“ล่องใต้กันเถอะพ่อ! หนูอยากไปหัวหินนนนน” ลูกสาวขอมา พ่อกับแม่จัดให้อยู่แล้ว ก็ยกครอบครัวเที่ยวทะเลใต้กันซะเลยบอกก่อนครับว่า นี่เป็นเรื่องราวท่องเที่ยวของครอบครัวเราเมื่อพฤษภาคม 2565 เราไปทำอะไรสนุกๆ กันที่นั่นบ้าง จะเล่าให้อ่านกันครับเดินทางออกบ้านที่แพรกษาสมุทรปราการกันเช้าวันเสาร์ ใช้เส้นทางกาญจนาภิเษกหมายเลข 9 เลี้ยวซ้ายเข้าเส้นพระราม 2 หมายเลข 35 เลี้ยวซ้ายอีกรอบที่แยกวังมะนาวเข้าถนนเพชรเกษม หมายเลข 4 มุ่งหน้าล่องใต้!หมุดหมายแรก Miss T Cafe & Restaurant เข้าเขตพื้นที่ชะอำไม่ทันเท่าไหร่ ท้องฟ้าเหนือถนนหนทางข้างหน้าเมฆดำมืดแผ่ออกเป็นวงกว้าง แล้วก็ยังไม่ทันสบถอะไรออกมา ห่าฝนก็ลงมาเต็มหน้ารถแล้วนี่เป็นบทเรียนแรกของมือใหม่หัดเที่ยวอย่างเรา อยากเที่ยวก็เที่ยว ไม่หาข้อมูลสภาพดินฟ้าอากาศก่อนก็จะเป็นแบบนี้ มารู้อีกทีว่า พฤษภาคม-ตุลาคม เป็นช่วงฤดูฝนของภาคใต้ ก็แก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว ต้องลุยกันต่อผมเลี้ยวซ้ายออกจากถนนเพชรเกษมทางเข้า โรงแรม Boat House Hua Hin ป่าวครับ ยังไม่ถึงที่พักของเรา เราแค่จะแวะฝากท้องก่อนเท่านั้น ที่เราหมายตาไว้นั่นคือ Miss T Cafe & Restaurant ที่ซ่อนตัวอยู่หลังโรงแรมนั่นเองลานจอดรถที่กว้างขวางขณะนั้นมีรถจอดไม่ถึงสิบคัน ในใจก็คิดว่า อ้อ ก็มีคนเที่ยวเหมือนเราด้วย ฮาฮาฮา (หาเพื่อน) พื้นที่จัดไว้ดีมากนะครับ มีอาคารสำหรับนั่งห้องแอร์เย็นๆ หนึ่งหลัง มีซุ้มกระจายตัวทั่วพื้นที่ ไปจนถึงชายหาดน่าเสียดายสุดๆ ที่ฝนฟ้าไม่เป็นใจ แทนที่จะได้นั่งกินอาหารตามซุ้ม มองวิวทะเลไปด้วย เราต้องนั่งกันอยู่ในร้านอาหาร มองวิวทะเลกลางม่านฝนผ่านกระจก ดีมากที่เรามาก่อน ช้าอีกนิดรับรองได้หาร้านใหม่แน่นอนประทับใจไหม? ขอตอบแบบนี้แล้วกัน ด้วยความสวยงามของสถานที่ แม้จะฝนตกไม่ขาดสาย เราก็ยังดันด้นออกไปเดินชมสวน ชมทะเลกันได้ก็แล้วกัน มีโอกาสจะขอแก้ตัวอีกสักครั้งครับหมุดหมายสอง อุทยานราชภักดิ์ออกจากร้านอาหารแล้วก็ยังเหลือเวลาก่อนเช็คอินที่โรงแรม เราก็ลุยฝนกันไปต่อที่ อุทยานราชภักดิ์ จังหวะที่เราไปถึง มีนักท่องเที่ยวกลุ่มใหญ่กำลังเดินทางกลับขณะที่ฝนก็เริ่มจะหยุดแล้ว แต่ฟ้าก็ยังปิดอยู่เหมือนเดิม เป็นสถานที่ค่อนข้างเรียบง่าย มีร้านค้าให้บริการไม่กี่ร้าน ห้องโถงจัดแสดงรูปจำลองของพระมหากษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ และลานที่ประดิษฐานรูปจำลองขนาดใหญ่ของทั้ง 7 พระองค์เราก็เข้าไปสักการะบูชารูปจำลองในอาคาร ให้เจ้าหน้าถ่ายรูปหมู่เป็นที่ระลึกให้ จากนั้นก็นั่งรถรับส่งนักท่องเที่ยวออกไปยังลานที่อยู่กลางอุทยาน ใช้เวลาชื่นชมความยิ่งใหญ่ท่ามกลางสายฝนพร่ำๆ อยู่พักใหญ่ ก็พากันเดินทางต่อหมุดหมายสาม S3 Hua Hinขับรถออกมาแค่สิบนาทีก็มาถึงโรงแรมแล้ว S3 Hua Hin อยู่ริมถนนเพชรเกษม ซอยหัวหิน 64 เป็นอาคารสูงห้าชั้น มีลานจอดรถยนต์ใต้ตึก ไฮไลต์มีสระว่ายน้ำอยู่บนชั้นสามซะด้วย เวลานั้นลานจอดว่างให้เลือกจอดได้สบายมากภาพรวมของโรงแรมน่าพอใจมาก สะอาดสะอ้านเป็นระเบียบเรียบร้อย เรามีโอกาสใช้บริการสระว่ายน้ำในช่วงเย็น ด้วยสภาพอากาศที่ฟ้าปิดฅลอดวันทำให้น้ำเย็นจนปากสั่นกันเลยทีเดียว วิวจากสระน้ำมองออกมาที่ถนนเห็นเมืองหัวหินในมุมที่ผมชอบมากติดหาดไหม? ไม่ติด ห่างออกไปแค่ 500 เมตร ข้ามถนนเดินเล่นยังไม่ทันเหนื่อยก็ถึงหาดแล้วหมุดหมายสี่ สวนหลวงราชินี 19 ไร่พักเอาแรงกันจนพอใจ เราก็ออกจากโรงแรมไปย่ำหาดทรายกันที่ สวนหลวงราชินี 19 ไร่ ห่างจากโรงแรมประมาณ 4 กม. สี่โมงเย็น ฝนไม่ตก แดดไม่มี คลื่นลมไม่แรง เหมาะกับการเล่นน้ำมาก นักเที่ยวหลายครอบครัวก็สนุกสนานกันมากผมชอบหาดตรงนี้มาก มันต่างจากหาดยอดนิยมอย่างชะอำ หรือบางแสนมาก หาดสะอาด น้ำใส ทรายสวย น่าเสียดายอีกแล้ว เพราะชวนสาวๆ เล่นน้ำแล้ว แต่ละคนเลือกที่จะเดินเล่นเลาะหาดก็พอแล้ว ไม่อยากขัดใจก็เดินถ่ายรูปกันเพลินๆหมุดหมายห้า ฅลาดโต้รุ่งหัวหินคืนนั้นเราออกจากโรงแรมประมาณหนึ่งทุ่มเพื่อไปเดินหาของกินกันที่ ตลาดโต้รุ่งหัวหิน ตลาดห่างจากโรงแรมประมาณ 1.5 กม. ใช้เวลาเดินประมาณเกือบยี่สิบนาทีตลาดทอดยาวตามซอยหัวหิน 72 ตลาดคึกคัก แต่ไม่ถึงกับต้องเดินเบียดกัน สาวๆ ชอบใจมาก แวะร้านของกินตลอด เรียกว่ากินหมดตรงไหน ก็แวะร้านที่อยู่ใกล้ๆ นั่นเลย ลูกสาวคนโตชอบร้านเครื่องประดับ ยืนเลือกมาอยู่หลายชิ้นมื้อเย็นของเราคืนนั้นก็ไม่รู้ว่าเรากินอะไรกันเข้าไปบ้าง บางทีการเดินกันมาไกลก็ได้ทำให้หิวจัด จึงกินกันไม่นับ เราเดินกันไม่สุดซอยด้วยซ้ำ แต่ก็ใช้เวลาไปไม่น้อย จากนั้นเราก็เดินกลับโรงแรมคืนนั้นเรียกว่าหมดแรงกันเลยนอนหลับกันสนิทหมุดหมายหก ชมหาดทรายท้ายซอย 51นอมตื่นเช้าจนติดตัว เหนื่อยแค่ไหนก็ยังตื่นไหว ผมจึงถือโอกาสเดินออกำลังกายสำรวจพื้นที่รอบๆ สิ่งที่เห็นเป็นอย่างแรกนั่นคือ รถจอดแน่นทุกช่อง แล้วก็จอดข้างกำแพงยาวถึงถนนหน้าโรงแรม แขกน่าจะเต็ม!ผมเดินข้ามถนน แล้วตัดเข้า ซอยหัวหิน 51 ทางลงหาดเส้นนี้ผมเชื่อว่าจะต้องคึกคักตลอดวันกันตลอดคืนแน่ สังเกตจากป้ายร้านอาหารที่เห็นปลายทางเป็นหาดทรายขาว ผมกำลังมองหาจุดที่น่าจะให้เด็กลงเล่นน้ำตอนสายได้ หาดน่าเดินเล่นมาก เสียดายคลื่นลมแรงไปหน่อย และฝนก็กำลังจะมาอีกแล้วพอมื้อเช้าฝนก็เทลงมาอย่างหนัก เราก็เลยนั่งทานข้าวมองสายฝนแทนหมุดหมายเจ็ด ลมดีคาเฟ่อย่างที่บอกว่าเราลงเล่นน้ำตอนสายไม่ได้เพราะฝนตกและลมแรงเราจึงเปลี่ยนแผนแล้วเดินทางกลับเร็วกว่าเดิม ตอนที่เราเดินทางออกมานั้นฝนยังเทกระหน่ำไม่หยุดขับรถกันมา 1 ชั่วโมงเราก็แวะพักกันที่ ลมดีคาเฟ่ เพชรบุรี เวลานั้นก็น่าจะเราราวเที่ยงกว่าๆ เราไม่รู้จักที่นี่มาก่อน เราต้องการกินข้าวกลางวันก็หาข้อมูลตามอินเตอร์เน็ต เห็นว่าที่นี่น่าสนใจก็แวะเข้ามาดูเข้ามาก็ไม่ผิดหวังครับ คาเฟ่ตั้งอยู่บนกลางทุ่งกลางนาในบรรยากาศที่เขียวขจีเหมือนตัดขาดจากโลกภายนอกไปเลย ตัวร้านโปร่งโล่งตสบายไม่อึดอัดทานข้าวเรียบร้อยก็ถือน้ำกันคนละแก้วเดินเลาะไปตามสะพานไม้ แวะไปตามซุ้มต่างๆ ย่อยอาหาร ผ่อนคลาย ก่อนจะมุ่งหน้าเข้าเมืองอีกครั้งทริปนี้ค่อนข้างสั้นและดูเหมือนเราจะไม่ได้ทำอะไรมาก แต่พอมานั่งเขียนกลับเห็นต่างออกไป สองวันหนึ่งคืน ก็นึกสงสัยอยู่ว่า ทำไมทำอะไรได้หลายเรื่องจัง ก็หวังว่าคงสนุกกันนะครับ เครดิตภาพประกอบโดยผู้เขียนอยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !