มาแล้วจ้าเทศกาลที่สายท่องเที่ยวรอคอยกับการเปิดให้จองตั๋วรถไฟขบวนนำเที่ยวไปเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ลพบุรี หรือรถไฟลอยน้ำ 2567 ที่เริ่มเปิดให้จองตั๋วรถไฟวันแรกตั้งแต่วันที่ 24 ตุลาคม 2567 และรถไฟเที่ยวแรกของขบวนก็เริ่มออกเดินทางในวันที่ 3 พฤศจิกายน 2567 ที่ผ่านมา ซึ่งแน่นอนว่าปีนี้เราไม่มีพลาดเหมือนปีก่อนแน่นอน แถมยังจองได้เที่ยวแรกของปีอีกด้วย โดยการเดินทางไปรถไฟลอยน้ำของปีนี้จะเป็นยังไง ใครที่ไปครั้งแรกแบบเราต้องเตรียมตัวเตรียมใจยังไงบ้าง ตามมาอ่านกันเลย! ขอเริ่มต้นที่การจองตั๋วรถไฟ โดยการเดินทางครั้งนี้ เราเลือกจองผ่านเว็บไซต์ https://dticket.railway.co.th ของการรถไฟแห่งประเทศไทย และเลือกจองแบบรถนั่ง ชั้น 3 พัดลม ราคาไปกลับสำหรับผู้ใหญ่จะอยู่ที่ 350 บาท/คน โดยเราสามารถเลือกจุดขึ้นรถได้ แต่ละจุดเวลาขึ้นรถไฟจะแตกต่างกันต้องเช็กให้ดีๆ ซึ่งเราเลือกขึ้นรถที่สถานีหัวลำโพงต้นทาง รถออก 06.00 น. ราคาค่าตั๋วรถไฟลอยน้ำ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ลพบุรี ปรับอากาศ รถนั่ง ชั้น 1 ไปกลับ 620 บาท/คน (ผู้ใหญ่) ปรับอากาศ รถนอน ชั้น 2 ไปกลับ 620 บาท/คน (ผู้ใหญ่) พัดลม รถนั่ง ชั้น 3 ไปกลับ 350 บาท/คน (ผู้ใหญ่) สำหรับบรรยากาศสองข้างทางของการนั่งรถไฟขาไปส่วนตัวประทับใจ เพราะอากาศกำลังดีถึงแม้ว่าจะไม่ใช่ลมหนาว แต่แดดไม่ร้อนอย่างที่คิด และก็มีลมพัดสบายตลอดทาง (ในขบวนมีพัดลมเพดานตลอดด้วย) แต่ถ้าใครเป็นคนขี้ร้อนแนะนำพกพัดลมมือถือเล็กๆ ติดมาด้วย เพราะขากลับเราเดินทางช่วงหลัง 3 โมง แดดยังค่อนข้างจัด ดีที่ลมข้างนอกช่วยระบายความร้อนได้พอสมควร ส่วนเส้นทางการเดินทางจากกรุงเทพฯ สู่เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ลพบุรี จะมีแวะให้นักท่องเที่ยวอย่างเราได้ลงจากรถไฟทั้งหมด 3 จุดด้วยกัน จุดแรก : จุดชมวิวกลางเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ หรือจุดชมวิวรถไฟลอยน้ำ (ประมาณ 25 นาที) สำหรับจุดนี้คือความพิเศษของทริปที่ให้เราได้ถ่ายรูปมุมรถไฟลอยน้ำ ซึ่งวันที่เราไปเป็นวันแรก คนค่อนข้างเยอะ หามุมถ่ายรูปยากมาก แต่ถ้าดูด้วยตาเปล่าคือสวยมาก เพราะลักษณะเขื่อนมีความกว้างแบบสุดลูกหูลูกตา ลมพัดเย็นสบาย อยากให้ทุกคนได้ไปสัมผัส จุดที่สอง : สถานีโคกสลุง จุดแวะช็อป ชิม ชิลกับสินค้า OTOP (ประมาณ 20 นาที) ใครที่เป็นสายชิมชอบซื้อของกลับบ้านแนะนำให้เตรียมกระเป๋าผ้าไปด้วย เพราะถึงแม้ว่าจะเป็นจุดเล็กๆ แต่ของกินเยอะมาก ทั้งปลาสลิด ทอดมัน ไข่นกกระทา หมูปิ้งสมุนไพร ฯลฯ จุดนี้เป็นจุดที่แม่เราชอบมากจนต้องแอบเบรกกันเลย เพราะถ้าซื้อมากกว่านี้กลัวจะกินไม่หมด 5555 จุดที่สาม : ที่หยุดรถเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จุดท่องเที่ยวที่ให้นักท่องเที่ยวได้เลือกตามความชอบ (ประมาณ 5 ชั่วโมง) สำหรับจุดนี้คือจุดหยุดรถที่เรานักท่องเที่ยวจะได้ไปเที่ยวตามไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน โดยหลักๆ จะแบ่งเส้นทางเที่ยวเป็น 2 แบบ คือ เที่ยวในเขื่อน กับเที่ยวนอกเขื่อน ซึ่งแต่ละเส้นทางจะใช้ระยะเวลาค่อนข้างมาก ถ้าอยากเก็บให้ครบต้องเผื่อเวลาให้ดี ส่วนเราก็เลือกเที่ยวทั้ง 2 แบบ ซึ่งแอบเหนื่อยเหมือนกัน 😅 เที่ยวเส้นทางนอกเขื่อน ใครที่เป็นสายตะลุยไม่กลัวเหนื่อย แนะนำเส้นทางนี้ โดยส่วนใหญ่จะเน้นเที่ยวตามไร่ ดูทุ่งทานตะวัน ให้อาหารสัตว์ มีรถตู้เอกชนให้เลือกนั่ง ซึ่งเราเลือกที่จะซื้อตั๋วแบบเที่ยวครบนอกเส้นทางเขื่อน ตกคนละ 100 บาท และต้องเก็บตั๋วไว้ให้ดีเพราะจะได้ขึ้นรถคันถูก สำหรับที่เที่ยวที่เราได้แวะไป เช่น ไร่ YO / บ้านกล้วย & ไข่คาเฟ่ / ไร่ทรัพย์ประยูร เที่ยวเส้นทางในเขื่อน สำหรับเส้นทางนี้เน้นสายชิลดูธรรมชาตินั่งรถหนอนรอบเขื่อน (ผู้ใหญ่คนละ 30 บาท) จะมีมัคคุเทศน์น้อยประจำรถคอยให้ความรู้และแนะนำจุดสำคัญที่รถผ่าน และใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงไปกลับ ซึ่งนอกจากจะได้ชมธรรมชาติแล้ว เรายังได้ไปไหว้พระสักการะหลวงปู่ใหญ่ป่าสัก หรือพระพุทธรัตนมณีมหาบพิตรชลสิทธิ์มงคลชัย ที่อยู่ในพื้นที่สระบุรีอีกด้วย (เขื่อนป่าสักตั้งอยู่ในพื้นที่ 2 จังหวัด คือ ลพบุรี และสระบุรี) แต่ด้วยระยะเวลาที่จำกัด เพราะใกล้ถึงเวลารถไฟออก ทำให้เราได้ไปแค่นี้ แอบเสียดายเหมือนกัน กะไว้ว่าถ้าไปครั้งหน้าจะขอเที่ยวเส้นทางในเขื่อนแบบเต็มเวลา สุดท้ายนี้ ส่วนตัวรู้สึกประทับใจกับการเดินทางในครั้งนี้ทั้งสภาพรถไฟที่สะอาด ดูใหม่ การบริการที่มีเจ้าหน้าที่เดินตรวจตราแวะมาทักทายให้ความรู้อยู่เรื่อยๆ และสำหรับใครที่อยากเดินทางไปรถไฟลอยน้ำ หรือเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ โดยมีจุดหมายเพื่อไปดูทุ่งทานตะวันด้วย เราขอแนะนำให้ไปช่วงกลางเดือนพฤศจิกายนเป็นต้นไป เพราะช่วงที่เราไปดอกทานตะวันยังบานไม่ค่อยเต็มที่ แต่ยังมีพอให้ได้ถ่ายรูปติดมือกลับไปบ้าง และสิ่งที่อยากให้พกติดมาด้วยคือ พัดลมมือถือ ร่มหรือหมวก น้ำเปล่า เพราะถึงจะเข้าสู่ฤดูหนาวอย่างเป็นทางการ แต่ฤดูหนาวของไทยก็ยังมีแดด และอากาศก็ร้อนไม่ต่างจากเดิม เพิ่มเติมคือมีลมพัดระบายร้อนดีขึ้นมาหน่อย ช่องทางซื้อตั๋วรถไฟลอยน้ำ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ลพบุรี ระบบ D-Ticket (เว็บไซต์ https://dticket.railway.co.th) ระบบ D-Ticket (Application) สถานีรถไฟทั่วประเทศ หรือติดต่อสอบถามหมายเลขโทรศัพท์ 1690 ภาพประกอบบทความทั้งหมด ถ่ายภาพโดย เล่าจากลัง ติดตามอ่านและดูคลิปรีวิวสถานที่ท่องเที่ยว แชร์พิกัดร้านอร่อย เมนูเด็ด เพิ่มเติมได้ที่ เล่าจากลัง https://ttid.co/UAnK/hawfpv1e เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !