ไปถึงกาญจนบุรี ได้นั่งชิล ๆ ชมวิวข้างแม่น้ำแควใหญ่ เห็นสะพานข้ามแม่น้ำแควใหญ่ ซึ่งเป็นที่รู้จักกันทั่วไปว่าเป็น เส้นทางรถไฟสายมรณะ ที่มีชื่อเสียงโด่งดังระดับโลกมาตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ก็นับว่าน่าประทับใจแล้ว...ยิ่งน่าสนใจและประทับใจได้อีก กับทริปนั่งรถไฟชั้น 3 (พัดลม) ชมธรรมชาติและทิวทัศน์ตลอดสองข้างทางรถไฟสายประวัติศาสตร์นี้ ไปจนสุดสาย แวะเที่ยวน้ำตกไทรโยคน้อย (น้ำตกเขาพัง) แหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อของจังหวัดค่ะนั่งรถไฟไปตามทางสายประวัติศาสตร์ สงครามโลกครั้งที่ 2ความรู้สึกเมื่อได้ขึ้นรถไฟตู้พัดลม จากสถานีสะพานแควใหญ่ ข้ามแม่น้ำแควใหญ่ ไปตามเส้นทางสายประวัติศาสตร์ ก็มีทั้งสนุกและตื่นเต้นค่ะ...สนุก เพราะการได้นั่งอยู่ในตู้พัดลม ทำให้ได้สัมผัสบรรยากาศตลอดสองข้างทางแบบเรียลลิตี้จริง ๆ ทำให้รู้สึกถึงความคลาสสิก ถึงจะร้อนสักนิด แต่ก็พอทนได้ ไม่ต้องคิดมากอะไร ค่ารถแค่คนละ 16 บาทต่อเที่ยวค่ะ...ตื่นเต้น เมื่อระลึกได้ว่ากำลังเดินทางบนเส้นทางสายประวัติศาสตร์ ที่ถูกสร้างขึ้นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ตั้งแต่ปี 2485...คนที่ไปเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นคนไทยหรือชาวต่างชาติ โดยเฉพาะเด็ก ๆ ก็ดูมีความสุขสนุกสนานและตื่นตาตื่นใจค่ะ...ทั้งบนรถไฟและตลอดเส้นทาง เราจะเห็นชาวต่างชาติเยอะ เพราะความโด่งดังของทางรถไฟสายมรณะ รวมทั้งความสวยงามของภูมิประเทศที่เป็นป่าเขาและแม่น้ำ ที่คนทั่วโลกต่างอยากไปชื่นชม...ระหว่างการเดินทาง ก็จะมีคนถือตะกร้าของกิน - เครื่องดื่ม ราคาไม่แพง เดินขายตามขบวนรถไฟด้วยค่ะชมทิวทัศน์น่าหวาดเสียวแต่สวยงาม ตรงโค้งมรณะ - ถ้ำกระแซขึ้นรถไฟจากสถานีสะพานแควใหญ่ไปประมาณชั่วโมงเศษ ๆ ก็จะถึงสถานีถ้ำกระแซ...บริเวณนี้เรียกว่า โค้งมรณะ เพราะต้องสร้างทางรถไฟบนที่สูงชัน เลียบริมเขาหินที่คดโค้ง ส่วนด้านล่างก็เป็นแม่น้ำลึก นับเป็นการก่อสร้างที่หฤโหด ทำให้แรงงานต้องเสียชีวิตไปมาก...แต่ในความน่าหวาดเสียวตลอดโค้งซึ่งมีระยะทางประมาณ 500 กิโลเมตร นั้น ก็เหมือนมีสิ่งปลอบใจคือวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม นับเป็นจุดที่สวยที่สุดของเส้นทางก็ว่าได้ค่ะ...ตอนผ่านบริเวณนี้ รถไฟจะแล่นช้า ๆ ก็ด้วยลักษณะของเส้นทาง ซึ่งก็ทำให้ผู้โดยสารในขบวนรถไฟ โดยเฉพาะในตู้พัดลม ได้ชมบรรยากาศที่ไม่ได้พบเจอกันได้บ่อย ๆ เช่น ผาหิน สะพานรถไฟ ฯลฯ ได้นาน ๆ ค่ะ...ถ้ำกระแซ เคยเป็นที่พักของเชลยสงครามที่ถูกนำไปเป็นแรงงานก่อสร้างทางรถไฟ ปัจจุบัน ภายในถ้ำประดิษฐานพระพุทธรูป หลวงพ่อถ้ำกระแซ ซึ่งเป็นที่เคารพสักการะของคนในพื้นที่...ส่วนพื้นที่โดยรอบ ก็เป็นอีกพิกัดท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจที่สวยงามและเป็นแหล่งประวัติศาสตร์สำคัญ มีทั้งรีสอร์ท โฮมสเตย์ ร้านอาหาร ตลาดสินค้าพื้นเมือง ฯลฯ จึงพบเห็นนักท่องเที่ยวมากมายทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติมากมายค่ะเหมือนนั่งรถไฟลอยฟ้า สุดสายแล้วต่อรถสองแถวต่อจากสถานีถ้ำกระแซไปประมาณเกือบชั่วโมง จึงจะถึงสถานีน้ำตก ซึ่งเป็นสถานีปลายทาง...ระหว่างทาง ก็ยังมีอีกหลายช่วงที่รถไฟจะเหมือนไต่ตามไหล่เขา ข้ามหุบเหว ให้ความรู้สึกเหมือนนั่งอยู่บนรถไฟลอยฟ้าค่ะ...ใช้เวลาในการเดินรอบหนึ่ง 2 ชั่วโมง โดยประมาณ...จากสถานี นั่งรถสองแถวไปยังน้ำตกไทรโยคน้อยใช้เวลา 10 นาที ค่าโดยสารคนละ 20 บาท...รถสองแถวจอดที่ปากทางเข้าน้ำตกซึ่งตั้งอยู่ติดถนน เดินเข้าไปจากถนนไม่ไกล ก็ถึงน้ำตกแล้ว...น้ำตกเปิดระหว่างเวลา 8:00 - 18:00 น. ไม่เสียค่าเข้าค่ะ...เนื่องเป็นเขตอุทยานแห่งชาติไทรโยค จึงไม่อนุญาตให้นำเข้าหรือจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ภายในบริเวณน้ำตกนะคะเล่นน้ำเย็น ๆ สนุก ๆ ในน้ำตกสวย ๆน้ำตกไทรโยคน้อย มีอีกชื่อว่า น้ำตกเขาพัง เพราะเป็นน้ำที่ตกลงมาตามโขดหินที่ลดหลั่นลงมาเป็นระดับ ๆ เกิดจากภูเขาหินปูนที่พังลงมา ทำให้มีแอ่งเป็นชั้น ๆ แคบบ้างกว้างบ้าง แล้วก็มีลำธารตื้น ๆ น้อยใหญ่ อยู่โดยรอบบริเวณ ให้ผู้ไปเยือนได้ลงเล่นน้ำค่ะ...ไปถึงน้ำตกแล้ว ก็เล่นน้ำสิคะ จะรออะไร...ถึงแม้ว่าช่วงที่ไปนี้ เป็นฤดูแล้ง มีน้ำไม่มากนัก แต่ก็ยังมีน้ำให้เล่นได้สนุก โดยเฉพาะกับเด็ก ๆ บรรยากาศบริเวณน้ำตกก็สวยงาม ร่มรื่น เย็นสบาย ไม่ทำให้ผิดหวัง สมกับชื่อเสียงที่ได้ยินมาค่ะ...น้ำเย็น น้ำในระดับที่สูงขึ้นจะใสมาก เพราะเป็นน้ำซับออกมาจากหินบนภูเขา ส่วนน้ำในแอ่งด้านล่าง ๆ ลงมา ก็ใสน้อยลง เพราะมีฝุ่นมีตะกอนมากขึ้นตามธรรมชาติ ทั้งยังมีคนลงเล่นน้ำอยู่ตลอด...ข้อควรระวังคือ พวกโขดหินมีความลื่นเป็นที่ขึ้นชื่อทีเดียว (ว่ามักมีคนลื่นล้มจนหัวล้างข้างแตกกัน) การเดินหรือปีนป่ายบนโขดหินต้องใช้ความระมัดระวังมาก ๆ ค่ะ...เขาจัดสถานที่สวยงาม ให้รู้สึกน่าเล่นน้ำมาก แต่ถ้าใครไม่เล่นน้ำ แค่นั่งเล่นเดินเล่น ก็รู้สึกผ่อนคลายแล้วค่ะได้เจอกับคุณปู่หัวรถจักรไอน้ำอายุ 80 ปีเขามีทางรถไฟเข้ามาในบริเวณน้ำตกด้วย ปัจจุบันมีไว้สำหรับรถไฟนำเที่ยว (จากกรุงเทพฯ ที่มีในวันเสาร์ - อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์) ให้วิ่งเลยจากสถานีน้ำตกเข้ามาจอดสุดรางที่นี่เลย โดยที่นักท่องเที่ยวไม่ต้องต่อรถสองแถว เหมือนที่เดินทางมากับขบวนรถไฟทั่วไป (จากธนบุรีและกาญจนบุรี) ค่ะ...รางรถไฟตรงจุดนี้ นับเป็นจุดปลายทางของเส้นทางรถไฟสายมรณะที่ยังหลงเหลือและใช้งานมาถึงปัจจุบัน...เส้นทางต่อจากนี้ ที่ถูกสร้างในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เพื่อให้ไปเชื่อมกับทางรถไฟพม่า ตามแผนของกองทัพญี่ปุ่น ภายหลังมา ไม่ได้ใช้ประโยชน์ จึงถูกยกเลิกไปแล้วค่ะ...นอกจากนี้ ใกล้ ๆ จุดจอดรถไฟ เขายังจัดแสดง หัวรถจักรไอน้ำโบราณ หมายเลข 702 ซึ่งผลิตในญี่ปุ่น ใช้งานบนทางรถไฟสายนี้มาตั้งแต่ปี 2489 จนปลดระวางในปี 2519...อย่าว่าแต่เด็ก ๆ ที่ตื่นเต้นเลยค่ะ ผู้ใหญ่อย่างเรา ๆ ก็รู้สึกไม่ต่างกันเมื่อได้เจอคุณปู่รถไฟ ตรงที่สุดทางรถไฟสายมรณะนี้ไป - กลับ ตลอดสาย จ่าย 62 บาททั้งด้านในบริเวณน้ำตกและฟากตรงข้าม มีร้านขายอาหาร - เครื่องดื่ม ร้านขายของที่ระลึก และมีห้องน้ำ - ห้องอาบน้ำด้วย เซเว่นก็อยู่ไม่ไกลจากท่านถและทางเข้าน้ำตกค่ะ...ใครตั้งใจจะไปเล่นน้ำ ก็อย่าลืมเอาชุดใหม่ไปเปลี่ยนนะคะ ค่าบริการห้องอาบน้ำ คนละ 10 บาท ค่ะ...ขากลับ เราก็จะกลับเส้นทางเดิม ได้ชมวิวสวย ๆ ตลอดสองข้างทางรถไฟอย่างจุก ๆ ฟิน ๆ กันอีกรอบ...ค่าใช้จ่ายสำหรับการเดินทางท่องเที่ยวแบบสโลวไลฟ์ (ไม่รวมค่าใช้จ่ายอื่น ๆ) ตามเส้นทางรถไฟสายประวัติศาสตร์ ไป - กลับ ในครั้งนี้ รวมทั้งสิ้น คนละ 62 บาท ค่ะสำหรับท่านที่สนใจการเดินทางท่องเที่ยวตามเส้นทางรถไฟสายมรณะ (ขบวนนำเที่ยว เริ่มจากกรุงเทพฯ ขบวนทั่วไปเริ่มจากธนบุรี และกาญจนบุรี) การได้ศึกษาประวัติความเป็นมาของเส้นทาง และข้อมูลของสถานที่สำคัญตามเส้นทาง ก่อนเที่ยว จะช่วยเพิ่มอรรถรสให้แก่การเดินทางได้มากยิ่งขึ้นค่ะ...เพราะตั้งแต่สะพานแควใหญ่ จนถึงน้ำตกไทรโยคน้อย จะมีพิกัดหรือสถานที่มากมายที่มีเรื่องราวน่าสนใจเกี่ยวกับการก่อสร้างทางรถไฟ เช่น ถ้ำเชลย ช่องเขาขาด วัดถ้ำเขาปูน โค้งมรณะ ถ้ำกระแซ วังโพ ปล่องถ้ำชะนี สะพานถ้ำชะนี เป็นต้น...สำหรับผู้เขียน ถ้ามีโอกาส ก็สนใจจะใช้เวลาสัก 3 - 4 วัน ไปท่องเที่ยว - พักผ่อน - ตามรอยประวัติศาสตร์สงครามโลกครั้งที่ 2 ตามสถานที่เหล่านั้น เพราะทั้งมีทัศนียภาพสวยงามและเต็มไปด้วยเรื่องราวที่น่าสนใจค่ะ.มรรษยวรินทร์ภาพประกอบทั้งหมด โดย มรรษยวรินทร์พิกัด สถานีรถไฟสะพานแควใหญ่ อำเภอเมือง กาญจนบุรีพิกัด สถานีรถไฟถ้ำกระแซ อำเภอไทรโยค กาญจนบุรีพิกัด สถานีรถไฟน้ำตก อำเภอไทรโยค กาญจนบุรีพิกัด น้ำตกไทรโยคน้อย อำเภอไทรโยค กาญจนบุรีส่องที่เที่ยว พิกัดลับห้ามพลาด มุมถ่ายรูปสวยที่ทรูไอดีคอมมูนิตี้