ใครบอกงานคือชีวิต แต่สำหรับคนเราในบางช่วงชีวิตต้องการพักจากงานพบพานชีวิตของการผ่อนคลาย ถ้าหากโหมแต่งานหนักสมองกับหัวใจจะไม่อยู่นานเพื่อหายใจ ก้าวเดินออกจากกรอบนั่งนิ่งฟังเสียงลม ปล่อยจุกผมโปรยปรายผ่านสายหมอก มองชีวิตภายนอกรั้วขอบทาง เปิดปากยิ้มแววตาเบิกกว้างกับโลกกว้างไกล ในชีวิตของคนทำงาน ที่หาเวลาว่างในการผ่อนคลายให้กับชีวิตด้วยการเที่ยวค่อนข้างยาก อากาศ วิวทิวทัศน์จึงเป็นสิ่งสำคัญ เพราะทุกวันเราอยู่กับความวุ่นวาย วุ่นวายแรกวุ่นวายกับคนร่วมงาน ต่อจากงานวุ่นวายกับงานที่ทำ ที่บางครั้งไม่ได้ดั่งใจคิด อากาศในออฟฟิศห้องสี่เหลี่ยมเล็กๆ ที่มองไปทางไหนก็มีกรอบพื้นที่จำกัด สมองคือสิ่งที่มีการคิดอยู่ตลอดเวลา แต่ทุกขณะจิตของคนเรานั้นมีความคิดเกิดขึ้นนับแสนกว่าครั้งในหนึ่งช่วงของลมหายใจเข้าออก จึงได้มีคำที่ว่า จิตใจของคนเรายากแท้จะหยั่งถึง กี่ครั้งที่เราเคยนั่งคุยกับตัวเอง แล้วพยายามห้ามใจว่าหยุดคิดกับเรื่องนี้เถิด แต่จริงๆแล้วในขณะที่เรานั่งนิ่งอยู่นั้น จิตใจของเรามีความคิดเกิดขึ้นมาแล้วมากกว่าที่เรารับรู้ คนที่เป็นโรคซึมเศร้านั้น ตามจริงเขาก็ใช้ชีวิตปกติเหมือนทุกวัน แต่เมื่อในวันหนึ่งจิตใจของเขานั้นได้รับการกระทบกระเทือน ไม่ว่าจะเป็นความเสียใจ ความผิดหวัง การกลัวในสิ่งที่จะเกิดขึ้นหลายอย่าง ความเครียดเหล่านี้มีการผสมผสานกัน จนสมองของเรานั้นได้ผลิตสารบางอย่างที่มากเกินความจำเป็น จนทำให้เกิดอาการซึมเศร้า วิธีการที่เราจะหายคือเดินออกจากสภาวะนั้น ออกไปพักผ่อน แต่ไม่ควรไปเพียงลำพังเพราะอาการของโรคนี้จะเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา และในเวลาไม่นานแล้วจะเลือนหายไป ถ้าเราอยู่ในช่วงนั้นลำพังคิดทำร้ายตนเองก็อาจจะหมดลมหายใจได้ในช่วงขณะ ทุกสิ่งบนโลกนี้ธรรมชาติสร้างขึ้นมาเพื่อทุกคน ออกมามองโลกกว้างบ้างชีวิตอย่ามัวแต่หาสิ่งที่บำเรอความสุข แต่เราไม่ได้ใช้ชีวิตให้มีความสุข ชีวิตนี้สั้นนักเราจะอยู่บนโลกนึ้ได้อีกกี่แสนวัน รักตัวเองให้มากจำไว้ว่าไม่มีใครรักคนอื่นมากกว่าตัวเอง การเดินทางปลดปล่อยความทุกข์ของเรา ที่พักเองก็เป็นสิ่งสำคัญ ถ้าหากเราพักในที่ที่พื้นที่โดยรอบไม่ค่อยมีอากาศบริสุทธิ์บางทีเราอาจจะเจ็บป่วยหรือไม่สบายได้ จากที่เราจะรักษาให้ดีขึ้นอาจจะทำให้อาการยิ่งทวีคูณขึ้น เพราะอารมณ์ที่แปรปรวนไม่เสมอต้นเสมอปลาย จึงควรเลือกสถานที่ที่เรานั้นคิดว่าปลอดภัย และสงบสุขแต่ไม่เงียบเหงาเกิน สีเขียวเป็นสิ่งที่ทำให้สบายตา อากาศบริสุทธิ์ทำให้เราสดชื่นความสวยงาม ทำให้เรายิ้มกับมัน สถานที่ทางเดินเข้าไปถูกตกแต่งสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นมุมของรอยยิ้ม ใครที่เข้าไปอยู่ในมุมถ่ายภาพจะต้องสวยเพราะหลากหลายคนลองถ่ายมาแล้ว ดอกไม้ซากุระสีชมพู แสดงถึงสีของความรัก ความหวาน เมื่อเข้าพัก ทางรีสอร์ทจะให้กุญแจมาทั้งพวง ยื่นให้เราเข้าห้องพักได้ตามสบาย แต่เพราะความเป็นส่วนตัว บ้านทุกหลังบางครั้งก็ไม่ต้องล็อกกุญแจ เพราะเราอยู่ด้วยกันรู้จักกันทั้งหมด และชื่อของบ้านแต่ละหลัง มีชื่อให้เรียกหมด ไม่ว่าจะเป็นบ้าน ชมหมอก หลังแรกที่เราเดินเข้าไปจะอยู่ทางขวามือ ต่อจากนั้นชมผา ชมเขา ชมดาว ชมเดือน ชมวิว ส่วนฝั่งขวามือจะเป็นบ้านที่ไม่มีอ่างอาบน้ำแต่ก็เป็นบ้านหลังใหญ่ เช้าวันใหม่ กับการทำงานของร่างกายแต่เป็นการพักสมอง อยู่กับธรรมชาติมองไปทางไหนก็มีแต่เขา ส่วนตรงหน้าเราใกล้ๆคือต้นข้าวที่กำลังเจริญเติบโต มองดูทุกครั้งทำให้เรานั้นมีกำลังใจ ทำให้เราได้รู้ว่าทุกสิ่งรอบตัวเราไม่เคยท้อไม่เคยบ่น ไม่เคยหยุดนิ่งไม่ว่าโลกนี้ อากาศจะโหดร้ายสักเพียงไหน วันนี้จะพาไปรู้จักสถานที่แห่งหนึ่ง ที่เฝ้ามองมาตั้งแต่วันเปิดครั้งแรก คิดว่าต้องมีโอกาสมาสักครั้งอย่างแน่นอน ครั้งแรกที่จองไปเต็มจนถึงปลายปี ครั้งนี้ดีได้พักเป็นที่พักหนึ่งคืนของทั้งโรงเรียน คิดถึงทุกครั้งทำให้มีความสุข รายรอบไปด้วยสีเขียวของต้นข้าว และไปหมอกในยามเช้าเสียงหัวเราะรอยยิ้ม และเหตุการณ์อันอบอุ่น การเลือกพักที่นี่เราเน้นความเป็นส่วนตัว เหมาทั้งโซน ทุกหลังคาทั้งหมด 9 หลังเพื่อทุกคนในที่ทำงาน ทำให้ที่พักในหนึ่งคืนนี้เป็นเหมือนบ้าน หมู่บ้านแห่งธรรมชาติและเสียงขุนเขา เราสามารถที่จะตื่นแต่เช้าเดินเล่นตามถนนของที่นี่ทักทายบ้านแต่ละหลัง ปลุกให้ขึ้นมารับอากาศบริสุทธิ์ มองหมอกเดินทางกลับที่หน้าผา แม้จะเป็นในช่วงฤดูร้อนแต่สำหรับที่นี่ในยามเช้าอากาศกลับเย็น เสียงน้ำไหลผ่านโขดหิน ธรรมชาติบำบัดจิตใจ ถ้าหากจะถามว่า แพงไหมกับเงินจำนวนหมื่นต้นๆ คำตอบคือไม่เพราะเราเสียไปกับสิ่งที่ไม่มีประโยชน์อย่างอื่นมากกว่านั้น หนึ่งชีวิตมาสถานที่แห่งนี้ครั้งแรก และกว่าจะมาเป็นที่แห้งนี้ใช้ทุนเท่าไหร่ ต้องเสียหยาดเหงื่อแทบจะเป็นแม่น้ำ ภูผาม่านริเวอร์ฮิลล์ สถานที่แห่งความสงบเป็นส่วนตัว ตื่นมาดูดดื่มบรรยากาศสุดปลาบปลื้ม สาเหตุที่เราพักที่นี่เพราะเราเป็นคนอีสาน การเดินทางสะดวกไม่ไกลถ้าหากอยากจะดูดด่ำกับบรรยากาศเหมือนภาคเหนือ ที่เย็นและชมหมอกในตอนเช้า คงต้องขึ้นเชียงใหม่ แต่วันหนึ่งได้รับคำแนะนำจากเพื่อนอีกทีว่าที่นี่ เหมือนกับไปเชียงใหม่ จึงจัดการจอง และมาพักที่นี่ สวยและฉ่ำ เพราะนอกจากจะมีพื้นที่ในห้องพักแล้ว พื้นที่ด้านอกทั้งหมดเราสามารถนั่งดื่มกาแฟ พายเรือแคนูได้ สองข้างทางที่เดินชุ่มชื่นไปด้วยหญ้าสีเขียวต้นไม้ที่พร้อมส่งออกซิเจนให้เราได้สูดดม หยุดเวลาไว้กับความสุขพักผ่อนกับเวลาว่าง ที่หาได้ไม่ง่ายหลังจากที่คนเราเริ่มทำงาน ถอดหัวโขนออกไว้ที่บ้าน ไม่มีตำแหน่งทุกคนคือครอบครัวมีเพียงพี่และน้อง ให้อิสระกับทุกคน เราอาจจะบอกว่าแค่หนึ่งคืนกับสองวันมันจะสำคัญอะไรขนาดนั้น อย่าว่าหนึ่งวันเพียงหนึ่งนาทีถ้าได้อยู่กับคนที่เรารัก เราพอใจ สถานที่ที่เราอุ่นใจตั้งแต่แรกที่เดินทางถึง สามารถทำให้เรามีความสุขได้นานชั่วอายุคน บ้านหลังที่เราพักเป็นบ้านหลังใหญ่สุดในจำนวนบ้านทั้งหมด 8 หลัง นอนได้ 4-5 คน ภายในห้องพักมีเครื่องอำนวยความสะดวกครบ ที่มากกว่านั้นคือห้องน้ำ ห้องน้ำใหญ่สไตล์ญี่ปุ่น รวมถึงรูปทรงบ้าน การตกแต่งบริเวณสวนระหว่างสายน้ำไหลผ่าน สวยตั้งแต่ประตูทางเข้า ตอนแรกเราคิดว่ามาหาที่พักก่อนค่อยเดินทางค้นหาที่เที่ยวที่อยากไป และถ่ายภาพ แต่พอเดินเข้ามาในภูผาม่านเจอประตูเข้า มันใช่เลย นางแบบต้องมา สะพานไม้ที่ทอดยาวไปถึงบ้านพัก ดูสะดวกสะบาย แข็งแรงไม่ตกน้ำเอาง่ายๆ บ้านพักของเรา สำหรับคนที่งบน้อยหน่อย ไม่ต้องการหรูหรามากนัก ใช้เพียงพักผ่อนตอนกลางคืน ในบ้านหนึ่งหลังมีครบทั้งหมดเครื่องอำนวยความสะดวก เครื่องปรับอากาศเย็นเฉียบมรอาหารเช้าบริการ อาหารเช้าจะบริการประมาณเจ็ดนาฬิกาที่หน้าบ้านของแต่ละหลัง อาจจะ ทานในบ้านหรือนอกบ้านได้ทั้งหมด วันพักผ่อนนอนพักผ่อนให้พอ ชดเชยในวันที่ผ่านมา หลังเล็กพักคืนละ 1990 บาท พักได้สองคน สามารถเพิ่มเตียงได้หนึ่ง หลังใหญ่อยู่ที่สามพันกว่า แต่นอนพักได้ 4 คน สามารถเพิ่มเตียงได้หนึ่ง แต่ถ้าเราไปกันจำนวนมากแนะนำให้เหมาจะได้ราคาที่โอเครกว่า และได้อยู่เป็นส่วนตัว ความสุขในแบบที่เราเลือกได้ ในบ้านทั้งหมด 9 หลังจะมีสองหลังที่ไม่มีอ่างน้ำ แต่เราเหมาทั้งหมด จึงสามารถเดินมาลงอ่างในบ้านหลังของเพื่อนได้ แม้อากาศจะร้อน แต่ตอนเช้าและตอนเย็นจะไม่ค่อยร้อนเหมาะมากกับการลงแช่น้ำแล้วมองผ่านช่องผ้าม่านดูวิวธรรมชาติหน้าผา ซึ่งน้ำในอ่างนั้นมีทั้งน้ำร้อนและน้ำเย็น มีความเป็นส่วนตัว ถ้าหากมีคนเดินผ่านไปผ่านมา เวลาที่เราลงอ่างสามารถรูดผ้าม่านปิด ถ้าในตอนเช้าเราอาจจะลงอ่างแล้วนำอาหารมาทานด้วยได้ อยู่ที่ความชอบได้เลย เมื่อทานอาหารเรียบร้อยสามารถที่จะวางไว้กับที่จะมีหนักงานเดินเก็บ ซึ่งการพักเราสามารถอยู่ได้ไม่เกินเที่ยงหรือ 11 นาฬิกา สามารถนอนสบายในเตียงได้พักผ่อนเต็มที่ก่อนออกเดินทาง กิจกรรมในเช้าวันใหม่ ยามเช้าสำหรับคนรักกาแฟ สำหรับผู้ที่รักและชื่นชอบในการทานกาแฟ ตื่นเช้าจิปกาแฟดำ มีอุปกรณ์ครบชุดในการทำกาแฟทานเอง ชอบแบบเข้มหรือละมุนทำได้ กิจกรรมหลังจากตื่นนอน แม้แดดเช้าจะร้อนเกินจะนั่งจิบกาแฟเราเองก็หันมาจิบกาแฟในห้องแอร์เย็นฉ่ำสลับกัน การทานกาแฟถ้าหากเป็นกาแฟดำ ดีต่อสุขภาพช่วยในเรื่องของการลดความอ้วนได้ คนที่ชอบทานกาแฟดำหรือทานได้จะดีต่อสุขภาพอย่างมาก การติดต่อสื่อสารที่นี่มีระบบไวไฟ นอกจากนั้นยังมีสถานที่จัดไว้ให้สำหรับการสังสรรค์ในยามค่ำคืน ทานอาหารและร้องคาราโอเกะเครื่องเสียงขนาดใหญ่ จะนำอาหารเตรียมไปทานเองได้ หรือจะติดต่อแม่ครัวในรีสอร์ท ประโยชน์ของการทานกาแฟดำคือ อย่างอย่างแรกที่เห็นคือ กาแฟจะช่วยในการกระตุ้นความจำ เวลาที่เราทานกาแฟดำนั้นจะช่วยทำให้ผู้ที่ทานนั้นไม่ง่วงนอนจะมีความจำดี และมีสิ่งที่ดีต่อตับนอกจากนั้นมีความฉลาดขึ้น ทำความสะอาดช่องท้อง กาแฟนั้นยังดีต่อตับหัวใจหลอดเลือด ถ้าคนที่ทานสำหรับลดความอ้วนหรือต้องการที่จะลดน้ำหนัก ถ้าคนที่ทานกาแฟเป็นระยะเวลานาน จะทำให้ร่างกายรักษาโรคเบาหวานได้ การทานกาแฟดำนั้นทำให้ได้ประโยชน์หลายอย่าง ด้านในของที่พักถูกตกแต่งอย่างสวยงาม ห้องสีขาวนวล ของทุกชิ้นถูกวางไว้อย่างสวย พอเจอเตียงแทบอยากจะกระโดดนอน แอร์เย็นฉ่ำถ้าต้องการนอนในกลางวันสามารถรูดม่านปิดบังแสงอาทิตย์ส่องได้ แสงแรกของวันใหม่ ดวงอาทิตย์ที่ดวงใหญ่กว่าเมื่อสิบปีก่อน ทำไมถึงคิดอย่างนั้นเพราะอากาศที่ร้อนขึ้นหลังจากที่พบแสงสาดส่องมา ในหนึ่งปีหรือหนึ่งเดือนเราจะมีโอกาสสักครั้งที่ตื่นมาก่อนดวงอาทิตย์ แล้วมานั่งรอเพื่อที่จะเห็นแสงแรกของวันใหม่ บอกเลยว่าดีต่อใจแม้ต่อจากนั้นไม่นาน แสงอาทิตย์จะเริ่มระอุขึ้นมา แต่ช่วงเวลาอันน้อยนี้ก็เพียงพอ เสียงน้ำเริ่มไหล นกเรไรเริ่มร้องทักทาย พร้อมออกหากิน ทำอย่างไรกันนะเราจะได้ตื่นขึ้นมาเจอบรรยากาศแบบนี้ในทุกวัน อากาศที่บริสุทธิ์จะช่วยบรรเทาโรคหอบหืดหรือบรรเทาโรคภูมิแพ้ อาจจะช่วยการเจ็บป่วยจาคแบคทีเรียและไวรัส ทั้งยังช่วยให้นอนหลับง่าย เพราะฉะนั้นคนที่ตื่นขึ้นมาสูดอากาศบริสุทธิ์ในทุกเช้า เพราะหนึ่งคนโชคดีแค่ไหนที่ตื่นขึ้นมาสูดอากาศบริสุทธิ์ อาหารเช้าพร้อมเสิร์ฟ แต่ในจานคงเหลือไว้เพียงเท่านี้ เพราะจัดการขนมปังปิ้งไปก่อน นอกจากในจานจะมีจัดมาพร้อมกันกับข้าวต้มร้อนๆ อาหารยามเช้าที่อิ่มท้องก่อนจะออกเดินทางกลับ แต่เราสามารถอยู่ต่อได้ถึงก่อนเที่ยงได้ หลังจากทานอาหารเช้าอยากแช่น้ำในอ่าง อยากนอนพักผ่อนเอาแรงต่อสามารถที่จะทำได้ บรรยากาศในตอนกลางคืน ท้องฟ้ามองขึ้นไปเห็นดวงดาวชัดเจน บรรยากาศเหมือนเราอยู่ที่ทุ่งนา เงียบสงบ ลมที่ลงมาจากภูเขาทำให้ต้องใส่เสื้อหนาๆแม้ในฤดูฝน สำหรับยุงที่คิดว่าจะมีเยอะเพราะอยู่กลางทุ่ง แต่กลับไม่มีสิ่งรบกวน เพียงครั้งแรกกับการพักที่พักโฮมสเตย์ รู้สึกประทับใจตั้งแต่แรกเข้า พนักงานบริการดี คุยเป็นกันเอง ไม่ว่าเราจะสอบถามมากขนาดไหนพนักงานก็ยังคงตอบด้วยใจ การเดินทางเนื่องจากไม่อยู่ใกล้กับเมืองมากนักจึงทำให้สงบ และสามารถทำงานได้ดีมีสมาธิ ที่พักสะอาดและมีกลิ่นหอม ฝุ่นแทบจะไม่มี ก่อนเข้าที่พักพนักงานจะทำความสะอาดให้จึงไม่มีกลิ่นอับ เพราะห้องเปิดโล่ง พิกัด>>https://www.google.com/maps/place/% ภาพถ่ายทั้งหมดโดยผู้เขียนเอง (อุ้งเท้าแมว)อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !