ด้วยวิถีชีวิตที่เร่งรีบในเมืองกรุงทำให้ในแต่ละ วันที่ออกจากบ้านตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่าง กลับถึงบ้านก็มืดค่ำ เรี่ยวแรงแทบไม่เหลือ ทำให้ถึงวันหยุด เสาร์-อาทิตย์ ก็ไม่อยากจะออกไปไหน จะไปห้างสรรพสินค้า ผู้คนเยอะชวนเวียนหัว แต่บางช่วงเวลาก็ต้องการออกไปพักผ่อน เพื่อให้รู้สึกผ่อนคลาย เลยหาการเที่ยวแบบวิถีชุมชนบ้าง อยากไปจิบกาแฟริมน้ำสงบ ๆ หาข้อมูลสักพัก จนมาเจอชื่อ “คลองบางหลวง” ไม่ได้ไกลจากที่พักสักเท่าไหร่ พออ่านประวัติความเป็นมา ยิ่งน่าสนใจมากขึ้น เพราะเป็นชุมชนเก่าแก่ตั้งแต่สมัยอยุธยา เลยชวนสมาชิกในบ้านออกไปเที่ยวกัน เราใช้เส้นทางจากถนนจรัญซอย 3 ผ่านคอนโดเข้ามาถึงท้ายซอย สุดทางก็เจอทางเล็ก ๆ มีสะพานข้ามคลอง ทำไม?ใกล้จัง “คิดในใจ” เดินลัดเลาะเข้ามาในคลอง มีบ้านริมน้ำปลูกเรียงรายริมสองฝั่งคลอง ในอดีตคลองแห่งนี้เคยเป็นแม่น้ำเจ้าพระยาสายหลัก แต่มีการขุดคลองลัด เพื่อย่นระยะ เพราะเป็นโค้งน้ำ จากทางลัดกลายเป็นแม่น้ำแทน พอเดินเข้ามด้านในชุมชน ได้เห็นวิถีชีวิตคนริมคลองบางหลวง แค่ข้ามสะพานมาเหมือนหลุดมาอีกมิติหนึ่งเลย บรรยายกาศเงียบสงบ คนที่มาส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ มีเด็กกำลังให้อาหารปลาอยู่อย่างสนุกสนาน เดินเข้ามาด้านใน สักพักก็เจอ “บ้านศิลปิน” ที่รวมศิลปะต่าง ๆ แต่ที่นี้มีชื่อคือการแสดงโขน หุ่นละครเล็ก “ พึ่งอ่านหาข้อมูลมา “ มีงานศิลปะโชว์ มีมุมให้เด็ก ๆ ระบายสี มีร้านกาแฟด้วยเราก็นั่งจิบกาแฟดูบรรยากาศรอบ ๆ อย่างสบายอารมณ์ คนไทยอย่างเราทำไมไม่รู้ ?ว่ามีสถานที่ดีแบบนี้ “สงสัยมัวเอาแต่ทำงานไม่เคยได้มองหา แต่ถ้าตั้งใจก็จะมองเห็นเหมือนวันนี้” ของเล่นต่าง ๆ ตั้งโชว์ โชคดีมากได้ดูการแสดงโขนด้วยวันนี้ เราร่วมบริจาคเพื่อสนับสนุนงานดี ๆ แบบนี้ ได้เรียนรู้ศิลปะวัฒนธรรม อิ่มบุญและสุขใจกันทั้งครอบครัว การได้ออกมาเรียนรู้วิถีชุมชน ที่มีมาตั้งแต่ในอดีต เหมือนเป็นการได้ช่วยกันอนุรักษ์วัฒนธรรมชุมชน ให้เข้มแข็ง เพราะวิถีชีวิตที่เร่งรีบทำให้มีการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมไปมาก ตราบใดที่ยังมีนักท่องเที่ยว ชุมชนยังจะขับเคลื่อนไปได้ เลยอยากชวนผู้อ่านมาเที่ยวกันหลังโควิดคลี่คลายนะ เรื่องและภาพ นิ้วเราไม่เท่ากัน