโบนาร่าไก่ ราคารู้สึกจะ 150 บาทนะ ที่กระบี่ส่วนใหญ่จะนับถือศาสนาอิสลาม จึงไม่ค่อยมีหมู ไม่เป็นอุปสรรคใดๆค่ะ อร่อยก็เพียงพอจานที่ 2 น้องเบอร์เกอร์ชีสไก่ อูยยยย น้ำลายไหลมันเข้ากัน เหลือเกิ๊น แต่รีบทานหน่อยค่ะ ฝนกำลังจะมาจะแม่จ๋า อ่อจะบอกว่าที่ร้านทำอาหารเร็วมากค่ะ น้องพนักงานก็บริการดีน่ารักเป็นกันเองบรรยากาศโดยรวมค่ะ ที่เห็นรังนกอันยาวๆนี่คือพยายามแล้วนะ แต่ชาลีติดพุงและชาลีขาสั้นจึงไม่สามารถที่จะตะกายดาวได้ ชาลีเสียใจแต่ไม่แคร์รังนกขนาดนี้แม่นกจะตัวขนาดไหนจ๊ะ อ่ะหยอกๆ เป็นอีกวิวที่ทุกคนรอถ่าย วิวสวยๆกับคนสวยๆเป็นของคู่กันสินะ บรรยากาศดีมาก แต่ชาลีต้องรีบไปแล้ววว พี่ฝนมาตามกลับบ้าน พี่ฝนกำลังจะเทลงมาจ๊ะ ซึ่งการเดินกลับก็รู้สึกได้เลยว่ามันไกลจัง เศร้าแต่ในที่สุดเราก็เจอทางลัด และลัดไปเจอถนนคนเดิน คือเปิดโลกอีกโลกของชาลีเลยไว้รอบหน้าจะมารีวิวหาดไร่เลย์เต็มรูปแบบนะ ตอนนี้หนีไป หนีฝนไปเร็วและในที่สุดเราก็ทันค่ะ ทันฝนนี่ละ ตกตอนขึ้นเรือเลย ตกหนักซะด้วยโกรธใครไหนบอก แบบนี้เองที่เรียกว่าฝนตกในทะเล เรามีผู้ร่วมชะตากรรม 10 คน ตื่นเต้นและเปียกโชกเลยจร้า แถมน้ำมันหมดกลางคัน สุดยอดเลย ได้เป็นผู้ช่วยคนขับเรือหยิบน้ำมันกับช่วยดูต้นทาง 5555 กอดชูชีพแน่นเลยแต่ คือรสชาติที่เราจะไม่ได้เจอ ถ้าเราไม่ก้าวออกมาจากมุมเดิมๆ ถ้าเราฝังตัวเองไว้ตรงที่เดิมเราก็จะไม่ได้เผชิญโลกที่สนุกอะไรแบบนี้เลยทริปนี้สุดจริงๆชอบจริงๆ ขอบคุณผู้ร่วมเดินทางของชาลีรูปถ่ายโดยนักเขียน : นามปากกา "ชาลีดีใจ"