๓๖๕ วัน มหัศจรรย์ประจวบคีรีขันธ์เที่ยวได้ทุกวัน คือยุทธศาสตร์ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ททท. ได้กำหนดแนวทางไว้เมื่อปลายปีที่แล้ว เป็นแผนการเที่ยวในปี 2566 โดยเน้นการท่องเที่ยวเชิงศรัทธา หรือสายมูนั่นเองในแผนการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวของ ททท.สำนักงานประจวบคีรีขันธ์ได้ให้ อาจารย์เป็นหนึ่ง วงษ์ภูดร จัดทำคอนเท้นท์ตระเวนไหว้บูชาสิ่งศักสิทธิ์ในจังหวัดประจวบคิรีขันธ์ มัศจรรย์ 8 แห่ง อันได้แก่วัดห้วยมงคลศาลพระพรหมวัดกุยบุรีศาลเจ้าแม่นมสาวศาลหลักเมืองวัดทางสายวัดอ่างสุวรรณวัดห้วยลึกชายสามโบสถ์ ขอพาท่านไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ 3 ที่ครับ เป็น 3 ศาสนสถานที่มีความแตกต่างกัน ผมเลือกสถานที่ที่มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจนเรื่องแกนหลักที่เป็นสิ่งยึดเหนี่ยวทางจิตใจ อันได้แก่ศาลหลักเมืองจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จุดนี้แกนหลักคือ หลักเมืองที่ส่วนบนเป็นองค์เทพ 4 เศียร แกนรองคือเทพทั้งสี่องค์ที่ตั้งอยู่ 4 ทิศรอบศาลหลักเมืองศาลท่านท้าวมหาพรหม แกนหลักคือรูปปั้นทองเหลืององค์ท่านท้าวมหาพรหม แกนรองคือบ่อทั้ง 4 บ่อดิน บ่อน้ำ บ่อลม และบ่อไฟหลวงพ่อในกุฏิ วัดกุยบุรี ขอนำรูปปั้นปิดทอง หลวงพ่อในกุฏิ ขึ้นเป็นแกนหลัก ส่วนแกนรองเป็นพระพุทธรูปพระประธานในโบสถ์ นอกจากนั้นยังมี การทำบุญใส่บาตรด้วยเหรียญ ที่นับว่าทุกจุดในวัดกุยบุรี ต้องกราบไหว้ให้ครบครับศาลหลักเมืองจังหวัดประจวบคีรีขันธ์องค์เทพทั้งสี่ที่รายล้อมอยู่ในอาคาร 4 ทิศศาลหลักเมืองประจวบที่มีขนาดใหญ่และสวยงามที่สุดที่หนึ่งในประเทศไทย ศาลนี้จัดสร้างขี้นเมื่อปี พ.ศ. 2534 เป็นทรงศิลปะลพบุรี อาคารศาลจตุรมุขยอดปรางค์ 9 ชั้น แต่ละชั้นมีเทพต่างๆ ชั้นบนประดิษฐานพระพุทธรูป หน้าบันเป็นรูปราหูอมจันทร์ องค์หลักเมืองหรือ "องค์จตุโชค" ถือกำเนิดเมื่อวันขึ้น 9 ค่ำเดือน 9 แกะสลักจากไม้ตะเคียนด้วยฝีมือช่างพื้นบ้านในอำเภอกุยบุรี ยอดแกะสลักเป็น 4 เศียรปิดทองทั้งองค์ องค์จตุโชคมีการทำบุญ และประกอบพิธีไหว้ครูที่ศาลทุกปี ด้วยเหตุนี้เองจึงมีผู้คนมีความศรัทธาอย่างมากมาย บริเวณด้านนอกทั้งสี่ทิศของศาลหลักเมืองยังมี ศาลาเทพทั้งสี่ปกปักษ์อารักษ์ขาหลักเมืองอีกด้วยศาลหลักเมืองพื้นที่ตั้งมีความกว้างขวาง เปรียบเหมือนสวนสาธารณะขนาดย่อมๆ ตกแต่งวางผังอย่างลงตัว จัดสวนปลูกต่นไม้ร่มรื่น มีความแตกต่างจากศาลทั่วไป ที่มีบริเวณไม่มากนัก การเข้ามากราบสักการะนมัสการองค์หลักเมืองจตุโชค จึงไม่มีความแน่นอึดอัดแต่อย่างใด ประกอบกับศาลเล็กทั้งสี่ทิศผู้ที่เข้ามาต้องไปสักการะบูชาอยู่แล้ว จึงมีความคล่องไหลเวียนกระจายกันออกไปการมาไหว้ขอพรจากศาลหลักเมือง ส่วนใหญ่ขอให้ครอบครัว ชีวิตการงานการเงิน มีหลักมีฐานที่มั่นคง ผมได้ไปพบคุณยายท่านหนึ่ง นำไข่ไก่มาแก้บน ได้ทราบว่าท่านเดินไม่ได้ เดินไม่สะดวก ท่านได้มาบนเอาไว้ให้เดินได้ จึงมาแก้บนดั่งที่ผมได้เก็บภาพมาครับศาลหลักเมืองตั้งอยู่บนถนนศละชีพใจกลางเมืองประจวบเลยครับพิกัด : ศาลหลักเมืองจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ หลวงพ่อในกุฏิ วัดกุยบุรีพระประธานในพระอุโบสถ มีความงดงามอลังการมาก กราบไหว้สักการะพระพุทธ ก่อนเข้าไปในศาลา "หลวงพ่อในกุฏิ" ที่อยู่ติดกันรูปหล่อเท่าองค์จริงของ หลวงพ่อในกุฎิ ที่ปิดทองเหลืองอร่ามท่วมองพระต่อมาผมพามาที่วัดกุยบุรี เป็นที่ตั้งของ หลวงพ่อในกุฎิ ที่มีผู้มีจิตศรัทธามากราบไหว้ขอพรท่าน ในเรื่องของการค้าการขายซื้อขายทำธุรกิจ เรื่องทุนทรัพย์ มีความศักสิทธิ์ประสบผลสำเร็จกันมากมายครับประวัติความเป็นมาของหลวงพ่อในกุฎิ ท่านเป็นพระสายวิปัสสนา กัมมัฏฐานที่เคร่งครัด กล่าวกันว่าท่านเป็นเกจิอาจารย์ผู้วิเศษท่านหนึ่งของแดนใต้ เป็นผู้มีวาจาสิทธิพูดคำไหนต้องเป็นคำนั้น เมื่อครั้งที่โรคห่าหรืออหิวาตกโรคระบาดครั้งใหญ่ทางภาคใต้ผู้คนล้มตายเป็นจำนวนมาก ท่านช่วยเหลือชาวบ้านกุยบุรีด้วยการแผ่เมตตาจิตเจริญจิตภาวนา เพื่อขับไล่ภัยร้ายแรง พร้อมใช้คาถาอคมช่วยปัดเป่ามหันตภัยร้ายให้ผ่านพ้นไปหลวงพ่อในกุฏิ เดิมท่านชื่อมากหรือบุญมาก ท่านได้รับอาราธนาจากเจ้าเมืองกุยบุรีให้เป็นเจ้าอาวาส ทำนุบำรุงวัดที่เป็นวัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองกุยบุรีตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ท่านมักจะเจริญสมาธิภาวนาครั้งละนานๆ 7 วันถึง 15 วันในกุฎิ จึงทำให้เป็นการเรียกชื่อท่านของสานศิษย์ผู้ศรัทธา เรื่องที่เล่ากันมาอีกเรื่องหนึ่งคือ ผู้คนมักจะมาขอพร บนบานกับท่านให้ประสบผลสำเร็จ และขอแก้บนด้วยการนำทองมาปิดที่ร่างของท่าน หลวงพ่อในกุฏิไม่ขัดศรัทธา จนกล่าวกันว่า ท่านถูกปิดทองทั้งเป็นคือตั้งแต่หัวเข่าไปจนถึงปลายเท้าพิกัด : หลวงพ่อในกุฏิ วัดกุยบุรีศาลพระพรหม อำเภอหัวหินศาลพระพรหม อำเภอหัวหิน เป็นศาลพระพรหมทองเหลืองอร่ามอยู่บนเนินเขาเล็กๆ หันหน้าออกทะเล เป็นพระพรหม 4 พักตรหันไปทางทิศทั้ง 4 บริเวณโดยรอบมีลานลดหลั่นกันสามารถเดินเชื่อมต่อกันได้ มีฐานเป็นบ่อทั้งสี่คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ การตั้งจิตอธิษฐานคือเรื่องการงาน การเงิน และความสำเร็จในชีวิต ศาลพระพรหมตั้งอยู่บน เขามหาชัย ปลอดโปร่งลมเย็นสบายศาลท่านพ่อพระพรหมแห่งนี้สร้างขึ้นจากแรงประทับใจอย่างแรงกล้าของท่าน ดร.ผุสสดี จิตชุม เกิดจากนิมิตที่ท่านพ่อพระพรหมทรงสื่อสารให้เปรียบเสมือนออกแบบการก่อสร้างให้ท่านดอกเตอร์ มีการบูรณะจากองค์เดิมที่หักพังเสียหาย มีการบูรณะถึง 2 ครั้ง ในปี พ.ศ. 2533 และปี พ.ศ. 2540 บ่อ ดิน น้ำ ลม ไฟ ในนิมิตท่านบอกเหมือนธาตุทั้งสี่ของมุนย์ ความพิเศษที่ไม่ซ้ำใครคือ รั้วรูปหัวใจสีชมพูขนาดใหญ่ทั้ง 7 ดวงที่เป็นโซ่ร้อยเข้าไว้ด้วยกัน เปรียบเสมือนชะตาชีวิตของมนุษย์ แม้แต่ศาลาเล็กที่ข้างในมีดอกบัวประดับกระจก ก็ตอบโจทย์ได้ว่า ดอกบัวคือดอกไม้ที่มีไว้บูชาทั้งบนโลกและชั้นพรหม มีคติให้คิดว่า ดอกบัวมีนัยยะทั้งในการจมอยู่ในโคลนตม เมื่อพ้นโคลนตม ก็กลายเป็นสิ่งที่ใช้บูชาสิ่งศักดิ์สิทธ์ ศาลท่านท้าวพระหรหมแห่งนี้เสร็จมสบูรณ์เมื่อปี พ.ศ. 2542พิกัด : ศาลท่านพ่อพระพรหมชายสามโบสถ์ มาตามรอยอาจารย์เป็นหนึ่ง สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้ 3 มหัศจรรย์ประจวบคีรีขันธ์ จากทั้งหมด 8 มหัศจรรย์ ถ้ามีโอกาสจะกลับมาสักการะให้ครบทั่ง 8 มหัศจรรย์ ครับ ภาพหน้าปก และภาพถ่ายประกอบ Content โดยครีเอเตอร์ ชายสามโบสถ์อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !